JMART เผยครึ่งปีแรก กำไร 251 ล้านบาท ชูเจมาร์ท โมบาย ยอดพุ่ง สุกี้ตี๋น้อยส่งกำไรแรง เสริมทัพด้วยไฮไลท์ธุรกิจสินเชื่อมือถือโตเกินคาด

ข่าวทั่วไป Friday August 15, 2025 08:59 —ThaiPR.net

JMART เผยครึ่งปีแรก กำไร 251 ล้านบาท ชูเจมาร์ท โมบาย ยอดพุ่ง สุกี้ตี๋น้อยส่งกำไรแรง เสริมทัพด้วยไฮไลท์ธุรกิจสินเชื่อมือถือโตเกินคาด

กลุ่มเจมาร์ท (JMART) ครึ่งปีแรก 2568 โชว์ผลงานโดดเด่นจากธุรกิจมือถือที่เติบโตแข็งแกร่งผ่านเจมาร์ท โมบาย เสริมด้วย "สุกี้ตี๋น้อย" หนุนส่วนแบ่งกำไรจากการถือหุ้น และธุรกิจ สินเชื่อมือถือ ของ KB J Capital - SGC ที่ทำสถิติกำไรสูงสุด พร้อมต่อยอดโอกาสใหม่จากการรุกสินเชื่อ iPhone ด้าน JMT รักษาความเป็นผู้นำบริหารหนี้ด้อยคุณภาพด้วยพอร์ตทะลุ 5.68 แสนล้านบาท และ JAS Asset ขยายคอมมูนิตี้มอลล์-เสริมผู้เช่าหลักเพิ่มทราฟฟิก แม้บางธุรกิจในกลุ่มเผชิญแรงกดดัน แต่กลุ่มบริษัทยังมั่นใจครึ่งปีหลังจะเดินหน้าต่อยอด Synergy Ecosystem และสร้างการเติบโตต่อเนื่อง ยืนยันรักษาเครดิตสำคัญที่สุด คืนหนี้หุ้นกู้ตามนัด

นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART บริษัท Holding Company ที่มุ่งเน้นธุรกิจ Commerce Tech และ FinTech เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานรวมไตรมาส 2/2568 มีรายได้รวม 3,820 ล้านบาท เติบโต 14.3% ส่วนงวด 6 เดือนแรกมีรายได้รวม 7,548 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แรงหนุนหลักจากยอดขายมือถือที่เติบโตต่อเนื่องภายใต้เจมาร์ท โมบาย (Jaymart Mobile) โดย JMART มีกำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นไตรมาส 2 อยู่ที่ 111 ล้านบาท และ 251.3 ล้านบาทในงวด 6 เดือน แม้ปรับลดจากปีก่อนจากแรงกดดันในธุรกิจบริหารหนี้และบันทึกขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากการปรับมูลค่าสินทรัพย์ทางการเงินตามราคาตลาด (Unrealized Loss) ซึ่งหากไม่รวมการบันทึกดังกล่าว กำไรบริษัทยังคงแข็งแกร่ง สะท้อนศักยภาพธุรกิจหลักและการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนได้ต่อเนื่อง

และหนึ่งในไฮไลท์สำคัญคือ "สุกี้ตี๋น้อย" บริษัทที่ JMART ได้เข้าลงทุน 30% ยังคงเป็นธุรกิจเรือธงที่ทำกำไรอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากเงินปันผลและส่วนแบ่งกำไรอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจ Lock Phone เติบโตโดดเด่น โดย บริษัท เคบี เจ แคปปิตอล จำกัด (KBJ) ภายใต้โครงการ Samsung Finance+ ทำกำไรสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้ง ส่วนบริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (SGC) ภายใต้ SG Finance+ มีกำไรแตะ 104 ล้านบาท โดยแบรนด์ Samsung และ China Brand ครองมาร์เก็ตแชร์รวมราว 75% ของตลาดสมาร์ทโฟนในไทย และล่าสุด SGC อยู่ระหว่างทำ Sandbox เตรียมขยายสินเชื่อ Lock Phone ไปสู่กลุ่ม iPhone ซึ่งคาดว่าจะเป็นตัวเร่งการเติบโตของธุรกิจมือถือให้ก้าวกระโดดมากขึ้น ภายใต้กลยุทธ์ Synergy Ecosystem ที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งและขับเคลื่อนการเติบโตระยะยาว

นอกจากนี้ JMART ยังคงรักษาความมั่นใจของนักลงทุน ด้วยการเตรียมเงินพร้อมชำระคืนหุ้นกู้ 2,387 ล้านบาทในเดือนตุลาคม และมีแหล่งเงินทุนกว่า 2,235 ล้านบาท จากเงินสดในมือ เงินลงทุน และเงินปันผลจากบริษัทย่อย รวมถึงการต่ออายุหุ้นกู้และกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงิน สะท้อนฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง

สำหรับ บริษัทที่เข้าไปลงทุน นำโดยสุกี้ตี๋น้อยมีการเติบโตโดดเด่นต่อเนื่อง งวด 6 เดือนแรก ปี 2568 Suki Teenoi มีกำไรสุทธิ 582 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการถือหุ้น 30% คิดเป็น 169 ล้านบาท (หลังหักการปันส่วนราคาซื้อหรือ Purchase Price Allocation) ภาพรวมสาขา Suki Teenoi มีสาขารวมทั้งสิ้น 86 สาขา แบ่งเป็น Teenoi BBQ (บุฟเฟต์ปิ้งย่าง) 4 สาขา และ Teenoi Express (บุฟเฟต์พรีเมียม) 1 สาขา ในไตรมาส 2/2568 บริษัทได้เปิดสาขาเพิ่ม 4 สาขา โดยเป็นการขยายไปยังต่างจังหวัด ได้แก่ สกลนคร อยุธยา ราชบุรี และกาญจนบุรี ซึ่งล้วนเป็นทำเลศักยภาพสูง มีลูกค้าเข้าใช้บริการหนาแน่น และได้รับการตอบรับจากชุมชนเป็นอย่างดี นอกจากนี้ สุกี้ตี๋น้อยยังได้ร่วมมือกับ JAS Asset เปิด Teenoi BBQ เพิ่ม 2 สาขาในครึ่งปีแรก ได้แก่ JAS Green Village คู้บอน และ JAS URBAN ศรีนครินทร์ และวางแผนขยายสาขาต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ สุกี้ตี๋น้อยยังเตรียมเปิดตัวธุรกิจใหม่คาดเห็นความคืบหน้าเร็วๆ นี้

ด้าน บริษัท เจจีเอส ซินเนอรจี พาวเวอร์ จำกัด (JGS) คาดรายได้ปีนี้ทำได้ 70 ล้านบาท ขานรับนโยบายรัฐบาลประกาศนโยบายสิทธิประโยชน์ทางภาษีจูงใจผู้ประกอบการและภาคครัวเรือนลงทุนลดภาระค่าไฟ และส่งเสริมการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา (Solar Rooftop) ในบ้านอยู่อาศัย โดยสามารถหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 200,000 บาท เป็นธุรกิจที่คาดว่าจะมีโอกาสสร้างการเติบโตในอนาคต

นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 มีรายได้รวม 1,208.7 ล้านบาท และครึ่งปีแรกอยู่ที่ 2,793.6 ล้านบาท ลดลง 11.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากการจัดเก็บหนี้ด้อยคุณภาพที่ทรงตัวและรายได้ประกันภัยลดลง อย่างไรก็ดี บริษัทยังสามารถรักษากระแสเงินสดจากการจัดเก็บหนี้รวมบริษัทร่วม JK AMC ได้อย่างแข็งแกร่ง ครึ่งปีแรกอยู่ที่ 4,321 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน สะท้อนศักยภาพการบริหารพอร์ตหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในไตรมาสนี้ บริษัทตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิต (ECL) 259 ล้านบาทแบบอนุรักษ์นิยม มองความเสี่ยงไปข้างหน้า จากพอร์ตที่จัดเก็บต่ำกว่าประมาณการ โดยคาดว่าจะทยอยรับรู้กลับเมื่อการจัดเก็บกลับสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้กำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นไตรมาส 2 อยู่ที่ 246.5 ล้านบาท และครึ่งปีแรก 576.5 ล้านบาท ลดลง 32.8% และ 26.6% ตามลำดับ ขณะที่ JK AMC ทำกำไรสุทธิครึ่งปีแรก 288 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ยังเปราะบางและภาระหนี้ครัวเรือนสูง JMT ยังคงเดินหน้าลงทุนซื้อหนี้ตามแผน โดยครึ่งปีแรกได้ปิดดีลซื้อหนี้ก้อนใหญ่ในไตรมาส 2 มูลหนี้ประมาณ 20,000 ล้านบาท มุ่งเน้นหนี้ไม่มีหลักประกัน และมีแผนซื้อหนี้เพิ่มอีก 20,000 - 25,000 ล้านบาทในครึ่งปีหลัง ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพของประเทศ จากครึ่งปีแรกมีพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพรวมอยู่ที่ 568,428 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว อีกทั้ง บริษัทมั่นใจว่ากลยุทธ์การลงทุนเชิงรุกควบคู่กับการบริหารจัดเก็บหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้เติบโตต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง ขณะเดียวกันยังมีเงินในกระบวนการบังคับคดีที่เตรียมทยอยรับรู้กลับมา ทั้งจากบริษัทย่อย JAM และ JK AMC ซึ่งจะช่วยเสริมสภาพคล่องและสร้างผลตอบแทนในอนาคต

ด้าน นายสุพจน์ สิริกุลภัสสร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J เปิดเผยว่า ไตรมาส 2/2568 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 183.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.3% หนุนให้รายได้รวมงวด 6 เดือนแรกอยู่ที่ 350.7 ล้านบาท เติบโต 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับแรงหนุนจากการเปิดโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ใหม่ JAS Green Village ประเวศ และ JAS Green Village รามคำแหง ส่งผลให้กำไรขั้นต้นไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 5.9% แตะ 80.4 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี ผลประกอบการยังบันทึกขาดทุนสุทธิไตรมาส 2 จำนวน 101.4 ล้านบาท และงวด 6 เดือนขาดทุนสุทธิ 132.1 ล้านบาท พลิกจากกำไรในปีก่อน สาเหตุหลักมาจากต้นทุนดำเนินงานและค่าใช้จ่ายบุคลากรที่เพิ่มขึ้น รวมถึงขาดทุนจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน แต่บริษัทยังเดินหน้าปรับกลยุทธ์ควบคุมต้นทุน และต่อยอดศักยภาพโครงการปัจจุบันเพื่อสร้างการเติบโตในระยะต่อไป

โดยบริษัทมุ่งเน้นควบคุมต้นทุนในโครงการที่ไม่เป็นไปตามเป้า เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการภายใน และเสริมผู้เช่าหลักแบรนด์ที่ได้รับความนิยม เพื่อสร้างทราฟฟิก อาทิ EVEANDBOY ที่ The JAS รามอินทรา และ "ตี๋น้อย BBQ" ที่ The JAS Urban ศรีนครินทร์ ส่งผลให้โครงการ JAS Green Village คู้บอนมีอัตราเช่าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมทั้งเดินหน้าขยาย IT Junction ในทำเลศักยภาพ และต่อยอดธุรกิจศูนย์ดูแลผู้สูงวัยที่เติบโตต่อเนื่อง เพื่อสร้างฐานรายได้มั่นคง รองรับการฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง ภายใต้กลยุทธ์มุ่งเสริมความแข็งแกร่งของสินทรัพย์ที่มีอยู่ และยังคงมั่นใจว่าระยะยาวบริษัทจะสามารถกลับมาสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นอีกครั้ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ