โรงไฟฟ้า BLCP จับมือภาครัฐ องค์กรธุรกิจและเอกชนไทย-นานาชาติ หนุนวิจัยพัฒนาเทคโนโลยี สร้างนวัตกรรมเสริมเสถียรภาพความมั่นคงทางพลังงาน พร้อมยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย ดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างยั่งยืน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday August 25, 2025 13:33 —ThaiPR.net

โรงไฟฟ้า BLCP จับมือภาครัฐ องค์กรธุรกิจและเอกชนไทย-นานาชาติ หนุนวิจัยพัฒนาเทคโนโลยี สร้างนวัตกรรมเสริมเสถียรภาพความมั่นคงทางพลังงาน พร้อมยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย ดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างยั่งยืน

บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด (BLCP) ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับหน่วยงานภาครัฐ องค์กรธุรกิจ และภาคเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อขับเคลื่อนงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมด้านเทคโนโลยีพลังงาน สร้างความมั่นคงของระบบไฟฟ้า ควบคู่ไปกับการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย การดูแลสิ่งแวดล้อม และการสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชน

นายยุทธนา เจริญวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด กล่าวถึงการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมถือเป็นพันธกิจหลักของบริษัทมาโดยตลอดว่า เพื่อให้การผลิตไฟฟ้ามีประสิทธิภาพสูงสุดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ควบคู่ไปกับการสร้างนวัตกรรมในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) นั้นBLCP ได้เริ่มดำเนินโครงการวิจัยและพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมตั้งแต่เริ่มก่อตั้งโรงไฟฟ้า เพื่อมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตไฟฟ้า เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้โดยพัฒนาปรับปรุงการเผาไหม้ถ่านหินบิทูมินัสคุณภาพสูงอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดของเสียจากกระบวนการผลิต การจัดการน้ำอย่างยั่งยืนโดยใช้เทคโนโลยีแปลงน้ำทะเลเป็นน้ำจืดเพื่อใช้ในกระบวนการผลิตและหมุนเวียนใช้ภายในโรงไฟฟ้า 100% การบำบัดน้ำเสียก่อนนำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อลดผลกระทบต่อแหล่งน้ำจืดในพื้นที่ การทดลองเชื้อเพลิงร่วมผ่านการศึกษาและทดสอบการใช้เชื้อเพลิงทางเลือก เช่น แอมโมเนีย และชีวมวล (Biomass) ร่วมกับการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน เพื่อลดปริมาณการใช้ถ่านหิน แม้จะมีต้นทุนสูงขึ้นในระยะแรก แต่บริษัทฯ มุ่งหวังว่าการวิจัยนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ราคาเชื้อเพลิงทางเลือกสมเหตุสมผลต่อการใช้งานในระยะยาว

โรงไฟฟ้า BLCP จับมือภาครัฐ องค์กรธุรกิจและเอกชนไทย-นานาชาติ หนุนวิจัยพัฒนาเทคโนโลยี สร้างนวัตกรรมเสริมเสถียรภาพความมั่นคงทางพลังงาน พร้อมยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย ดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างยั่งยืน

ด้านการใช้เทคโนโลยีควบคุมและจัดการสิ่งแวดล้อมนั้น โรงไฟฟ้า BLCP ให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพอากาศตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวด ด้วยการติดตั้งและพัฒนาระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อจัดการมลพิษหลัก 3 ชนิด ได้แก่ ไนโตรเจนไดออกไซด์ (NOx) ควบคุมอุณหภูมิของหัวเผา (Burner) เพื่อป้องกันการเกิดก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO?) ควบคุมคุณภาพถ่านหินให้มีปริมาณซัลเฟอร์ไม่เกินมาตรฐาน พร้อมติดตั้งเครื่องดักจับก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (Flue Gas Desulphurization: FGD) เพื่อดักจับก๊าซส่วนที่เหลือ และฝุ่นละออง ซึ่งมีการใช้เครื่องดักจับฝุ่นระบบไฟฟ้าสถิตย์ (Electrostatic Precipitator: ESP) ในการดักจับฝุ่นก่อนปล่อยสู่บรรยากาศ รวมถึงยังได้มีการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดอากาศอัตโนมัติแบบต่อเนื่อง (Continuous Emission Monitoring System: CEMS) ที่ปล่องระบายความสูง 200 เมตร และมีสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ (Air Quality Monitoring Station: AQMS) 4 แห่งรอบโรงไฟฟ้า เพื่อเฝ้าระวังคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์อีกด้วย

นอกจากนั้นยังได้ร่วมมือกับหน่วงงานภาครัฐและพันธมิตรเพื่อการพัฒนาในอนาคตอีกหลายโครงการ ทั้งด้านการสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องกับหลากหลายองค์กร อาทิ ความร่วมมือกับพันธมิตรระดับนานาชาติอย่าง JERA, Mitsubishi Corporation และ Mitsubishi Heavy Industries ภายใต้การสนับสนุนจากกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (METI) ในโครงการศึกษาการใช้ แอมโมเนียคาร์บอนต่ำ เป็นเชื้อเพลิงร่วมในการผลิตไฟฟ้า โครงการวิจัยนวัตกรรมจุลสาหร่ายเพื่อบำบัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ ร่วมกับ Algal Bio ประเทศญี่ปุ่น วิจัยนวัตกรรมจุลสาหร่ายเพื่อบำบัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ

ส่วนความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนภายในประเทศนั้น ได้แก่ ความร่วมมือกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.): วิจัยการใช้ชีวมวลร่วมกับถ่านหิน และสร้างผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มจากของเหลือทิ้ง เช่น การผลิตเจลสำหรับผู้ป่วยและการผลิตเมทานอลจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ความร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.): ร่วมมือในโครงการวิจัยเชื้อเพลิงชีวมวล (Biomass) โครงการวิจัยการนำขี้เถ้าจากโรงไฟฟ้าไปผลิตเป็นคอนกรีตคุณภาพสูงร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำหรับความร่วมมือกับภาคเอกชนนั้น ได้ร่วมลงนามความร่วมมือกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในการจัดหาแอมโมเนียคาร์บอนต่ำสำหรับเป็นเชื้อเพลิงร่วมในโรงไฟฟ้า ลดคาร์บอนในการผลิตไฟฟ้า หนุนเป้าหมาย Net Zero และยังได้ร่วมกับ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ในการศึกษาโครงการนำร่องการดักจับและกักเก็บคาร์บอนในทะเล (Carbon Capture) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำคัญสำหรับพื้นที่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่อีกด้วย

นายยุทธนา ยังได้กล่าวถึง ความมุ่งหวังและเป้าหมายของการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมของ BLCP ว่า ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงเป้าหมายระยะสั้นเท่านั้น แต่เชื่อว่าโครงการต่างๆ เหล่านี้จะถูกพัฒนาและต่อยอดต่อไปได้ในอนาคต เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งให้กับประเทศไทย ทั้งในด้านการผลิตไฟฟ้า การพัฒนาสิ่งแวดล้อม และการสร้างความยั่งยืนร่วมกับสังคมและชุมชนต่อไปในระยะยาว"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ