เทศกาลภาพยนตร์เมืองพัทยาครั้งที่ 3 "PATTAYA FILM FESTIVAL 2025" ปิดฉากลงอย่างยิ่งใหญ่ท่ามกลางบรรยากาศคึกคัก ผู้เข้าร่วมงานทั้งคนไทยและต่างชาติแห่เข้าชมกิจกรรมอย่างล้นหลาม ตอกย้ำความสำเร็จของการจัดงานที่ไม่เพียงสร้างความสุขให้ผู้เข้าร่วม แต่ยังเป็นอีกก้าวสำคัญของการผลักดันเมืองพัทยาสู่เวทีโลกในฐานะ "เมืองสร้างสรรค์ด้านภาพยนตร์" ของยูเนสโก
ภายในงานตลอด 3 วัน มีผู้เข้าร่วมชมภาพยนตร์และกิจกรรมคับคั่ง สะท้อนถึงพลังของซอฟต์พาวเวอร์ไทยในการดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นจัดฉายภาพยนตร์นานาชาติและภาพยนตร์ไทย ผ่านโรงภาพยนตร์ชั้นนำในเครือ SF Cinema และจัดฉายภาพยนตร์กลางแปลงแบบย้อนยุค รวม 32 เรื่อง ผ่าน 4 จุดไฮไลท์ทั่วเมืองพัทยา ซึ่งกลายเป็นอีกหนึ่งสีสันสำคัญที่เชื่อมโยงศิลปะภาพยนตร์เข้ากับวิถีชีวิตของชุมชน
นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า ความสำเร็จของเทศกาลครั้งนี้เป็นเครื่องยืนยันว่า พัทยามีศักยภาพที่จะก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์ระดับภูมิภาคได้อย่างแท้จริง เทศกาลนี้ไม่เพียงเป็นเวทีที่นำเสนอผลงานคุณภาพ แต่ยังช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างโอกาสในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน
โดยความสำเร็จที่โดดเด่นในปีนี้ มีกิจกรรมที่เกิดขึ้นมากมาย ประกอบด้วย
- Red Carpe พิธีเปิดเทศกาลอย่างยิ่งใหญ่ ที่มีผู้กำกับภาพยนตร์ชั้นนำทั้งในไทย และจากต่างประเทศรวมถึงนักร้อง นักแสดง เข้าร่วมงานคับคั่ง
- Film Trip สำรวจโลเคชันถ่ายทำจริงในพัทยาดึงศักยภาพเมืองสู่สายตากองถ่ายต่างชาติ
- Masterclass และเสวนาถ่ายทอดประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้า จุดประกายคนรุ่นใหม่
- การจัดฉายภาพยนตร์ เข้าชมฟรี รวม 32 เรื่อง ทั้งในโรงภาพยนตร์และกลางแจ้ง
- ชุมชนท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมผ่านบูธอาหารและสินค้าพื้นเมือง ช่วยสร้างรายได้และโอกาสทางเศรษฐกิจ
- ผู้เข้าร่วมงานหลากหลายชาติร่วมดื่มด่ำกับบรรยากาศศิลปะและวัฒนธรรมของพัทยาซึ่งเปรียบเสมือนการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างผู้สร้างภาพยนตร์ไทยและนานาชาติ สร้างรากฐานสำคัญต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมในอนาคต
"การจัดงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองพัทยาครั้งที่ 3 "PATTAYA FILM FESTIVAL 2025" จึงไม่เพียงตอกย้ำความตั้งใจจริงของเมืองพัทยาในการยกระดับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ แต่ยังสะท้อนถึงพลังซอฟต์พาวเวอร์ที่พร้อมจะผลักดันประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านศิลปะและความบันเทิงในระดับโลกอย่างแท้จริง" นายปรเมศวร์ กล่าว