จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมมือกับบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อร่วมพัฒนาองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล รวมถึงส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตและสร้างสังคมแห่งความยั่งยืน
พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้มี ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ พ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธีลงนาม พร้อมด้วย รศ.ดร.ศิริเดช สุชีวะ คณบดีคณะครุศาสตร์ จุฬาฯ และ นายสุปรีดี สุวรรณทัต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานบริหารองค์กร NT ร่วมเป็นสักขีพยาน
ภายใต้บันทึกความเข้าใจฉบับนี้ ทั้งสององค์กรจะดำเนินโครงการความร่วมมือในหลากหลายด้าน เช่น การฝึกปฏิบัติงานจริง (Internship) การพัฒนาหลักสูตรและกิจกรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) และการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาฯ กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) เป็นมากกว่าการลงนามในบันทึกความเข้าใจ แต่เป็นการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันในการสร้างอนาคตของประเทศ ด้วยการผสานพลังระหว่างภาคการศึกษาและภาคอุตสาหกรรม เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีความพร้อมต่อโลกยุคดิจิทัล และเติบโตควบคู่กับสังคมที่ยั่งยืน ความร่วมมือครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้นิสิตได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงในองค์กร พร้อมส่งเสริมทักษะด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น Cybersecurity, Data Science, Data Engineering และ Software Development เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือตลาดแรงงานในอนาคต
"ในยุคของ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการประดิษฐ์ปัญญาเพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทย ความรู้ล้าสมัยไปตามกาลเวลา แต่ความฉลาดไม่มีวันล้าสมัย จุฬาฯ มีเนื้อหาวิชาการ ส่วน NT มีแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่จะกระจายไปทั่วไทย วันนี้สององค์กรเป็นพันธมิตรร่วมกันเพื่อสนับสนุนให้คนไทยเรียนรู้ตลอดชีวิต พัฒนาเป็น National Lifelong Learning ต่อไปในอนาคต" ศ.ดร.วิเลิศ กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน พ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า NT มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของประเทศ เราเชื่อว่าการผสานองค์ความรู้ทางวิชาการกับศักยภาพทางเทคโนโลยีของ NT จะนำไปสู่การพัฒนาโครงการที่สร้างประโยชน์ให้กับเยาวชนและสังคมในวงกว้าง NT พร้อมเปิดพื้นที่ขององค์กรให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม เพื่อให้บุคลากร นิสิต และประชาชนทั่วไปได้เรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง รวมถึงต่อยอดสู่การสร้างนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อสังคม
"NT คือ National Telecom ซึ่งมีความพร้อมในเรื่อง Connectivity และ Digital โจทย์ของทั้งสององค์กรคือการทำงานร่วมกันพัฒนา Reskill และเสริม Upskill ให้ประชาชนมีความรู้ มีทักษะในการแข่งขันต่อการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วในปัจจุบัน" พ.อ.สรรพชัยย์ กล่าว