
สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ลงพื้นที่อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น เดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายให้เติบโตอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม วางแนวทางลดเผาอ้อย สอดรับนโยบายรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา PM 2.5 และตอบโจทย์เทรนด์การค้าโลก ที่ได้นำประเด็นสิ่งแวดล้อมเข้ามามีบทบาทในการกีดกันทางการค้า
นายประสิทธิ์ วงษาเทียม รองเลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า ภายใต้แนวคิด MIND "อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายเติบโต กระจายรายได้ เคียงคู่ชุมชน และสิ่งแวดล้อมที่ดี" สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายจึงได้ดำเนินกิจกรรมประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างการรับรู้ความเข้าใจให้สาธารณชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องถึงการมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสังคมของระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายมาอย่างต่อเนื่อง และยังก่อให้เกิดแรงจูงใจในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเกษตรกรชาวไร่อ้อยในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว และการปรับตัวเพื่อประกอบธุรกิจให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายเติบโตอย่างมั่งคั่ง ยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจของเกษตรกรและโรงงานน้ำตาลทำให้ในฤดูการผลิตปี 2567/68 ที่ผ่านมา มีอ้อยสดเข้าหีบสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 85.14% มีอ้อยเผาต่ำสุดที่ 14.86% ในแบบที่ไม่เคยทำได้มาก่อน ประชาชนได้ขอบคุณที่อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลได้เข้ามามีส่วนร่วมในดูแลสิ่งแวดล้อม และรับผิดชอบต่อสังคม นอกจากนี้ การโอนเงินช่วยเหลือชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสด 100% สำเร็จแล้วกว่า 93% ส่วนอีก 7% ที่ยังไม่ได้รับเงิน สอน. ได้เร่งดำเนินการเพื่อให้สามารถรับเงินผ่านแอป "ทางรัฐ" โดยเร็วต่อไป
นายประสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวทางที่จะให้ตัวเลขการเผาอ้อยลดลง อาทิเช่น สร้างมูลค่าเพิ่มใบและยอดอ้อย การเพิ่มมูลค่าใบอ้อยเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพ สนับสนุนการรวมกลุ่มชาวไร่อ้อยเพื่อจัดหาเครื่องจักรกลการเกษตรมาใช้ในไร่อ้อยเพิ่มขึ้น รวมถึงสินเชื่อสีเขียวเพื่อเกษตรกรชาวไร่อ้อย สำหรับจัดการแหล่งน้ำ ซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรในไร่อ้อย เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อย และแก้ไขปัญหา PM 2.5 ครม. เห็นชอบให้ดำเนินการโครงการต่อ เป็นเฟสที่ 4 ปี 2568 - 2570 กรอบวงเงินปีละ 2,000 ล้านบาท รวม 3 ปี เป็นเงิน 6,000 ล้านบาท รัฐชดเชยดอกเบี้ยกับ ธ.ก.ส. และชาวไร่อ้อยจ่ายดอกเบี้ย 2% เท่าเดิม
"ผมหวังว่าแนวทาง/มาตรการแก้ไขปัญหาอ้อยต่าง ๆ จะสามารถสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรและโรงงานน้ำตาลร่วมมือกับภาครัฐ ในการลดเผาอ้อย ลด PM 2.5 และมีตัวเลขการเผาอ้อยในฤดูการผลิตที่จะถึงนี้ต่ำกว่าเดิม สอดรับกับเป้าหมายของรัฐบาลที่จะมุ่งให้ไทยมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี พ.ศ. 2608" นายประสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย