กรมประมง จับมือ STF ขับเคลื่อนความปลอดภัยทางทะเล ผ่านการอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับลูกเรือประมง ยกระดับแรงงานภาคประมงไทยสู่มาตรฐานสากล

ข่าวทั่วไป Friday October 17, 2025 13:33 —ThaiPR.net

กรมประมง จับมือ STF ขับเคลื่อนความปลอดภัยทางทะเล ผ่านการอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับลูกเรือประมง ยกระดับแรงงานภาคประมงไทยสู่มาตรฐานสากล

นายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการ "การปฐมพยาบาลเบื้องต้น การกู้ชีพ การช่วยเหลือคนจมน้ำ และการดับเพลิงเบื้องต้นสำหรับลูกเรือประมง" โดยมีนายวิรัตน สนิทมัจโร ประมงจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นผู้กล่าวรายงาน และมีลูกเรือประมงจากจังหวัดสมุทรสงคราม รวมถึงชาวประมงในพื้นที่ใกล้เคียง เข้าร่วมอบรมกว่า 80 ราย ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อยกระดับมาตรฐานแรงงานภาคประมงไทยให้มีความรู้ ความปลอดภัย และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

กรมประมง จับมือ STF ขับเคลื่อนความปลอดภัยทางทะเล ผ่านการอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับลูกเรือประมง ยกระดับแรงงานภาคประมงไทยสู่มาตรฐานสากล

นายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ตามที่ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย สุขอนามัย และการคุ้มครองสวัสดิภาพของคนทำการประมงมาอย่างต่อเนื่อง ตามกฎกระทรวง ในเรื่องระบบความปลอดภัยประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กำหนดให้ผู้ได้รับอนุญาตทำการประมงต้องจัดให้มีคนประจำเรืออย่างน้อยหนึ่งคนผ่านการอบรมหลักสูตรการปฐมพยาบาลเบื้องต้นจากหน่วยงานที่ได้รับการรับรองจากภาครัฐ เพื่อให้การออกทำประมงเป็นไปอย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งภาคการประมงไทยมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศ เป็นแหล่งสร้างรายได้และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ (GDP) ในการส่งออก และการพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นแหล่งจ้างงานที่สำคัญและเป็นแหล่งอาหารโปรตีนหลักสำหรับการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของภาคการประมงที่เชื่อมโยงทั้งเศรษฐกิจและความมั่นคงทางอาหารของชาติ

เพื่อขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมประมงจึงได้จัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรการปฐมพยาบาลและการกู้ชีพเบื้องต้นสำหรับผู้ควบคุมเรือและแรงงานประมงขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ลูกเรือประมง ให้มีความรู้ความเข้าใจในการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุระหว่างปฏิบัติงานในทะเล เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนออกปฏิบัติงานในเรือประมงให้เป็นไปตามมาตรฐานด้านความปลอดภัย โดยมีเนื้อหาครอบคลุมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เช่น การช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) การช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุตกน้ำ การปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บ และการดับเพลิงเบื้องต้น เพื่อให้ลูกเรือประมงสามารถนำทักษะเหล่านี้ไปใช้ได้จริงเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินทั้งในเรื่องของการประเมินอาการผู้บาดเจ็บและการให้การช่วยเหลืออย่างถูกต้องปลอดภัย อันจะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้ประสบเหตุ โครงการนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานแรงงานประมงให้สอดคล้องกับกฎหมายและข้อกำหนดสากล เสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อภาคประมงไทยด้านการดูแลแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าวในเวทีโลก

ที่ผ่านมา กรมประมง โดยกองตรวจสอบเรือประมง สินค้าสัตว์น้ำ และปัจจัยการผลิต ร่วมกับ SEAFOOD TASK FORCE (STF) ได้ดำเนินกิจกรรมและยังได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน อาทิ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ตำรวจน้ำ และสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ร่วมกันขับเคลื่อนการยกระดับมาตรฐานแรงงานภาคประมงไทยให้มีคุณภาพ โดยมีผู้ควบคุมเรือและลูกเรือประมงเข้ารับการฝึกอบรมรวมทั้งสิ้น 487 ราย แบ่งเป็น 7 รุ่น ได้แก่ จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 62 ราย จังหวัดชลบุรี จำนวน 63 ราย จังหวัดชุมพร จำนวน 75 ราย จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 72 ราย จังหวัดภูเก็ต จำนวน 65 ราย จังหวัดสตูล จำนวน 70 ราย และจังหวัดสมุทรสงคราม (รุ่นสุดท้าย) จำนวน 80 ราย ทั้งนี้ การจัดอบรมดังกล่าวได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้เข้าร่วมอบรม ซึ่งต่างเห็นถึงประโยชน์และความสำคัญของการเรียนรู้ทักษะด้านความปลอดภัยและการช่วยชีวิตเบื้องต้นในเรือประมง

การดำเนินโครงการนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกรมประมงในการพัฒนาและให้ความสำคัญต่อสวัสดิการ สวัสดิภาพ และความปลอดภัยในการทำงานของแรงงานทุกคนที่ทำงานในเรือประมง โดยกรมประมงมีเป้าหมายที่จะสานต่อโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป เพื่อขยายโอกาสให้แรงงานประมงทั่วประเทศได้รับการพัฒนาองค์ความรู้และทักษะที่จำเป็นในการปฏิบัติงานอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ยกระดับมาตรฐานแรงงานไทยในภาคการประมงให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล สร้างความมั่นใจให้กับแรงงานที่ทำงานในเรือประมง ผู้ประกอบอาชีพประมง และชุมชนชายฝั่งในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนส่งเสริมการทำประมงให้เติบโตอย่างยั่งยืนรองอธิบดีกรมประมง กล่าวทิ้งท้าย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ