
"บริษัท ลอนดรี้ ยู จำกัด (มหาชน)" หรือ "WASH" หนึ่งในผู้นำธุรกิจให้บริการร้านสะอาดซักครบวงจรชั้นำของไทย ภายใต้แบรนด์ "WashXpress" ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) พร้อมได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุนทุกกลุ่ม สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ชูจุดเด่นด้านผู้นำธุรกิจร้านสะดวกซักที่เน้นลงทุนและบริหารสาขาที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของ (Owner-Operator) เพื่อสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ประกาศความพร้อมเตรียมนำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันแรก 3 พฤศจิกายน 2568

นายกวิน กลองกระโทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ลอนดรี้ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ WASH เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ mai วันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า 'WASH' หลังประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้น IPO จำนวนทั้งสิ้น 105,882,352 หุ้น ที่ราคาเสนอขาย 7.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเกินความคาดหมาย สะท้อนความเชื่อมั่นในพื้นฐานธุรกิจ และศักยภาพการเติบโตในอนาคต จากความสำเร็จดังกล่าว เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า WASH จะเป็นอีกหนึ่งหุ้นคุณภาพที่จะสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจ และได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่องต่อไป
"การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) นับเป็นหมุดหมายสำคัญบนเส้นทางของ WASH ที่จะตอกย้ำวิสัยทัศน์การมุ่งสู่ผู้นำธุรกิจร้านสะดวกซักครบวงจรของประเทศไทย การระดมทุนครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างฐานะทางการเงินให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนให้เราสามารถขยายธุรกิจและบริการได้อย่างเต็มศักยภาพในอนาคต ผมและทีมผู้บริหารมีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะนำพาองค์กรให้เติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยปณิธานอันแน่วแน่ที่จะทำให้การซักผ้าเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน ผ่านการพัฒนานวัตกรรมและบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับ พร้อมกันนี้ เรายังยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักธรรมาภิบาล ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาวต่อไป" นายกวิน กล่าว
นายชิษณุพันธ์ ตั้งเฉลิมกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ลอนดรี้ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ WASH กล่าวว่า ท่ามกลางสมรภูมิการแข่งขันอันดุเดือดในอุตสาหกรรม WASH ได้สร้างความโดดเด่นที่แตกต่าง ด้วย Own Store Model ที่มุ่งขยายสาขาที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของเป็นหลัก เพื่อสร้างรายได้ที่ต่อเนื่อง (Recurring Income) ควบคู่กับการควบคุมคุณภาพให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกสาขาทั่วประเทศ หัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนองค์กรคือเทคโนโลยี และการใช้ข้อมูลเชิงลึก (Data-Driven Insight) เพื่อนำมาต่อยอดและพัฒนาธุรกิจอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มบริการซักอบพับ บริการรับรีด และบริการรับส่งผ้า ซึ่งจะเริ่มขยายบริการไปสู่สาขาต่าง ๆ ควบคู่การขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ตลอดจนการขยายสู่ตลาดลูกค้าองค์กร (B2B) โดยเชื่อมั่นว่านี่เป็นเพียงก้าวแรกของเส้นทางการเติบโตที่ยิ่งใหญ่ การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ครั้งนี้ จะช่วยปลดล็อกศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดตามแผนงานที่วางไว้ ด้วยวิสัยทัศน์และแรงผลักดัน (Passion) ของทีมผู้ก่อตั้งที่เปี่ยมด้วยความเชี่ยวชาญและความเข้าใจในผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ WASH เป็นผู้นำธุรกิจร้านสะดวกซักครบวงจรของไทยในอนาคตอย่างเต็มภาคภูมิ
"เทคโนโลยีคือหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของเรา โดยมีแอปพลิเคชัน WashXpress เป็นเครื่องมือหลักในการยกระดับประสบการณ์ลูกค้าให้สะดวกสบายครบวงจร ตั้งแต่การค้นหาสาขา ชำระเงิน จนถึงระบบสมาชิก ซึ่งการเติบโตของผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นเป็น 1,572,296 บัญชี ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 เป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จ นอกจากนี้ เรายังนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาบริการใหม่ ๆ มาสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน และขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อผลักดันให้ WASH ก้าวสู่ผู้นำร้านสะดวกซักครบวงจรของไทยในอนาคต" นายชิษณุพันธ์ กล่าว
นางสาวสุธางค์ คนศิลป กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 2 บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า ตลอดช่วงระยะเวลาที่เสนอขายหุ้น IPO ที่ผ่านมา WASH ได้รับความสนใจและตอบรับอย่างดีจากนักลงทุนทุกกลุ่ม จากการมีแผนกลยุทธ์ที่ชัดเจนจับต้องได้ ประกอบกับข้อได้เปรียบทางการแข่งขันในหลากหลายมิติ แตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน ทั้งการเป็นหนึ่งในผู้นำในอุตสาหกรรมร้านสะดวกซักที่มีโมเดลธุรกิจ "Owner-Operator" ที่เน้นการบริหารสาขาด้วยตนเองเป็นหลัก ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพและสร้างรายได้ที่ต่อเนื่อง (Recurring Income) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ, อยู่ในธุรกิจเมกะเทรนด์ที่มีแนวโน้มเติบโตสูง จากการขยายตัวของชุมชนเมือง และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป, การมีแบรนด์ 'WashXpress' ที่แข็งแกร่งและเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง, และมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งรายได้และกำไร นอกจากนี้ ยังมีการนำเทคโนโลยี และแอปพลิเคชันเข้ามาสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนความสำเร็จ และสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว
"ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินที่ร่วมเดินทางกับ WASH มาตลอดกระบวนการ ตั้งแต่เริ่มวางแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ได้เห็นถึงความแข็งแกร่ง ศักยภาพการเติบโต และความตั้งใจของทีมบริหาร ที่มุ่งสร้างการเติบโตตามกลยุทธ์ที่ชัดเจน จึงมีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า WASH จะเป็น 'หุ้นเติบโตคุณภาพ (Quality Growth Stock)' ที่สามารถสร้างความประทับใจและได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรก ในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568" นางสาวสุธางค์ กล่าว