
- มูลค่าส่งออกเดือน ส.ค. เติบโต 5.8%YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนที่ 11.0%YoY โดยการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมยังคงขยายตัวต่อเนื่อง สวนทางกับสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ที่กลับมาหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน ขณะที่การส่งออกไปตลาดหลักส่วนใหญ่ยังขยายตัว ด้านการนำเข้าเร่งตัวจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ 15.8%YoY ทำให้ดุลการค้ากลับมาขาดดุล -1,964.4 ล้านดอลลาร์ฯ
- Krungthai COMPASS มองโมเมนตัมของการเร่งส่งออกเผ่วลงชัดเจนขึ้น สะท้อนจากการส่งออกเดือน ส.ค. ที่หดตัว 2.9%MoM ติดลบต่อเนื่อง 3 เดือน สอดคล้องกับบรรดาชาติเอเชียที่ต่างพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ ซึ่งจะเผชิญกับการส่งออกไปยังตลาดดังกล่าวที่ลดลง ขณะที่สหรัฐฯ มีแนวโน้ม reallocate แหล่งนำเข้าสู่ประเทศที่ภาษีต่ำ นอกจากนี้ ผู้ส่งออกยังประสบปัญหาการแย่งตลาดทดแทนสหรัฐฯ รวมถึงอุปสงค์ในตลาดโลกที่แผ่วลงตามทิศทางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
มูลค่าส่งออกเดือน ส.ค. 2568 ขยายตัว 5.8%YoY
มูลค่าส่งออกเดือน ส.ค. อยู่ที่ 27,743.2 ล้านดอลลาร์ฯ เติบโต 5.8%YoY ชะลอตัวจาก 11.0%YoY เมื่อเดือนก่อน โดยการส่งออกสินค้ากลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่อง สวนทางกับสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรที่กลับมาหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน สำหรับการส่งออกทองคำในเดือนนี้กลับมาขยายตัว 144.0%YoY หลังหดตัวในเดือนก่อน ทำให้เมื่อหักทองคำแล้วมูลค่าส่งออกเดือนนี้ขยายตัวได้ 3.3%YoY โดยมีแรงขับเคลื่อนที่สำคัญจาก
- การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัว 11.2%YoY ชะลอลงจาก 14.0%YoY ในเดือนก่อน โดยสินค้าสำคัญที่เติบโต ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+44.1%) แผงวงจรไฟฟ้า (+37.0%) เครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+15.3%) และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ (+10.2%) เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด (-36.9%) และเครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์ และส่วนประกอบ (-24.4%) และผลิตภัณฑ์ยาง (-3.1%) เป็นต้น
- การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรหดตัว 10.7%YoY กลับมาหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน โดยสินค้าเกษตรหดตัว 13.6%YoY กลับมาหดตัวอีกครั้งในรอบ 4 เดือน และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรหดตัว 7.2%YoY ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยสินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ ข้าว (-30.1%) ยางพารา (-27.9%) อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป (-10.3%) และผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง (-16.9%) ซึ่งกลับมาหดตัวในรอบ 4 เดือน ส่วนสินค้าสำคัญที่ขยายตัวสูง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ (+26.1%) ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ (+16.6%) กุ้งสด แช่เย็น แช่แข็ง (+7.0%)และ ไก่แปรรูป (+1.3%) เป็นต้น
การส่งออกรายตลาดสำคัญ ส่วนใหญ่ยังขยายตัวจากการส่งออกในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เป็นสำคัญ
- สหรัฐฯ: ขยายตัว 12.8%YoY เติบโตติดต่อกัน เป็นเดือนที่ 23 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์ และเครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น อุปกรณ์กึ่งตัวนำทรานซิสเตอร์ และไดโอด และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น
- จีน: ขยายตัว 5.9%YoY เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์ และส่วนประกอบ และแผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น ด้านสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง เคมีภัณฑ์ และเม็ดพลาสติก เป็นต้น
- ญี่ปุ่น: หดตัว 5.3%YoY กลับมาติดลบในรอบ 3 เดือน โดยสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก และเคมีภัณฑ์ เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น
- EU27: หดตัว 1.6%YoY กลับมาหดตัวในรอบ 15 เดือน โดยสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ยางพารา และผลิตภัณฑ์ยางเป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่นเคมีภัณฑ์ ผลไม้กระป๋องและแปรรูป และเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
- ASEAN-5: ขยายตัว 1.7%YoY เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ และเม็ดพลาสติก เป็นต้น
- มูลค่าการนำเข้าเดือน ส.ค. อยู่ที่ 29,707.6 ล้านดอลลาร์ฯ เติบโต 15.8%YoY เร่งตัวจาก 5.1%YoY เมื่อเดือนก่อน การนำเข้าสินค้าทุกหมวดต่างขยายตัว ทั้งสินค้าทุน (+29.5%YoY) สินค้าอุปโภคบริโภค (+16.9%YoY) สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป(+12.7%YoY) สินค้ายานพาหนะฯ (+5.3%YoY) และสินค้าเชื้อเพลิงหดตัว (+5.6%YoY) ทั้งนี้ ดุลการค้าเดือน ส.ค. ขาดดุล -1,964.4 ล้านดอลลาร์ฯ
Implication:
- Krungthai COMPASS มองว่าแรงส่งจากFront-loading ต่อการส่งออกไทยแผ่วลงชัดเจนขึ้น สะท้อนจากการส่งออกเดือน ส.ค. 68 ที่หดตัว 2.9%MoM โดยติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และเป็นไปในทิศทางเดียวกับการส่งออกของหลายประเทศที่แรงหนุนของปัจจัยชั่วคราวจากการเร่งซื้อไว้อ่อนแอลง หลังสิ้นสุดระยะผ่อนผันการขึ้นภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐฯ โดยเฉพาะกลุ่มชาติเอเชียที่ตัวเลขการส่งออกไปสหรัฐฯ เดือน ส.ค. หดตัว อาทิ ไทย (-9.8%MoM) ที่หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน ส่วนเวียดนาม (-2.0%MoM) หดตัวครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ในเชิงสินค้าไทยส่งออกไปสหรัฐฯ เดือน ส.ค. หลายสินค้าสำคัญต่างหดตัว อาทิ คอมพิวเตอร์ (-3.6%MoM) หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน ผลิตภัณฑ์ยาง (-12.8%MoM) หดตัวต่อเนื่อง 3 เดือน และยานยนต์(-2.8%MoM) ที่กลับมาหดตัวในเดือนนี้ บ่งชี้ถึงผลเชิงลบของนโยบายภาษีสหรัฐฯ ที่เริ่มชัดเจนมากขึ้นสอดคล้องมุมมองล่าสุดจาก UNDP ที่คาดว่าการส่งออกทั่วโลกจะถูกผลกระทบจากนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าสหรัฐฯ สำหรับกลุ่มประเทศในเอเชียที่ต่างพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ จะเผชิญการส่งออกไปตลาดดังกล่าวที่ลดลง อาทิ เวียดนาม (-19.2%) ไทย(-12.7%) และญี่ปุ่น (-10.9%)
- Krungthai COMPASS มองการส่งออกไทยจะโดนกดดันจากการ Reallocate แหล่งนำเข้าของสหรัฐฯ สู่ประเทศที่ภาษีต่ำกว่า ท่ามกลางความเสี่ยงหลายด้าน โดยข้อมูลล่าสุดชี้ว่าอาจเกิดปรับเปลี่ยนแหล่งนำเข้าของสหรัฐฯ สู่ชาติที่อัตราภาษีศุลกากรตอบโต้ต่ำกว่าอาเซียน เช่น สหราชอาณาจักร (10%) ดังเช่น การนำเข้าสหรัฐฯ จากสหราชอาณาจักร เดือน ก.ค. ที่ขยายตัว 7.2%MoM เติบโตต่อเนื่อง 2 เดือน ทั้งนี้ ยังมีความเสี่ยงทั้งจาก Sectoral Tariff เพิ่มเติม เกณฑ์ Transshipment Tariff ยังไม่ชัดเจน ท่ามกลางการแย่งตลาดทดแทนสหรัฐฯ ของผู้ส่งออก รวมถึงอุปสงค์ตลาดโลก ที่แผ่วลงตามการชะลอของเศรษฐกิจโลก