
LINE for Business เปิดสูตรลับพลิกความท้าทายสู่โอกาสใหม่ ให้ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มไทยฝ่ากระแส Red Ocean บนเวทีสัมมนาสุดเอ็กซ์คลูซีฟ "LINE FOOD TECH 2025" เจาะลึกวัตถุดิบปรุงแบรนด์ให้เติบโตรับการแข่งขัน ชูเทรนด์การใช้ดาต้าผสานเทคโนโลยี สร้างประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อรองรับความคาดหวังของผู้บริโภคไทย พร้อมเปิดมุมมองจากแบรนด์ระดับท็อปร่วมแชร์ประสบการณ์จริงในการต่อยอดใช้เทคโนโลยีและดาต้า ขับเคลื่อนธุรกิจให้การเติบโตอย่างแตกต่าง

ภาพรวมตลาดอาหารและเครื่องดื่มไทยยังดุเดือด
จิตวิสุทธิ์ จุฑาวิจิตร หัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม LINE ประเทศไทย เผยว่า ข้อมูลล่าสุดจาก DBD พบว่าธุรกิจกลุ่มร้านอาหารและเครื่องดื่มมีการจดทะเบียนบริษัทใหม่พุ่งขึ้นเป็นอันดับ 3 ของประเทศ ชี้ให้เห็นถึงภาวะการแข่งขันอย่างดุเดือดในปี 2025 ของธุรกิจกลุ่มนี้ ทำให้หลากหลายแบรนด์หันมาสร้าง "Seamless Experience" หรือประสบการณ์ไร้รอยต่อเพื่อรองรับความคาดหวังที่สูงขึ้นของผู้บริโภคไทย นอกเหนือจากปัจจัยเรื่องคุณภาพ ราคา และความแตกต่างของแบรนด์ ซึ่งแพลตฟอร์ม LINE ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้าง Seamless Experience ของแบรนด์ เห็นได้จากอัตราการส่งข้อความจากธุรกิจกลุ่มนี้ผ่าน LINE OA ที่เพิ่มขึ้น 3% ในปี 2025 ในขณะที่อัตราการส่งข้อความผ่าน Messaging API เติบโตแบบก้าวกระโดดกว่า2.75 เท่าภายใน 2 ปี สะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวของแบรนด์ในการใช้งาน Automation และเทคโนโลยีบน LINE ยกระดับการสื่อสารเชิงประสบการณ์ให้ดียิ่งขึ้น นอกจากผลลัพธ์ในเชิงการมองเห็น การคลิกที่ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยเสริมผลลัพธ์ในเชิงธุรกิจ ลูกค้าชำระเงินได้เร็วขึ้น 80% และมียอดขายสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น 50%
เปิดสูตรลับ 3 ทางรอดของร้านอาหารยุคใหม่ เปลี่ยนเทรนด์สู่กลยุทธ์
แม้เศรษฐกิจโดยรวมจะชะลอตัว แต่ตลาดอาหารและเครื่องดื่มไทยยังคงมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ หลายหมวดยังเติบโตได้ โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องดื่ม ทั้งร้านกาแฟที่มียอดขายต่อสาขาเพิ่มขึ้น 5% ส่วน "มัทฉะลาเต้" มียอดขายพุ่งขึ้นกว่า 204% และ "เพียวมัทฉะ" ติดเทรนด์เมนูที่ถูกค้นหามากที่สุด รวมไปถึงเครื่องดื่มไวรัลอย่าง "ชานมเผือกโมจิ" ที่มียอดค้นหาเพิ่มถึง 530% สะท้อนถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่พร้อมทดลองสิ่งใหม่ และยังเป็นสัญญาณให้ผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัวหาทางรอด เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตามกระแสอยู่เสมอ โดย LINE MAN Wongnai ผู้นำแพลตฟอร์มออนดีมานด์และข้อมูลร้านอาหารของไทย ได้เผย 3 ทางรอดที่สำคัญให้ร้านอาหารไทย
เจาะความสำเร็จแบรนด์ดังในไทย ใช้เทคโนโลยีสร้างประสบการณ์ Seamless บน LINE
เมื่อเทคโนโลยีกลายเป็นทางรอดของธุรกิจในวันนี้ สองพาร์ทเนอร์อย่าง Hato Hub และ BeTask ยังได้ร่วมบอกเล่าถึงการใช้เทคโนโลยีสร้างประสบการณ์แบบ Seamless ให้แบรนด์ลูกค้าอย่าง Gon Gang ระบบสมาชิกของบาร์บีคิวพลาซ่า ได้อย่างโดดเด่น โดย BeTask ช่วยสร้างระบบการจองคิวทั้งแบบล่วงหน้าและ Walk-in พร้อมแจ้งเตือนคิวอัตโนมัติผ่าน LINE OA ของ Gon Gangให้ลูกค้าก่อนเข้าใช้บริการได้สะดวก ทันใจ ในขณะที่ Hato Hub มาร่วมช่วยสร้างระบบจัดการ Customer Engagement ให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ทั้งการสั่งอาหาร ชำระเงิน และใช้คูปองส่วนลดจากระบบสมาชิกผ่าน LINE OA ได้ครบจบในที่เดียว ทำให้ร้านสามารถเสิร์ฟอาหารได้เร็วขึ้นถึง 47%, ยอดขายสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น 57% และอัตราการคลิกแบนเนอร์โปรโมชั่นเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าไปด้วยในตัว
ด้าน Starbucks อีกแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในการสร้างประสบการณ์ Seamless รูปแบบใหม่ ด้วยการเป็นพาร์ทเนอร์กับบริการน้องใหม่อย่าง LINE GIFT สร้างช่องทางให้ลูกค้าสามารถส่ง E-Voucher เป็นของขวัญแทนใจ พร้อมใช้กลยุทธ์กระตุ้นยอดขาย ทั้งการแบ่งหมวดหมู่สินค้าให้หลากหลาย ทั้งของขวัญตามธีมเทศกาล โอกาสวาระสำคัญแทนใจ และของขวัญแบบ E-Voucher หลากหลายเรทราคาที่ผู้ให้สามารถเลือกได้ตามต้องการ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้า จนทำให้ Starbucks เป็นแบรนด์ที่ผู้ใช้ถึงหนึ่งในสามเลือกซื้อเป็นของขวัญส่งให้กันผ่านLINE GIFT เลยทีเดียว
กลยุทธ์สร้าง "Hyper-personalized" ด้วย Data บน LINE
อีกหนึ่งไฮไลต์ในงานคือ การใช้กลยุทธ์สร้างประสบการณ์แบบ Hyper-personalized ผ่าน LINE จากสองแบรนด์ชั้นนำอย่าง เลย์ และ เต่าบิน เพื่อเข้าใจและสื่อสารกับลูกค้าได้ลึกยิ่งขึ้น โดยเลย์ได้มีการเก็บข้อมูลลูกค้าผ่านแคมเปญการออก Mission Sticker ซึ่งได้ร่วมกับคาแรกเตอร์ BT21 สร้างสติกเกอร์เซตที่โดดเด่น ดึงดูดใจ ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจนสามารถเก็บข้อมูลผู้บริโภคได้กว่า 400,000 คน โดยเลย์ได้นำข้อมูลที่ได้มาแบ่งหมวดหมู่ลูกค้าตามพฤติกรรมและความสนใจ เพื่อสร้างและนำเสนอคอนเทนต์ไปยังลูกค้าแต่ละคนได้อย่างเหมาะสม ส่งผลให้ประสิทธิภาพการตลาดโตขึ้นจากหลักเดียวเป็นสองหลักได้อย่างมีนัยสำคัญ
ในขณะที่ เต่าบิน ใช้จุดแข็งของระบบดิจิทัลจากเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติที่มีการเก็บข้อมูลลูกค้าทุกการสั่งซื้อไว้ครบถ้วน มาผสานกับการใช้ LINE OA เพื่อสื่อสารหาลูกค้าตามระดับสมาชิกได้อย่างตรงใจ เช่น ส่งโปรโมชันเฉพาะเมนูที่ลูกค้าแต่ละคน แต่ละกลุ่มสนใจ หรือส่งโปรโมชันเฉพาะให้ลูกค้าที่หายไปเกิน 7 วันให้กลับมาซื้อซ้ำ เป็นต้น ส่งผลให้อัตรา Conversion เพิ่มสูงสุดถึง 30%
LINE for Business มุ่งพัฒนาโซลูชันและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับบริการให้ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มในไทย ด้วยเครื่องมือที่หลากหลายช่วยสร้าง Seamless Experience ผ่านแชทเพื่อการเติบโตได้อย่างครบวงจร โดยเริ่มจากช่องทางหลักอย่าง LINE OA ที่แบรนด์สามารถยกระดับการสื่อสารเป็นแบบ Personalized ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ และการเชื่อมต่อ LINE API การเก็บรวบรวม บริหารจัดการข้อมูลลูกค้าผ่านเครื่องมือ MyCustomer การแจ้งเตือนลูกค้าได้อย่างแม่นยำ ปลอดภัยผ่าน LINE Official Notification (LON) ไปจนถึงการทำแคมเปญโฆษณาที่แบรนด์เลือกรูปแบบเองได้ ผ่านระบบ LINE Ads หรือในแบบ Reservation Ads ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าและสร้างการเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่ต้องการใช้งานแพลตฟอร์มหรือโซลูชั่นบน LINE สามารถกรอกแบบฟอร์มเพื่อติดต่อสอบถามทีมที่ปรึกษาธุรกิจองค์กร LINE ประเทศไทยได้ที่ https://lineforbusiness.com/th/contact หรือเลือกติดต่อพันธมิตรเอเจนซี่ของ LINE ได้ที่ https://lineforbusiness.com/th/partner