
ย้อนกลับไป 3 ปีก่อน แสนสิริมองเห็นถึงปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำของการศึกษาในเด็กไทย และนับเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไทยรายเดียวที่ประกาศ ระดมทุนเพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมช่วยเหลือโดยออกหุ้นกู้จำนวน 100 ล้านบาท สนับสนุนให้กับ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ กสศ. แก้ปัญหาเด็กหลุดระบบการศึกษาหรือเด็กที่เสี่ยงจะหลุดระบบ ปั้น จ.ราชบุรี เป็นโมเดลนำร่อง เพื่อให้เด็กและเยาวชนสามารถเข้าถึงการศึกษาจนสำเร็จได้รับวุฒิการศึกษาภาคบังคับและต่อยอดสร้างอนาคตให้กับตนเองได้ ภายใต้ชื่อโครงการ "Zero dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน" เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2565
Zero Dropout - เด็กทุกคนต้องได้เรียน คือพันธกิจที่แสนสิริและพันธมิตรหลายฝ่ายร่วมกันขับเคลื่อน เพื่อให้เด็กทุกคนมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะอยู่ในบริบทแบบใดหรือมีข้อจำกัดใดก็ตาม เป้าหมายของโครงการนี้ มีความชัดเจน คือ "ไม่ปล่อยให้ใครหลุดออกจากระบบการศึกษา"
ในช่วงปี 2565 - 2568 จังหวัดราชบุรีจึงได้ถูกพัฒนาขึ้นเป็น พื้นที่ต้นแบบด้านการศึกษา ที่นับเป็นก้าวสำคัญของการปฏิรูปเชิงระบบ ที่ช่วยให้เด็กเยาวชนสามารถเลือกเส้นทางการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับชีวิตจริงของตนเอง ลดความเสี่ยงที่จะหลุดจากการศึกษาในระยะยาว
ควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง กิจกรรม "ซ่อม สร้าง ทาสี" คืออีกหนึ่งกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนโดย "พลังจิตอาสา" ของทั้งพนักงานแสนสิริและพาร์ทเนอร์ธุรกิจอาทิ สี TOA และอีกกว่า 10 บริษัท ภายใต้เจตนารมย์เดียวกันในการเล็งเห็นถึงความสำคัญของเด็ก และเยาวชน ที่จะเติบโตขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศไทย ร่วมเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนวัสดุ อุปกรณ์และแรงงาน ทั้งหมดเกิดขึ้นด้วยความสมัครใจและเต็มใจของทุกคนในการลงมือซ่อมแซมอาคารเรียน ทาสีห้องเรียน ปรับปรุงสนามเด็กเล่น ตรวจสอบระบบไฟฟ้า ส่งมอบคอมพิวเตอร์ให้แก่โรงเรียน ไปจนถึงการทำแปลงเกษตรเพื่อสร้างแหล่งวัตถุดิบอาหารกลางวัน เราเรียกทั้งหมดว่าการสร้าง "พื้นที่เรียนรู้ พื้นที่ปลอดภัยและยั่งยืน" ทุกกิจกรรมเล็กๆ รวมกันกลายเป็น การเติมเต็มโอกาสทางการศึกษา ให้เด็กหลายร้อยชีวิตได้เติบโตในสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น โดยจัดต่อเนื่องมาแล้ว 6 ครั้ง
กิจกรรม "ซ่อม สร้าง ทาสี" จึงไม่ใช่เพียงโครงการปรับปรุงอาคารหรือซ่อมแซมสิ่งก่อสร้าง แต่คือ สัญลักษณ์ของความร่วมมือ แสนสิริและพันธมิตรพร้อมที่จะเดินหน้าต่อไปอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อยืนยันว่า ทุกก้าวย่างที่เราลงมือทำในวันนี้ คือรากฐานของอนาคตที่มั่นคงของเด็กไทยทุกคน
ปัจจุบัน "Zero dropout" ของแสนสิริ ได้ขยายเป็น "Thailand Zero dropout" เมื่อวันเด็กแห่งชาติในปี 2567 และเริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการในเดือน ก.ค. 2567 โดย "ราชบุรีโมเดล" ได้ถูกนำมาใช้ในหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย