"Premier League" และ JAS" เตือนแฟนบอลไทย ถึงภัยเสี่ยงจากการดูเถื่อน!!! แคมเปญ "Boot Out Piracy" ตั้งเป้าปกป้องแฟนบอลและครอบครัว จากอันตรายแอบแฝงของการรับชมการถ่ายทอดที่ละเมิดลิขสิทธิ์

ข่าวทั่วไป Wednesday October 22, 2025 15:05 —ThaiPR.net

พรีเมียร์ลีก ร่วมกับ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS และ บริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MONO ผู้ถือลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในประเทศไทย เปิดตัวแคมเปญประจำปี "Boot Out Piracy" ในประเทศไทย เพื่อเน้นย้ำแฟนบอลถึงความเสี่ยงจากการรับชมสตรีมมิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์

แคมเปญดังกล่าวได้จัดขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งที่สี่ โดยมีเหล่านักเตะดาวรุ่งชื่อดังแห่งวงการลูกหนังระดับโลกเข้าร่วมรณรงค์ให้ความรู้แก่แฟนบอลเกี่ยวกับการรับชมอย่างถูกลิขสิทธิ์ นำโดย มาร์ติน โอเดการ์ด (อาร์เซนอล) อามาด ดิยัลโล (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) ราอูล ฆิเมเนซ (ฟูแล่ม) แดน เบิร์น (นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด) และ แมตตี้ แคช (แอสตัน วิลล่า) ร่วมส่งสารเพื่อสนับสนุนให้แฟนบอลรับชมการถ่ายทอดสดอย่างปลอดภัยและถูกกฎหมาย รวมทั้งเน้นย้ำการเข้าถึงเนื้อหาผ่านเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์ และอุปกรณ์สตรีมมิ่งผิดกฎหมาย (ISDs) จะทำให้ผู้ใช้เผชิญกับความเสี่ยงอย่างมาก โดยเฉพาะอาชญากรไซเบอร์เหล่านี้ มักใช้แพลตฟอร์มผิดกฎหมายเหล่านี้ในการปล่อยมัลแวร์ ฟิชชิ่ง โจรกรรมข้อมูล และเผยแพร่เนื้อหาที่เป็นอันตรายหรือไม่เหมาะสมให้แก่แฟนบอลชาวไทย ซึ่งอาจคุกคามความปลอดภัยส่วนบุคคลและความปลอดภัยต่อครอบครัว

ซึ่ง เควิน พลัมบ์ ที่ปรึกษาทั่วไปของพรีเมียร์ลีก กล่าวว่า "การรับชมการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางผิดลิขสิทธิ์อาจดูเหมือนไม่มีอันตราย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความเสี่ยงที่ตามมานั้นร้ายแรงกว่าปัญหาคุณภาพวีดีโอที่ไม่คมชัด งานวิจัยจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ชี้ให้เห็นอย่างต่อเนื่องถึงอันตรายร้ายแรงจากการใช้เว็บไซต์และอุปกรณ์ละเมิดลิขสิทธิ์ เรายังคงดำเนินการร่วมกับพันธมิตรถ่ายทอดสดและหน่วยงานภาครัฐโลกอย่างต่อเนื่อง เพื่อต่อต้านผู้ให้บริการสตรีมเถื่อน แต่การละเมิดลิขสิทธิ์ยังคงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ตลอด ภายใต้แคมเปญ Boot Out Piracy เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ผู้ที่รับชมการแข่งขันพรีเมียร์ลีกผ่านเว็บไซต์หรืออุปกรณ์ละเมิดลิขสิทธิ์ ว่าทั้งตนและครอบครัวกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงต่อการโจรกรรมข้อมูลส่วนตัวอาชญากรรมและการหลอกลวงทางไซเบอร์ที่จะสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงได้ เรายินดีที่ได้ร่วมมือกับ JAS เพื่อส่งสารสำคัญนี้ถึงแฟนบอลในประเทศไทย และเพื่อรณรงค์ให้แฟนๆ รับชมการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ"

ดร.โสรัชย์ อัศวะประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS กล่าวว่า "รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับพรีเมียร์ลีกและ MONO ในการนำเสนอฟุตบอลระดับโลกให้กับแฟนบอลชาวไทย ผ่านช่องทางที่ปลอดภัยและถูกกฎหมาย นอกจากเป้าหมายในการถ่ายทอดสดแล้ว JAS ยังมุ่งส่งเสริมระบบดิจิทัลที่เชื่อมโยงทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อส่งเสริมการรับชมอย่างรับผิดชอบ และปกป้องผู้บริโภคจากความเสี่ยงทางดิจิทัล ที่ผ่านมา JAS ทำงานร่วมกับพรีเมียร์ลีกและหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และต่อต้านการถ่ายทอดสดที่ผิดกฎหมาย เราได้ประสานงานกับผู้บังคับใช้กฎหมายและหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความมั่นใจว่าสิทธิต่างๆ จะได้รับการปกป้อง และสามารถจัดการกับการละเมิดได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งการทำแคมเปญในครั้งนี้เป็นความมุ่งมั่นในระยะยาวและยั่งยืน เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งผ่านความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญระดับโลกจากพรีเมียร์ลีกและพันธมิตรในประเทศไทย เพื่อให้แฟนบอลชาวไทยสามารถรับชมการแข่งขันได้อย่างปลอดภัย ในการร่วมกันรักษาคุณค่าของคอนเทนต์ถูกลิขสิทธิ์สำหรับอนาคต"

จากผลการศึกษาของ ศ. พอล วัตเตอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ชี้ให้เห็นว่า เว็บไซต์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ส่วนใหญ่มีมัลแวร์ ฟิชชิ่งหรือสแปม รวมถึงมีการนำเสนอเนื้อหาที่อันตราย ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับการพนัน สื่ออนาจาร และสแกม ผลการศึกษาพบว่า ในประเทศไทย

  • เว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์ทำให้ผู้ใช้งานมีความเสี่ยงต่อการถูกหลอก (Scam) มากกว่าเว็บไซต์ถูกลิขสิทธิ์ถึง 6 เท่า
  • กว่าครึ่งของเว็บไซต์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ (ร้อยละ 56) ถูกระบุว่ามีความเสี่ยงทางไซเบอร์ (มัลแวร์ ฟิชชิ่ง สแกม)
  • โฆษณาทั้งหมด (ร้อยละ 100) บนเว็บเถื่อนมีการโฆษณาเนื้อหาที่ไม่ปลอดภัย
  • การวิเคราะห์ ISD และแอปพลิเคชั่นที่ละเมิดลิขสิทธิ์พบว่าผู้ใช้งานมีความเสี่ยงในการถูกโจรกรรมข้อมูล และสัญญาณอินเทอร์เน็ตอาจเชื่อมโยงกับอาชญากรรม ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวง มัลแวร์ ไปจนถึงการสืบสวนทางกฎหมาย

แคมเปญ Boot Out Piracy 2025/26 ได้เปิดตัวในมาเลเซียเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา และจะทยอยเปิดตัวในสิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม ฮ่องกง และไทย ตลอดเดือนตุลาคมนี้ ผ่านช่องทางการถ่ายทอดสดและโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง เพื่อสื่อสารกับแฟนบอลโดยตรง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ