
นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม. กล่าวกรณีมีข้อสังเกตโครงการก่อสร้างปรับปรุงถนนรามคำแหง 24 และถนนหัวหมากล่าช้าว่า โครงการดังกล่าวประสบปัญหาและอุปสรรคในการเข้าพื้นที่ก่อสร้างส่วนขยายถนนบริเวณพื้นที่ของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในระยะแรกของโครงการฯ ซึ่งสามารถเข้าพื้นที่ก่อสร้างส่วนสุดท้ายได้เมื่อต้นเดือน มี.ค. 68 ทำให้การดำเนินงานล่าช้ากว่าแผนงานที่กำหนดไว้ อีกทั้งยังพบอุปสรรคจากท่อประธานของการประปานครหลวง (กปน.) ในแนวผิวจราจรเลนริมทางเท้า ซึ่งอยู่ในแนวการวางท่อระบายน้ำสี่เหลี่ยม (Box Culvert) ขนาด 1.50 x 2.50 เมตร จึงได้ปรับแบบก่อสร้างก่อนเริ่มดำเนินการต่อ โดยสามารถเข้าพื้นที่ก่อสร้างได้อีกครั้งในเดือน ก.ค. 68
ทั้งนี้ ปัจจุบันโครงการก่อสร้างมีความคืบหน้าร้อยละ 82 โดยงานผิวจราจรคอนกรีตเสริมเหล็ก (คสล.) แล้วเสร็จประมาณ 1,600 เมตร คงเหลืออีก 200 เมตรในบริเวณที่ติดอุปสรรคท่อประธานประปา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการวางท่อระบายน้ำ Box Culvert และก่อสร้างผิวจราจร 2 ช่องจราจร สนย. ได้กำชับผู้รับจ้างเร่งรัดก่อสร้างผิวจราจรให้แล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย. 68 เพื่อลดผลกระทบด้านการจราจร ส่วนงานส่วนประกอบที่เหลือ ได้แก่ งานทางเท้า ระบบไฟฟ้าส่องสว่าง งานจราจรสงเคราะห์ และงานก่อสร้างรั้วชดเชยบริเวณมหาวิทยาลัยรามคำแหงและ กกท. อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในต้นปี 2569
สำหรับกรณีถนนบางส่วนที่เปิดใช้งานแล้วเกิดการพังยุบ หรือมีเหล็กโผล่ สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากสภาพอากาศที่มีฝนตกหนักหลังการเทคอนกรีตและการปกคลุมพื้นที่ไม่มิดชิดเพียงพอ ซึ่งได้แก้ไขโดยรื้อและเทคอนกรีตใหม่แล้ว ส่วนพื้นที่บางส่วนเป็นผิวจราจรชั่วคราวที่ใช้รองรับการก่อสร้างสาธารณูปโภคใต้ดิน เมื่อก่อสร้างงานใต้ดินแล้วเสร็จจะคืนสภาพผิวจราจรถาวรต่อไป ทั้งนี้ สนย. ได้กำชับผู้รับจ้างให้ดำเนินงานตามมาตรการด้านความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้างอย่างเคร่งครัด โดยเพิ่มไฟฟ้าส่องสว่างชั่วคราวและจัดทำทางเดินเท้าสำหรับประชาชนในระหว่างการก่อสร้าง เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ทางและลดผลกระทบต่อการสัญจรของประชาชนในพื้นที่