
ซัมซุง เปิดตัว Galaxy Buds Core หูฟังไร้สายที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ทุกคน ชูจุดเด่นด้านประสิทธิภาพเสียงที่บาลานซ์ รักษาคุณภาพเสียงแบบปราศจากเสียงรบกวนด้วยระบบตัดเสียงรบกวน ANC สวมใส่กระชับสบาย ให้ผู้ใช้ควบคุมการใช้งานและสั่งการได้อย่างง่ายดาย พร้อมการเชื่อมต่อที่เสถียร ในราคาที่เข้าถึงได้
เอาใจคนชอบฟังเพลงด้วย Galaxy Buds Core ที่ได้รับการออกแบบปรับจูนเสียงมาอย่างพิถีพิถัน ตอบโจทย์โดนใจทั้งเสียงสูงที่ดังใสและเบสลุ่มลึก ให้เสียงเต็มอรรถรสทุกการฟัง สวมใส่สบายด้วยปลายซิลิโคนที่ช่วยลดแรงกดบริเวณหู ไม่ว่าจะฟังเพลงพักผ่อนอยู่บ้านหรือวิ่งออกกำลังกายที่สวน ก็สามารถสวมใส่ได้ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังทนทานต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ตามมาตรฐาน IP54 ที่สามารถป้องกันฝุ่นและน้ำได้เป็นอย่างดี
ด้านการติดต่อสื่อสาร ไม่ว่าจะคุยสายกับเพื่อนและครอบครัว หรือประชุมงาน ก็ใช้งานได้สะดวก เพราะ Galaxy Buds Core ช่วยให้การสื่อสารพูดคุยฟังชัดยิ่งขึ้น ด้วยไมโครโฟนสามตัวที่ทำงานร่วมกันอย่างแม่นยำ จับเสียงพูดของผู้ใช้พร้อมส่งเสียงไปถึงปลายทางได้อย่างชัดเจน
ซัมซุงมุ่งมั่นที่จะทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึง AI ได้ง่ายมากขึ้น ผ่านประสบการณ์การใช้งาน Galaxy AI ที่ดียิ่งขึ้นบน Galaxy Buds Core ที่ปัจจุบันรองรับฟีเจอร์ Interpreter ช่วยฟังและให้คำแปลได้ทันทีแบบเรียลไทม์ในโหมดสนทนา (Conversation Mode) โดยไม่ต้องมองหน้าจอสมาร์ทโฟน เพียงสวมหูฟัง[1] ไว้ ก็พร้อมสนทนาได้ทันทีอย่างลื่นไหล
นอกจากนี้ Galaxy Buds Core ยังเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของผู้ใช้ได้ง่ายและรวดเร็ว เพราะมีฟีเจอร์ Auto Switch[2] ที่จะตรวจจับกิจกรรมเสียงโดยอัตโนมัติและสลับการเชื่อมต่ออย่างลื่นไหลจากสมาร์ทโฟน Galaxy ของผู้ใช้ไปยัง Galaxy Tab รวมทั้งยังสะดวกในการค้นหา หากเผลอทำหูฟังตกหล่นในซอกโซฟา ก็สามารถติดตามตำแหน่งได้ง่าย ๆ ด้วยฟีเจอร์ Samsung Find[3]
ส่วนการดีไซน์ Galaxy Buds Core มีให้เลือกตอบโจทย์กับลุคและการใช้งานในชีวิตประจำวันตามไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ โดยมีให้เลือกสองสี คือ สีดำและสีขาว[4]
การวางจำหน่าย
Galaxy Buds Core พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีขาว ในราคา 1,490 บาท ที่ Samsung Experience Store และร้านค้าที่เข้าร่วมรายการ หรือสั่งซื้อออนไลน์ทาง Samsung.com
[1] ฟีเจอร์แปลเสียงใช้งานได้เฉพาะเมื่อสวมใส่ Samsung Galaxy Buds และเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy เท่านั้น ฟีเจอร์ Interpreter ไม่ได้ทำงานโดยตรงจากตัว Samsung Galaxy Buds หากไม่มีการใช้งาน Samsung Galaxy Buds เนื้อหาที่แปล จะแสดงบนหน้าจอสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy ของผู้ใช้
[2] ฟีเจอร์ Auto Switch ใช้งานได้เฉพาะกับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต Samsung Galaxy ที่ใช้ One UI 3.1 หรือเวอร์ชันใหม่กว่า และกับ Galaxy Watch4 หรือใหม่กว่า โดยอุปกรณ์ต้องเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Samsung เพื่อเปิดใช้งาน Auto Switch รวมทั้งฟีเจอร์บางอย่างของ Auto Switch อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละอุปกรณ์
[3]การให้บริการอาจแตกต่างกันตามประเทศ ภูมิภาค เครือข่าย โดยฟังก์ชัน Samsung Find อาจต่างกันตามสภาพแวดล้อมที่รองรับ และข้อกำหนดอาจแตกต่างกันตามผลิตภัณฑ์ แอป Samsung Find สามารถดาวน์โหลดได้จาก Galaxy Store โดยอุปกรณ์ต้องเปิดเครื่องและเข้าสู่ระบบบัญชี Samsung สำหรับฟีเจอร์ค้นหาออฟไลน์สำหรับ Samsung Galaxy Watch และ Samsung Galaxy Buds สามารถเปิดใช้งานได้ในแอป Galaxy Wearable ซึ่งการตั้งค่าค้นหาออฟไลน์ของโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตที่เชื่อมต่อจะถูกนำมาใช้กับ Samsung Galaxy Watch และ Samsung Galaxy Buds ด้วย
[4] สีที่มีให้เลือกอาจแตกต่างกันตามประเทศหรือผู้ให้บริการเครือข่าย