CIVIL เผยผลประกอบการครึ่งปีแรก 2568 รายได้รวม 2,244 ล้านบาท กำไรสุทธิ 22 ล้านบาท ส่งมอบงานสำเร็จ 9 โครงการ ทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง รุกประมูลงานเติม Backlog รับมือความท้าทาย เน้นบริหารต้นทุนรัดกุม รักษาการรับรู้รายได้สม่ำเสมอ
นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL ผู้นำบริษัทก่อสร้างครบวงจรชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2568 บริษัทมีรายได้รวม 2,244 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,308 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิ 22 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 46 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการช่วงไตรมาส 2/2568 บริษัทมีรายได้รวม 1,118 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,278 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิ 14 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 20 ล้านบาท
สาเหตุที่ผลประกอบการปรับตัวลดลง เนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวส่งผลให้การส่งมอบงานและการรับรู้รายได้หลายโครงการล่าช้ากว่ากำหนด โดยบริษัทตรวจสอบความปลอดภัยอย่างเป็นระบบทุกขั้นตอน เพื่อควบคุมความเสี่ยงและผลักดันให้โครงการกลับมาดำเนินงานได้ตามแผนโดยเร็ว ประกอบกับ บริษัทมีหลายโครงการที่อยู่ในช่วงเริ่มต้น (S-Curve) โดยจะทยอยรับรู้รายได้ตามความสำเร็จของงานในระยะถัดไป และบางโครงการใกล้แล้วเสร็จ ซึ่งมีการรับรู้รายได้แล้วเป็นส่วนใหญ่ ส่งผลให้ช่วงเวลาดังกล่าวมีสัดส่วนงานก่อสร้างที่สามารถรับรู้รายได้น้อยลง
อย่างไรก็ตาม ช่วงครึ่งปีแรกบริษัทส่งมอบงานโครงการขนาดเล็กได้สำเร็จ 9 โครงการ ซึ่งช่วยชะลอผลกระทบจากรายได้ในโครงการขนาดกลางและใหญ่ที่เลื่อนออกไป สะท้อนถึงกลยุทธ์ของบริษัทในการกระจายความเสี่ยงผ่านการผสมผสานโครงการก่อสร้างในหลากหลายขนาด เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและความต่อเนื่องในการรับรู้รายได้
สำหรับทิศทางธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง 2568 บริษัทยังคงรับรู้รายได้จากโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินงาน อย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าประมูลโครงการขนาดใหญ่เพิ่มเติม จากการเร่งอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 และการเตรียมความพร้อมของงบประมาณปี 2569 ทั้งในโครงการรถไฟทางคู่, รถไฟความเร็วสูง, สนามบิน รวมถึงโครงการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP)
"ปีนี้ถือเป็นปีที่ท้าทาย ทั้งด้านสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ และความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอก อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมุ่งเน้นพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน ควบคู่กับการบริหารต้นทุนอย่างรัดกุม เพื่อรักษาเสถียรภาพของธุรกิจ และเพิ่มโอกาสในการเข้าร่วมประมูลงานภาครัฐอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการเติบโตของ Backlog ในระยะยาว ทั้งนี้ บริษัทเชื่อมั่นว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะมีสัญญาณการปรับตัวดีขึ้น" นายปิยะดิษฐ์ กล่าว