
RT เผยผลประกอบการไตรมาส 3/68 ฟื้นตัวต่อเนื่อง รายได้รวม 996 ล้านบาท กำไรสุทธิ 47 ล้านบาท โต 840% ทิศทางธุรกิจไตรมาส 4/68 คาดผลงานโดดเด่นที่สุดของปี เตรียมส่งมอบ 5 โครงการ มุ่งเพิ่มศักยภาพการดำเนินงาน เพิ่มความสามารถการทำกำไร
นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านขุดเจาะอุโมงค์ วิศวกรรมโยธา และ ธรณีเทคนิคครบวงจร เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/68 บริษัทมีรายได้รวม 996 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 815 ล้านบาท จำนวน 181 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 22% และมีกำไรสุทธิ 47 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 5 ล้านบาท จำนวน 42 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 840%

ขณะที่ บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นเทียบกับไตรมาส 2/68 ที่มีรายได้รวม 863 ล้านบาท จำนวน 133 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15% และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 13 ล้านบาท จำนวน 34 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 261%
ผลประกอบการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ และ การส่งมอบงานระยะสั้นรับรู้รายได้เร็วจำนวน 6 โครงการมูลค่ารวม 104.97 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มงานที่มีอัตรากำไรขั้นต้นระดับสูง ประกอบกับแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และควบคุมต้นทุนการบริหารโครงการได้ดีขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น จากไตรมาส 1/68 ติดลบ 4.19% ไตรมาส 2/68 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 13.30% และ ไตรมาส 3/68 อยู่ที่ 16.1%
ส่วนผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 2568 บริษัทมีรายได้รวม 2,558 ล้านบาท และมีขาดทุนสุทธิ 42 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากผลกระทบของภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 1/68 ส่งผลให้บางโครงการต้องขยายระยะเวลาดำเนินงาน และทำให้ต้นทุนโครงการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับทิศทางธุรกิจช่วงไตรมาส 4/68 คาดว่าจะเป็นช่วงที่ผลประกอบการดีที่สุดของปีนี้ โดยบริษัทเตรียมส่งมอบงานเพิ่ม 5 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 158 ล้านบาท และทยอยรับรู้รายได้จากงานที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง
"RT เป็นหนึ่งในไม่กี่รายในประเทศที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง สามารถดำเนินโครงการที่มีความซับซ้อนทางเทคนิคได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากประสบการณ์ที่สั่งสมมายาวนาน ทำให้บริษัทสามารถรักษามาตรฐานคุณภาพและควบคุมต้นทุนได้อย่างดี มีความพร้อมในการขยายขีดความสามารถและเพิ่มความหลากหลายของงานก่อสร้าง จากการรับงานโดยตรงกับหน่วยงานภาครัฐ และการเป็นผู้รับเหมาในโครงการขนาดใหญ่ ขณะเดียวกันบริษัทยังมุ่งพัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาเสริมศักยภาพการก่อสร้าง เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยต่อยอดไปสู่โอกาสรับงานโครงสร้างพื้นฐานมูลค่าสูงในอนาคต" นายชวลิต กล่าว