นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพฯ จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน 'คาจิกิ' ในช่วงระหว่างวันที่ 24-28 ส.ค. 68 รวมทั้งแผนฉุกเฉินรองรับสถานการณ์ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนว่า สนน. ได้เตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำของ กทม. เพื่อรองรับสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพฯ จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน 'คาจิกิ' ระหว่างวันที่ 24-28 ส.ค. 68 ประกอบด้วย แผนการเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม กทม. ปี 2568 อาทิ จัดเตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำและสถานีสูบน้ำของ กทม. เช่น อุโมงค์ระบายน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่ง สถานีสูบน้ำ 200 แห่ง ประตูระบายน้ำ 243 แห่ง และบ่อสูบน้ำที่ระบายน้ำช่วยในท่อ 349 แห่ง พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ควบคุมสถานีสูบน้ำ อุโมงค์ระบายน้ำและบ่อสูบน้ำตลอด 24 ชั่วโมง ลดระดับน้ำในแก้มลิงให้อยู่ในระดับต่ำตามแผนปฏิบัติการฯ ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการเร่งด่วนเคลื่อนที่ (BEST) เข้าพื้นที่ขณะที่มีฝนเริ่มตก ตรวจสอบเร่งระบายน้ำตามจุดที่มีปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่จุดเสี่ยง จุดเฝ้าระวังและบริเวณทางอุโมงค์ทางลอดต่าง ๆ จัดเก็บขยะหน้าตะแกรงช่องรับน้ำฝน ขยะหน้าตะแกรงหน้าสถานีสูบน้ำ จัดเก็บขยะวัชพืชที่กีดขวางทางน้ำเพื่อให้ไหลได้สะดวกรวดเร็ว รวมถึงการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมขัง จัดเตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักร เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองประจำสถานีสูบน้ำกรณีไฟฟ้าขัดข้อง เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ (โมบายยูนิต) รถเครน รถบรรทุกติดตั้งเครนยกไฮโดรลิค บอลลูนไลท์ เครื่องมือ และอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อติดตั้งและตรวจสอบแก้ไขเครื่องสูบน้ำเครื่องผลักดันน้ำ และการจัดเตรียมน้ำมันเชื้อเพลิงให้เพียงพอสำหรับเครื่องสูบน้ำ
ขณะเดียวกันได้บูรณาการร่วมกับสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่ภายในสำนักงานเขต ทั้ง 50 เขต เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุน้ำท่วม หรืออื่น ๆ โดยประสานหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องสนับสนุนปฏิบัติการฯ เช่น จัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ รถยก รถดับเพลิง อุปกรณ์กู้ภัย เครื่องมือและอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย รถสายตรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือรับส่งประชาชนในจุดที่มีปัญหาน้ำท่วมขังระดับสูง รวมถึงเจ้าหน้าที่เทศกิจเข้าช่วยเหลือประชาชนและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร จัดเตรียมความพร้อมอุปกรณ์ เครื่องมือ/เครื่องจักร รวมถึงช่วยซ่อมแซมเครื่องยนต์ รถยนต์ของประชาชนที่เกิดจากระดับน้ำท่วมสูง หรือเครื่องยนต์ขัดข้องบนท้องถนนอย่างทันท่วงที ตลอดจนประสานการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น กระแสไฟฟ้าดับ หรือขัดข้องสามารถจัดส่งหน่วยบริการเข้าแก้ไขได้ในทันที เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการทำงานของเครื่องสูบน้ำ สถานีสูบน้ำ และอุโมงค์ระบายน้ำของ กทม.
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์ฝน สภาพอากาศ และข้อมูลสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ แบบเรียลไทม์ผ่านแฟลตฟอร์มต่าง ๆ ของ กทม. เพื่อให้สามารถวางแผนการเดินทางและหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง รวมถึงช่องทางแจ้งเหตุ เพื่อขอรับความช่วยเหลือ หากประชาชนประสบเหตุสาธารณภัยที่เกิดขึ้นจากน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ที่เว็บไซต์ https://dds.bangkok.go.th และ https://pr-bangkok.com หรือเพจเฟซบุ๊ก Facebook:@BKK.BEST กรุงเทพมหานคร หรือ X : @BKK_BEST กรุงเทพมหานคร โทร. 0 2248 5115 หรือแจ้งผ่านแอปพลิเคชัน Traffy Fondue รวมทั้งสามารถติดตาม พยากรณ์ฝนในพื้นที่กรุงเทพฯ ล่วงหน้า 3 ชั่วโมง โดยใช้ระบบ AI Nowcast ผ่านทางhttps://dds.bangkok.go.th/nowcast/