- คาเยนน์อวดโฉมอย่างยิ่งใหญ่ในงาน Festival of Speed
- คาเยนน์ อิเล็กทริค (Cayenne Electric) โชว์สมรรถนะครั้งแรก
- เปิดตัว คาเยนน์ แบล็ค เอดิชั่น (Cayenne Black Edition) รุ่นพิเศษ
- สัมผัสประสบการณ์ออฟโรดเต็มรูปแบบกับคาเยนน์รุ่นปัจจุบัน
คาเยนน์ (Cayenne) ยนตรกรรมรุ่นที่มีความหลากหลายที่สุดของปอร์เช่ (Porsche) ได้กลายเป็นจุดสนใจหลักในงาน Goodwood Festival of Speed 2025 อย่างยิ่งใหญ่ โดยหนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือการเผยโฉม คาเยนน์ อิเล็กทริค (Cayenne Electric) ที่แสดงให้เห็นศักยภาพด้านสมรรถนะอันน่าประทับใจเป็นครั้งแรกบนเนินเขาในตำนานของ กู๊ดวูด (Goodwood)
สตุ๊ทการ์ท/กู๊ดวูด. ภายในงานปอร์เช่ได้แสดงให้เห็นถึงความโดดเด่นของ คาเยนน์ ทั้งด้าน สมรรถนะ ความสะดวกสบาย และความสามารถในการลุยทุกเส้นทาง พร้อมสะท้อนทิศทางของยนตรกรรมในอนาคต โดย คาเยนน์ อิเล็กทริค จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในไลน์อัพ ที่วางจำหน่ายเคียงข้างเครื่องยนต์สันดาปและระบบไฮบริด อีกหนึ่งความพิเศษ คือการเปิดตัว คาเยนน์ แบล็ค เอดิชั่น (Cayenne Black Edition) รุ่นพิเศษ ที่พัฒนาบนพื้นฐานของ คาเยนน์เจเนอเรชันปัจจุบัน และเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกภายในงานนี้ นอกจากนี้ แขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนยังได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์ขับขี่ออฟโรดกับ คาเยนน์ รุ่นปัจจุบัน ในเส้นทางธรรมชาติรอบเมืองกู๊ดวูด (Goodwood) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและสมรรถนะรอบด้านของคาเยนน์ได้อย่างชัดเจน
คาเยนน์ อิเล็กทริค สร้างความตื่นตาตื่นใจบนเนินเขากู๊ดวูด
เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากสร้างสถิติใหม่ในการไต่เนินเขาที่สนามเชลสลีย์ วอลช์ (Shelsley Walsh) ประเทศอังกฤษ คาเยนน์ อิเล็กทริค รุ่นต้นแบบ ก็กลับมาดึงดูดสายตาจากผู้ชมอีกครั้งที่งาน Goodwood Festival of Speed โดยครั้งนี้มาพร้อมลวดลายพรางตัวอันโดดเด่น โดยมี กาเบรียลา ยิลโควา (Gabriela J?lkov?) นักขับจำลองและนักพัฒนารถแข่งจากทีม TAG Heuer Porsche Formula E Team เป็นผู้ขับ ยิลโควาเป็นผู้ทำลายสถิติเดิมในการแข่งขันไต่เนินเขาระยะทาง 914 เมตรที่สนามเชลสลีย์ วอลช์ ด้วยเวลาเพียง 31.28 วินาที ซึ่งเร็วกว่าสถิติเดิมกว่า 4 วินาที และถือเป็นสถิติใหม่สำหรับรถ SUV พลังงานไฟฟ้า
หัวใจสำคัญที่อยู่เบื้องหลังสมรรถนะเหนือระดับของรถต้นแบบคันนี้ คือระบบช่วงล่างอัจฉริยะ Porsche Active Ride ซึ่งถูกติดตั้งในเวอร์ชันใกล้เคียงกับรุ่นผลิตจริง ช่วยรักษาสมดุลของตัวถังในทุกสภาวะ ไม่ว่าจะเป็นการเบรกหนัก เข้าโค้ง หรือเร่งความเร็ว ส่งผลให้รถยึดเกาะถนนได้อย่างมั่นใจ พร้อมมอบความสบายในการขับขี่ ขณะเดียวกัน สมรรถนะด้านอัตราเร่งก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่าจับตา โดยต้นแบบ คาเยนน์ อิเล็กทริค สามารถพุ่งจากจุดหยุดนิ่งเป็นระยะทาง 60 ฟุต (18.3 เมตร) ได้ภายในเวลาเพียง 1.94 วินาที ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงขีดความสามารถที่เหนือชั้นของรุ่นผลิตจริงที่กำลังจะมาถึง
คาเยนน์ แบล็ค เอดิชั่น (Cayenne Black Edition) - สปอร์ต หรูหรา และสะดวกสบาย
คาเยนน์ เจเนอเรชันปัจจุบันยังคงดึงดูดทุกสายตาภายในงาน Goodwood Festival of Speed โดยเฉพาะการเปิดตัว คาเยนน์ แบล็ค เอดิชั่น รุ่นพิเศษใหม่ล่าสุด ที่ถ่ายทอดความลงตัวระหว่าง สมรรถนะ ความสง่างาม และความสะดวกสบาย ได้อย่างกลมกลืน รุ่นพิเศษนี้มีให้เลือกทั้งในเวอร์ชัน เอสยูวี (SUV) และ เอสยูวี คูเป้สุดหรู (SUV coupe) พร้อมเครื่องยนต์ 3 รูปแบบ โดยเน้นงานออกแบบภายนอกที่โดดเด่นด้วยรายละเอียดในโทนสีดำเงา (High-gloss Black) เช่น สเกิร์ตหน้าสไตล์ Sport Design กระจกมองข้าง และตราสัญลักษณ์รุ่นรถ ซึ่งสะท้อนเอกลักษณ์อันหรูหราของ คาเยนน์ แบล็ค เอดิชั่น ได้อย่างชัดเจน
ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุอะลูมิเนียมสีดำขัดลาย (Brushed-Black Aluminium) ที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์สปอร์ตพรีเมียม พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่จัดมาให้อย่างครบครัน อาทิ ไฟหน้าแบบ HD Matrix LED พร้อมกระจกกรองแสง, ระบบเสียงรอบทิศทาง BOSE(R) Surround Sound System, เบาะนั่ง Comfort ปรับไฟฟ้า 14 ทิศทาง พร้อมฟังก์ชันจดจำตำแหน่ง และล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว พร้อมฝาครอบดุมล้อ โลโก้ ปอร์เช่ ลูกค้ายังสามารถเลือกปรับแต่งรายละเอียดเพิ่มเติมได้ผ่าน Porsche Exclusive Manufaktur เพื่อให้เป็นคาเยนน์ที่สะท้อนตัวตนได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ปอร์เช่ยังได้นำเสนอรุ่นพิเศษ ไทคานน์ แบล็ค เอดิชั่น (Taycan Black Edition) เป็นครั้งแรกภายในงานนี้เช่นกัน
การผจญภัยแบบ Off-Road ในชนบทประเทศอังกฤษสุดคลาสสิก
ในระหว่างทัวร์ออฟโรดแบบมีผู้เชี่ยวชาญนำทาง แขกผู้เข้าร่วมงานที่กู๊ดวูดได้สัมผัสความสามารถของ คาเยนน์ รุ่นปัจจุบัน ในการลุยเส้นทางนอกเมืองได้อย่างมั่นใจ โดยเส้นทางเริ่มต้นที่ วิทยาลัย เวสต์ ดีน (West Dean College) มุ่งหน้าผ่านถนนฟาร์มสายต่างๆ ท่ามกลางเนินเขาอันสวยงามในภูมิประเทศแบบอังกฤษตอนใต้ของเส้นทางเซาท์ดาวน์ส (South Downs) ตลอดเส้นทาง คาเยนน์ ได้แสดงศักยภาพออฟโรดอันน่าทึ่ง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในจุดแข็งของรถรุ่นนี้มาตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในปี 2002 ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วงล่างแบบปรับได้ (Adaptive Suspension), ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อมาตรฐาน, โหมดขับขี่ออฟโรดหลายรูปแบบ และระยะความสูงจากพื้นใต้ท้องรถที่มากพอสำหรับการลุยเส้นทางท้าทาย ทุกองค์ประกอบล้วนตอกย้ำความเป็น SUV อเนกประสงค์ระดับพรีเมียม ที่พร้อมทั้งทางเรียบและทางลุย
จุดหมายจต่อไป: IAA Mobility เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี
คาเยนน์ อิเล็กทริค กำลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการพัฒนาเพื่อเตรียมผลิตจริง โดยมีกำหนดเผยโฉมสู่สาธารณะอีกครั้งที่งาน IAA Mobility 2025 ณ เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ในเดือนกันยายนนี้ โดย ปอร์เช่ จะไม่เพียงแค่นำเสนอรถต้นแบบเท่านั้น แต่ยังเตรียมเปิดตัวนวัตกรรมทางเทคนิคใหม่ล่าสุด ที่จะพลิกโฉมประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตให้ล้ำหน้าและสะดวกสบายยิ่งขึ้น