ลุยน้ำ ย่ำโคลน เสี่ยง เลปโตสไปโรสิส (โรคไข้ฉี่หนู) สคร. 12 สงขลา เตือน มีไข้ ปวดน่อง อย่าซื้อยาทานเอง ให้รีบพบแพทย์

ข่าวทั่วไป Tuesday September 2, 2025 14:30 —ThaiPR.net

ลุยน้ำ ย่ำโคลน เสี่ยง เลปโตสไปโรสิส (โรคไข้ฉี่หนู) สคร. 12 สงขลา เตือน มีไข้ ปวดน่อง อย่าซื้อยาทานเอง ให้รีบพบแพทย์

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) เตือนประชาชน ระวัง โรคเลปโตสไปโรสิส (โรคไข้ฉี่หนู) โดยเฉพาะพื้นที่น้ำท่วมขัง หลังน้ำลด ไม่ควรเดินลุยน้ำ ย่ำดินโคลน พื้นที่ชื้นแฉะด้วยเท้าเปล่า หรือแช่น้ำเป็นเวลานาน แนะสวมรองเท้าบูททุกครั้ง หากมีไข้เฉียบพลันหลังลุยน้ำ 1-2 สัปดาห์ มีอาการปวดศีรษะ ปวดน่องและกล้ามเนื้อโคนขา อย่าซื้อยากินเอง ให้รีบไปพบแพทย์ทันที

โรคเลปโตสไปโรสิส (Leptospirosis) หรือโรคไข้ฉี่หนู เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย "เลปโตสไปร่า" (Leptospira) เข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล รอยขีดข่วน รอยถลอกตามผิวหนัง เยื่อบุตา จมูก ปาก หรือชอนไชเข้าทางผิวหนังที่แช่น้ำเป็นเวลานาน โรคไข้ฉี่หนูมักระบาดช่วงหน้าฝน โดยเฉพาะหลังน้ำลด กลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อคือเกษตรกรที่ต้องเดินลุยน้ำ หรือพื้นดินชื้นแฉะที่ปนเปื้อนปัสสาวะสัตว์ ได้แก่ หนู วัว ควาย หมู สุนัข แพะ รวมทั้งผู้ที่ทำงานในฟาร์มเลี้ยงสัตว์/โรงฆ่าสัตว์/ผู้ที่ชำแหละสัตว์ที่มีเชื้อโรคฉี่หนู ผู้ที่หาปลาในช่วงหน้าฝน และผู้ประสบภัยน้ำท่วม นอกจากนี้ ยังอาจติดต่อได้จากการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อน ทำให้ป่วยโรคนี้ได้

ลุยน้ำ ย่ำโคลน เสี่ยง เลปโตสไปโรสิส (โรคไข้ฉี่หนู) สคร. 12 สงขลา เตือน มีไข้ ปวดน่อง อย่าซื้อยาทานเอง ให้รีบพบแพทย์

นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กล่าวว่า ขอให้ประชาชนระวังป่วยด้วยโรคเลปโตสไปโรสิส (โรคไข้ฉี่หนู) โดยอาการที่สำคัญ คือ มีไข้สูง หลังลุยน้ำ 1-2 สัปดาห์ ปวดศีรษะ ปวดน่องและกล้ามเนื้อโคนขา มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ตาแดง หากมีอาการดังกล่าวขอให้รีบไปพบแพทย์ทันที เน้นย้ำ แจ้งประวัติการแช่น้ำ เดินลุยน้ำให้แพทย์ทราบ ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่เสียชีวิตส่วนใหญ่ มักจะซื้อยากินเอง หรือไปพบแพทย์ช้า

การป้องกันโรคไข้ฉี่หนู หลีกเลี่ยงการลุยน้ำในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง ย่ำโคลน หรือพื้นที่ชื้นแฉะ ด้วยเท้าเปล่า เนื่องจาก หนู วัว ควาย หมู สุนัข แพะ อาจจะมาปัสสาวะไว้ ทำให้มีปริมาณเชื้อเข้มข้น โดยเฉพาะเมื่อมีบาดแผล รอยถลอก ขีดข่วน เชื้อโรคสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย ควรสวมรองเท้าบูท ถุงมือ หรือชุดป้องกัน สำหรับเกษตรกรที่สัมผัสมูลสัตว์หรือสิ่งสกปรก ควรล้างมือ ล้างเท้า อาบน้ำชำระร่างกายทันทีหลังเสร็จจากการทำงาน นอกจากนี้ ควรรักษาความสะอาดบริเวณบ้านเรือน กำจัดขยะเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งอาหารของหนู เก็บอาหารและน้ำดื่มให้มิดชิด ป้องกันไม่ให้หนูปัสสาวะใส่ ควรดื่มน้ำต้มสุก และกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ กรณีที่จับหรือสัมผัสเนื้อสัตว์ ซากสัตว์ หรือสัตว์ทุกชนิด ให้รีบล้างมือด้วยสบู่ หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ