
'บมจ. อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์' หรือ ILM เปิดผลงานครึ่งปีแรก เดินหน้าฝ่ามรสุมเศรษฐกิจ โชว์กำไรสุทธิ 391.1 ล้านบาท กวาดรายได้รวม 4,768.6 ล้านบาท บอร์ดฯ ใจป้ำเคาะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล หุ้นละ 0.25 บาท คาดครึ่งปีหลังเศรษฐกิจยังฝืด แต่พร้อมปรับกลยุทธ์รับมือทุกความท้าทาย เตรียมเปิด Index Living Mall เชียงราย ช่วงไตรมาส 3 ต่อด้วย Little Walk สาขาถนนรามคำแหง รวมถึงเปิดร้าน Flying Tiger Copenhagen จำนวน 5 สาขา ภายในปีนี้
นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM ผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านครบวงจรในประเทศไทย เปิดเผยผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2568 ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงาน 4,768.6 ล้านบาท ส่งผลให้สามารถทำกำไรสำหรับงวดครึ่งปีแรกได้ที่ 391.1 ล้านบาท โดยเป็นการเติบโต 3.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำกำไรประจำงวดได้ 379.8 ล้านบาท
ขณะที่ ผลการดำเนินการไตรมาส 2/2568 (เมษายน-มิถุนายน 2568) ของบริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงาน 2,288.8 ล้านบาท ทำกำไรได้ 175.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% จากปี 2567 ที่ทำได้ 171.2 ล้านบาท
ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2568 จึงได้อนุมัติเสนอผู้ถือหุ้นพิจารณาการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล งวดผลการดำเนินงาน 1 มกราคม ถึง 30 มิถุนายน 2568 ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท โดยบริษัทฯ เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 26 สิงหาคม นี้ และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 กันยายน 2568
"ผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรก ทั้งกำไรและรายได้ที่บริษัทฯ ทำได้ ถือเป็นบทพิสูจน์ความแข็งแกร่งขององค์กร ที่ยืนหยัดท่ามกลางปัญหาภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวรุนแรง จากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ อันกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ประกอบกับการแข่งขันของสินค้านำเข้าราคาถูกผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซที่รุนแรงมากขึ้น ความซบเซาของภาคอสังหาริมทรัพย์ส่งผลต่อยอดขายหน้าร้านค้าปลีกและงานโครงการ แต่การปรับกลยุทธ์รอบด้านอย่างรวดเร็ว ทั้งในช่องทางออนไลน์ การพัฒนาสินค้าใหม่ๆ การปรับเพิ่มพื้นที่ให้เช่า รวมถึงการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้รักษาระดับความสามารถการทำกำไรได้ดีต่อเนื่อง" นางสาวกฤษชนก กล่าว
ในส่วนภาพรวมอุตสาหกรรมค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ช่วงครึ่งหลังของปี 2568 แม้จะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นและมีแรงหนุนจากกิจกรรมส่งเสริมการขาย แต่ประเมินว่ายอดขายในประเทศยังคงมีแนวโน้มจะเผชิญความกดดันไม่ต่างจากครึ่งปีแรก ผู้ประกอบการควรเน้นพัฒนาสินค้าที่มีฟังก์ชันครบในราคาจับต้องได้ ใช้ช่องทางออนไลน์ช่วยขาย รวมถึงใช้สื่อนำเสนอและการรีวิวกระตุ้นการตัดสินใจซื้อควบคู่ไปกับการจัดโปรโมชันด้วย ที่สำคัญคือต้องบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ ปรับกระบวนการผลิตให้คล่องตัว ลดสต็อก เพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขัน
สำหรับ ILM ได้เล็งเห็นปัญหาล่วงหน้า และมีการเตรียมความพร้อมของแผนธุรกิจในครึ่งปีหลังเพื่อรองรับไว้แล้ว โดยเตรียมที่จะเปิด Index Living Mall สาขาเชียงราย ในไตรมาส 3 ปีนี้ ทั้งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง Little Walk สาขาถนนรามคำแหง ซึ่งคาดว่าจะพร้อมเปิดบริการได้ภายในปีนี้เช่นกัน และยังมีข่าวดีจาก Flying Tiger Copenhagen แบรนด์ค้าปลีกไลฟ์สไตล์ชื่อดังจากเดนมาร์กที่ ILM คว้าสิทธิ์แฟรนไชส์มาได้นั้น ก็เตรียมจะเปิดร้านอย่างเป็นทางการ 5 สาขา ในศูนย์การค้าชั้นนำใจกลางเมืองภายในปีนี้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ก็มีการลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยีผ่านการพัฒนาระบบ RISE with SAP S/4HANA Cloud for Retail ให้เข้ามามีบทบาทในการพัฒนาทุกภาคส่วน ซึ่งจะช่วยยกระดับการบริหารจัดการภายใน ลดต้นทุน และรองรับการเติบโตในรูปแบบ Omni-Channel ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ก็เชื่อว่าจะสามารถผลักดันผลการดำเนินงานรวมตลอดปี 2568 เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ทั้งนี้ ILM ยึดมั่นในด้านการสร้างความยั่งยืนภายใต้กรอบ ESG ควบคู่กับการทำธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง โดยจัดทำโครงการและมาตรการที่เป็นรูปธรรมในหลายมิติ อาทิ ปรับปรุงระบบและส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน และได้ทำการเปลี่ยนระบบไฟ LED ปรับปรุงระบบทำความเย็น (Cooling Tower) ของสาขาชลบุรี ลดการใช้พลังงานและลดค่าบำรุงรักษาระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังร่วมกับลูกค้าและวัดจากแดงในโครงการแปรรูปพลาสติกเป็นเส้นใยสำหรับใช้ทอจีวรพระและผ้าบังสุกุลอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างพิสูจน์ถึงความตั้งใจจริงในการเป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมาย "Sustainable Living for Future Lifestyle" อย่างมั่นคง