
หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ร่วมกับ บริษัท เคมีแมน จำกัด (มหาชน) วิจัยและพัฒนารถบรรทุกขับเคลื่อนอัตโนมัติ หรือ "รถบรรทุกไร้คนขับ" ที่พัฒนาโดยทีมนักวิจัยไทย และเป็นต้นแบบนวัตกรรมขนส่งแห่งอนาคตคันแรกของไทย เพื่อส่งเสริมการใช้ประโยชน์ของผลงานวิจัยและนวัตกรรมในเชิงพาณิชย์ การพัฒนาแพลตฟอร์มทางนวัตกรรมในภาคการผลิต และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ภาคอุตสาหกรรม
ผศ.ดร.กานดา บุญโสธรสถิตย์ ผู้อำนวยการ บพข. กล่าวว่า โครงการนี้ไม่เพียงช่วยลดต้นทุนให้กับธุรกิจ ยังเน้นเพิ่มความปลอดภัยในการทำงานภายในเหมืองได้อย่างมาก อีกทั้งยังเป็นการสร้างนวัตกรรมขนส่งแห่งอนาคตที่พัฒนาโดยคนไทย ใช้ฝีมือและแรงงานคนไทย ลดการนำเข้าเทคโนโลยี และหากประสบความสำเร็จเกิดการใช้งานจริงในประเทศ อาจเป็นโอกาสสำคัญในการผลักดันให้สามารถขยายผลความสำเร็จสู่การส่งออกไปยังธุรกิจอื่นๆ ได้

ทั้งนี้ ตลาดรถบรรทุกไร้คนขับยังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าภายในปี 2569 ตลาดรถบรรทุกไร้คนขับจะมีมูลค่าเพิ่มสูงถึงเกือบ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวสูงถึง 15% ต่อปีทั่วโลก ขณะที่ข้อมูลของกรมการขนส่ง พบว่าในปี 2566 ประเทศไทยมีรถบรรทุกตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก ประเภทรถบรรทุกส่วนบุคคล จำนวนรวมทั้งสิ้น 826,493 คัน เพิ่มขึ้น 0.43% ต่อปี แต่ยังไม่มีการใช้งานของรถบรรทุกไร้คนขับ ซึ่งคาดว่าตลาดรถบรรทุกที่ใช้ภายในพื้นที่ส่วนบริษัท โดยเฉพาะกลุ่มเหมืองแร่จะมีการใช้งานอยู่ประมาณ 4,000-5,000 คัน
ดร.อภิชัย สมบูรณ์ปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี บริษัท เคมีแมน จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ในฐานะที่ เคมีแมน เป็น 1 ใน 10 ของผู้นำอุตสาหกรรมปูนไลม์ระดับโลก มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิตที่ทันสมัยทั้งในประเทศไทย เวียดนาม และอินเดีย รวมถึงศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่ในประเทศออสเตรเลีย เรากำลังมุ่งสู่การเป็น "Smart Factory" เต็มรูปแบบ บริษัทมีแนวคิดนำรถบรรทุกไร้คนขับมาใช้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการวิจัย พัฒนาและทดสอบ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการวิจัยและพัฒนา 16 เดือน
โครงการพัฒนารถบรรทุกไร้คนขับนี้ มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้งานเพื่อให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด ได้แก่ การติดตั้ง "ไลดาร์ (Lidar)" ที่เปรียบเหมือนตาของรถบรรทุก เป็นตัวสร้างแผนที่สามมิติของสภาพแวดล้อมด้านหน้า ติดตั้ง "เรดาร์ (Radar) ที่ทำหน้าที่สำรวจวัตถุต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะเข้ามาในบริเวณที่รถขับไป เสริมด้วย AI Camera ที่จะควบคุมตรวจสอบด้านความปลอดภัย ติดตามตำแหน่งของรถบรรทุกด้วย GPS และ IMU รวมถึงปรับเปลี่ยนพวงมาลัยรถบรรทุกให้เป็น "Drive by Wire" เพื่อให้ขับเคลื่อนได้ด้วยอิเล็กทรอนิกส์
โดยรถบรรทุกไร้คนขับต้นแบบนี้จะถูกนำไปทดลองใช้งานจริงในพื้นที่เหมืองและพื้นที่โดยรอบของเคมีแมนในอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เพื่อเก็บข้อมูลและพัฒนาต่อยอดเชิงพาณิชย์ต่อไป ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่ยุคใหม่ผ่านเทคโนโลยีและการวิจัยพัฒนาอย่างแท้จริง