MOTHER ฟอร์มเด่นต่อเนื่อง ผลงาน 9 เดือน กวาดรายได้รวม 1,047.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.21% กำไรสุทธิ 14.94 ล้านบาท พุ่ง 20.68% สะท้อนความแข็งแกร่งของธุรกิจ จากการเติบโตทั้งยอดขายสาขาเดิมและรายได้จากการเปิดสาขาใหม่ มั่นใจปีนี้ยอดขายมาตามนัด
นายเอกพงศ์ โชคชัยวิทัศน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาเธอร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ MOTHER ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ภายใต้แบรนด์ "Mother Supermarket" และ "Mother Marche" ในจังหวัดกระบี่ จังหวัดพังงา และจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 มีรายได้รวม 326.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.75% มีกำไรสุทธิจำนวน 1.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.91% และมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 0.61%
สำหรับงวด 9 เดือนแรกปี 2568 มีรายได้รวม 1,047.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.21% และมีกำไรสุทธิ 14.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.68% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตรากำไรสุทธิ 1.43% สูงกว่าปีก่อนที่ทำไว้ 1.30% ตอกย้ำศักยภาพการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน
การเติบโตดังกล่าวมาจากรายได้จากการขายรวม 1,041.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.31% โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายสาขาใหม่ที่เปิดปลายปี 2567 จำนวน 2 สาขา สร้างรายได้เพิ่ม 30.53 ล้านบาท และสาขาใหม่ที่เปิดในเดือนมิถุนายนและกันยายน 2568 อีก 2 สาขา สามารถเพิ่มรายได้ 6.89 ล้านบาท ขณะที่สาขาเดิมยังคงรักษาการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้น 61.62 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมีอัตราการเติบโตของร้านสาขาเดิม (SSSG) อยู่ที่ 9.40% จากการผลักดันยอดขายด้วยโปรโมชั่นราคาพิเศษในสาขาที่ผลประกอบการยังต่ำกว่าเป้าหมาย ปัจจุบัน MOTHER มีร้านสาขาจำนวน 22 สาขา โดยมีสัดส่วนยอดขายจากธุรกิจค้าปลีก 72% และธุรกิจค้าส่ง 28%
สำหรับทิศทางธุรกิจไตรมาสสุดท้าย คาดการณ์แนวโน้มการเติบโตสดใส โดยได้รับแรงหนุนจากไฮซีซั่นการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคัก ช่วยเพิ่มกำลังซื้อและการจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่ พร้อมเร่งเปิดสาขาใหม่ ในพื้นที่ที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวและชุมชน เพื่อเพิ่มยอดขายและสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ รวมถึงการขยายฐานสมาชิก เพื่อสร้างรายได้ประจำและเสริมความแข็งแกร่งของฐานลูกค้าในระยะยาว
"การเติบโต 9 เดือนแรกในปีนี้ สะท้อนวิสัยทัศน์ของ MOTHER ในการขยายธุรกิจอย่างยั่งยืน ผ่านกลยุทธ์การเปิดสาขาใหม่ควบคู่กับการเสริมความแข็งแกร่งของสาขาเดิม ซึ่งไม่เพียงแสดงถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจในปัจจุบัน แต่ยังสะท้อนศักยภาพการเติบโต สร้างรายได้และผลตอบแทนในอนาคตแก่นักลงทุน" นายเอกพงศ์ กล่าว