
นางสิริกาญจน์ สุยวณิชย์ ผู้อำนวยการเขตบางกะปิ กทม. กล่ากรณีมีข้อวิจารณ์ปัญหาผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้าบริเวณซอยรามคำแหง 83 เขตบางกะปิว่า สำนักงานเขตฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจประชาสัมพันธ์ ตักเตือน กวดขัน รวมถึงดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด จอด หรือขับขี่รถบนทางเท้าในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะถนนสายหลักคือ ถนนรามคำแหงและถนนลาดพร้าว ส่วนกรณีจุดที่มีการฝ่าฝืนกระทำความผิดบ่อยครั้ง ได้สำรวจและส่งเรื่องขอติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) พร้อมระบบ AI ไปยังสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) เรียบร้อยแล้ว รวมถึงสำนักงานเขตฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนออกตรวจตราพื้นที่ถนนสายหลักและสายรองอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม จำนวนเจ้าหน้าที่เทศกิจไม่เพียงพอที่จะกระจายไปปฏิบัติหน้าที่พร้อมกันหลายจุดได้ จึงทำให้ผู้ขับขี่ขาดจิตสำนึก ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร และฝ่าฝืนขับขี่รถบนทางเท้าในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน ขณะที่การจราจรติดขัด โดยสำนักงานเขตฯ มีแนวทางการแก้ไข ทั้งติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ห้ามจอด หรือขับขี่รถบนทางเท้า จัดเจ้าหน้าที่กวดขันช่วงเวลาเร่งด่วนที่มีผู้ฝ่าฝืนขับขี่บนทางเท้าจำนวนมาก ติดตั้งกล้อง CCTV พร้อมระบบ AI ตรวจจับผู้ฝ่าฝืนจอดหรือขับขี่รถบนทางเท้า และดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนตามกฎหมาย
นายปิยะ พูดคล่อง ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ (สนท.) กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการตามมาตรการจับปรับผู้กระทำผิดฝ่าฝืนจอด หรือขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้าในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า กทม. ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาผู้ที่ฝ่าฝืนจอด หรือขับขี่รถบนทางเท้ามาโดยตลอด เนื่องจากเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง กฎหมายว่าด้วยการจราจร ปัญหาด้านความปลอดภัยในการสัญจรของประชาชน และทำให้ทางเท้าได้รับความเสียหาย โดยได้กำชับ สนท. และสำนักงานเขตให้เข้มงวดกวดขันและบังคับการแก่ผู้ที่ฝ่าฝืนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง พร้อมทั้งยังได้กำหนดมาตรการต่าง ๆ มาช่วยให้การบังคับการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การติดตั้งกล้อง CCTV พร้อมระบบ AI อุปกรณ์ป้องกัน การตั้งจุดกวดขันเคลื่อนที่ การให้ประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสและมีรางวัลตอบแทน เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินคดีผู้ที่ฝ่าฝืนตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา รวมจำนวน 72,488 ราย เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 69,873,064 บาท ส่วนกรณีที่มีข้อวิจารณ์ปัญหารถจักรยานยนต์ขับขี่บนทางเท้าบริเวณซอยรามคำแหง 83 สนท. จะประสานบูรณาการกับสำนักงานเขตพื้นที่ดำเนินการบังคับให้เป็นไปตามกฎหมายและพิจารณาดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวข้างต้นต่อไป