
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ชี้ความกังวลคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้คนเริ่มต้นวางแผนการเงินอย่างมีระบบ บนเวทีเสวนาในงาน World Financial Planning Day 2025 จัดโดยสมาคมนักวางแผนการเงินไทย เพื่อเฉลิมฉลองวันวางแผนการเงินโลก และสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการวางแผนทางการเงิน
ภายในงาน นายวศิน สุขวัฒน์วิบูลย์ หัวหน้าฝ่ายวางแผนการเงินส่วนบุคคล บล.เกียรตินาคินภัทร ร่วมเสวนาในหัวข้อ "อยู่รอด อยู่ได้ อยู่ดี เริ่มที่การวางแผนการเงิน" โดยยกประสบการณ์จริงจากการให้คำปรึกษาลูกค้า ที่ในระยะแรกลูกค้ามักมองแผนการเงินระยะยาว เช่น เกษียณหรือการศึกษาบุตร เป็นเรื่องไกลตัว แต่เมื่อเห็นตัวเลขค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องใช้ในแต่ละกรณี ลูกค้าจะเริ่มกังวล ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะแสดงว่าลูกค้าเริ่มเห็นคุณค่าของการวางแผนเพื่ออนาคตอย่างแท้จริง

นายวศิน กล่าวเพิ่มเติมว่า การเริ่มต้นวางแผนการเงินไม่จำเป็นต้องรอให้พร้อมที่สุด เพราะเวลาที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นคือวันนี้ พร้อมแนะนำ 4 หลักคิดสำคัญเพื่อให้ "อยู่รอด อยู่ได้ อยู่ดี" ได้แก่
- เริ่มทำทันที เพราะยิ่งรอจะยิ่งสาย และจะไม่มีวันได้เริ่ม
- กำหนดเป้าหมายชีวิตก่อนเลือกเครื่องมือลงทุน เช่น ตั้งเป้าหมายเกษียณตอนอายุ 60 ปี หรือซื้อบ้านในอีก 5 ปี แล้วจึงใช้การลงทุนเป็นเครื่องมือไปถึงเป้าหมาย
- วางรากการเงินส่วนบุคคลที่แข็งแรงและหลีกเลี่ยงหนี้สินไม่จำเป็น ด้วยความคิด (Mindset) ว่า "ออมก่อนใช้" เพราะหากใช้ก่อนออม มักจะไม่ได้ออม และต้องแยกแยะ "ความจำเป็น" กับ "ความอยากได้" ให้ออก รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการใช้เงินในอนาคต (ผ่อน/หนี้) เพื่อซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็น
สำหรับการเข้ารับการปรึกษาจาก KKP ลูกค้าจะมองเห็นแนวทางชัดเจนในด้านเป้าหมายการเงิน ว่าต้องเตรียมเงินเท่าไหร่ ลงทุนอย่างไร และผลตอบแทนที่คาดหวังคือเท่าไหร่ ทั้งนี้ แม้ผลลัพธ์จะยังไม่เห็นในทันที แต่สิ่งสำคัญคือ ความตระหนักถึงวินัยและพฤติกรรมที่จำเป็นต้องมีเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายได้ โดยหลังจากให้คำปรึกษา KKP ยังทบทวนแผนการลงทุนให้ลูกค้าทุก 6 เดือน และ ทบทวนแผนชีวิตของลูกค้าอย่างเป็นระยะ ให้ตรงความต้องการที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา เป็นไปตามความตั้งใจของบล.เกียรตินาคินภัทร ที่จะจูงมือลูกค้าไปถึงเป้าหมายด้วยกัน
บล.เกียรตินาคินภัทร มี KKP EDGE ซึ่งให้บริการวางแผนการเงินและการลงทุนอย่างครบวงจร โดยให้ความสำคัญกับแผนเกษียณและแผนการศึกษาบุตร ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของคนไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะปัจจุบันที่คนอายุยืนขึ้น หากไม่รู้ว่าจะต้องเตรียมเงินเท่าไร อาจไม่มีเงินเพียงพอใช้ในบั้นปลายชีวิต หรืออาจจะไม่ได้ใช้ชีวิตในแบบต้องการได้ อ้างอิงตัวอย่างแผนเกษียณจริงที่ KKP EDGE ทำให้ลูกค้า กรณีที่ลูกค้ามีแผนใช้เงินหลังเกษียณเดือนละ 50,000 บาท และคาดว่าจะอยู่ถึง 90 ปี คำนวณแล้วว่าลูกค้าต้องมีเงินรวม 32 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนค่อนข้างมาก ลูกค้าจะเริ่มกังวล แต่หากเริ่มเร็วก็ทำได้ไม่ยาก เราอาจจะกำหนดอายุไขไม่ได้ แต่แผนเกษียณที่ดีเป็นสิ่งที่เรากำหนดเองได้
นอกจากนี้ แผนการศึกษาบุตร พ่อแม่ทุกคนอยากมอบอนาคตที่ดีที่สุดให้ลูก แต่การส่งลูกเรียนจนจบปริญญาอาจใช้เวลามากกว่า 20 ปี และต้องใช้เงินจำนวนมาก และหากต้องการส่งลูกเรียนโรงเรียนนานาชาติหรือศึกษาต่อต่างประเทศ อาจต้องเตรียมเงินมากกว่า 25 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่เยอะ แต่ก็เป็นไปได้ถ้าเริ่มเร็วและมีการลงทุนที่เหมาะสม
KKP EDGE ให้บริการวางแผนการเงินและการลงทุนที่ครอบคลุมทั้งแผนการลงทุนทั่วไป แผนเกษียณ แผนภาษี และแผนการศึกษาบุตร โดยใช้กระบวนการทำงานที่เป็นระบบ เริ่มจากการทำความเข้าใจเป้าหมายของลูกค้า วิเคราะห์และจัดทำแผนที่เหมาะสม ดำเนินการตามแผน ไปจนถึงการทบทวนผลการลงทุนทุก 6 เดือน และทบทวนแผนและเป้าหมายกับลูกค้าอย่างเป็นระยะ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป
จุดเด่นของ KKP EDGE คือความชำนาญและเข้าใจลูกค้า ภายใต้หลักการ 'ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง' ให้คำแนะนำบนพื้นฐานของความเหมาะสมและประโยชน์สูงสุดของลูกค้า นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาจากวัตถุประสงค์การลงทุน ความเสี่ยงที่ลูกค้ารับได้ ตลอดจนกรอบระยะเวลาลงทุน เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจ มั่นใจ และสามารถปฏิบัติในสิ่งที่นำเสนอได้อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ สมาคมนักวางแผนการเงินไทยได้จัดกิจกรรมร่วมเฉลิมฉลองวันวางแผนการเงินโลก (World Financial Planning Day) เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการวางแผนการเงิน และเดินหน้าส่งเสริมความเข้าใจทางการเงินให้กับคนไทยไปพร้อมกับนักวางแผนการเงินทั่วโลก ภายใต้แนวคิดเดียวกัน คือการส่งเสริมความเข้าใจถึงคุณค่าของการวางแผนทางการเงินจากนักวางแผนการเงินที่ยึดมั่นในมาตรฐานความรู้ ความสามารถ และจริยธรรม โดยให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นอันดับแรก