กลุ่มเอสซีบีเอกซ์โดยธนาคารไทยพาณิชย์พัฒนาศักยภาพเยาวชนระดับประถมศึกษา จัดการแข่งขันสร้างสรรค์จินตนาการผ่านศิลปะภายใต้

โครงการ "กล้าใหม่ใฝ่รู้" ปีที่ 20 รอบชิงชนะเลิศ เวทีโอกาสที่เป็นมากกว่าการแข่งขัน

กลุ่มเอสซีบีเอกซ์ โดยธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาเยาวชนและส่งเสริมการเรียนรู้ จัดการแข่งขันสร้างสรรค์จินตนาการผ่านศิลปะ ในโครงการ "กล้าใหม่ใฝ่รู้" ปีที่ 20 ระดับประถมศึกษา รอบชิงชนะเลิศ โดยมี นายกฤษณ์ จันทโนทก กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นประธานในการมอบรางวัล นายวรวัจน์ สุวคนธ์ Chief People Officer ธนาคารไทยพาณิชย์เปิดงาน พร้อมด้วย ดร.สังคม ทองมี ผู้อำนวยการศูนย์ศิลป์ สิรินธร ผศ.ดร.อภิชาติ พลประเสริฐ หัวหน้าภาควิชาศิลปะ ดนตรีและนาฏศิลป์ศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดร.ปทุมมา บำเพ็ญทาน อาจารย์สาขาวิชาศิลปศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร อาจารย์ธีร์พาทิศ บุญวิจิตรนิธิธร หัวหน้าภาควิชาจิตรกรรม คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ร่วมจัดกระบวนการเรียนรู้และเป็นคณะกรรมการตัดสิน ณ หอประชุมมหิศร ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่

นายวรวัจน์ สุวคนธ์ Chief People Officer ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า "ธนาคารไทยพาณิชย์ให้ความสำคัญต่อการศึกษาและการพัฒนาเยาวชน โดยได้ดำเนินโครงการต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโครงการ "กล้าใหม่ใฝ่รู้" เป็นโครงการเสริมสร้างและพัฒนาทักษะการเรียนรู้ รวมถึงประสบการณ์นอกห้องเรียน เป็นเวทีโอกาสที่มากกว่าการแข่งขัน เด็ก ๆ ได้เรียนรู้และลงมือทำจริง รวมทั้งได้ฝึกทักษะเรื่องการวางแผน การทำงานเป็นทีม ส่งเสริมการใช้ความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และการสื่อสาร พร้อมปลูกฝังเรื่องคุณธรรม ให้เป็นคนดีและคนเก่ง เพื่อให้เติบโตไปเป็นเยาวชนที่มีคุณภาพของประเทศชาติต่อไป"

ผศ.ดร.อภิชาติ พลประเสริฐ หัวหน้าภาควิชาศิลปะ ดนตรีและนาฏศิลป์ศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะกรรมการตัดสิน กล่าวว่า "โครงการ "กล้าใหม่ใฝ่รู้" มีการออกแบบกระบวนการแข่งขันวาดภาพที่แตกต่างจากการแข่งขันวาดภาพโดยทั่วไป เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ จากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศได้สมัครเข้ามามีส่วนร่วม ความพิเศษของโครงการ ฯ คือความพิถีพิถันในการสร้างโจทย์การเรียนรู้ให้เชื่อมโยงกันในแต่ละขั้นตอน เช่น ฝึกให้เด็กบันทึกเรื่องราวความประทับใจต่าง ๆ จากการไปทัศนศึกษา แล้วนำมาสร้างสรรค์เป็นเรื่องราวตามจินตนาการได้อย่างอิสระ เพื่อเป็นแนวทางในการออกแบบการวาดภาพตามโจทย์ "ศิลปะ วิทยาศาสตร์ สู่อนาคต" และในวันแข่งขัน เด็กๆ ก็จะสามารถวาดภาพจากเรื่องราวที่ออกแบบไว้นี้ ลงบนผืนผ้าใบของแต่ละทีม ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นการบูรณาการศิลปะและวิทยาศาสตร์เข้าด้วยกัน ซึ่งเด็กจะได้ฝึกทักษะ และเตรียมความพร้อมทุกด้านก่อนวาดภาพจริงลงผืนผ้าใบโดยใช้หลักการพัฒนาทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 (4Cs) เป็นเข็มทิศในการดำเนินงาน มุ่งเน้นให้เด็กเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด ให้มีอิสระในการคิดมากขึ้น ไม่ยึดติดกับการรับรู้หรือประสบการณ์รูปแบบเดิม กระตุ้นให้เกิดการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญของการเรียน และสามารถนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตต่อไป"

นายจีรพงศ์ แก้วศรี คุณครูโรงเรียนสารสาสน์วิเทศศึกษา จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า "โรงเรียนได้เข้าร่วมกิจกรรมกับโครงการ "กล้าใหม่ใฝ่รู้" มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2551 โครงการ ฯ ได้มอบประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ให้กับเด็ก ๆ มีการปรับกระบวนการเรียนรู้ทุกปี ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ทำให้ครูและเด็กต้องพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ครูได้นำรูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ต่าง ๆ ไปปรับใช้ในการเรียนการสอนและส่งเสริมพัฒนาการของเด็กปฐมวัยได้เป็นอย่างดี"

นางสาวกรรณิการ์ สุขใส จากรุ่นน้องตัวเล็กสู่รุ่นพี่ต้นแบบ "กล้าใหม่ใฝ่รู้" ปัจจุบันศึกษาที่คณะครุศาสตร์ ภาควิชาศิลปศึกษา ชั้นปีที่ 4 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงโครงการ "กล้าใหม่ใฝ่รู้" ด้วยรอยยิ้มอย่างภูมิใจว่า "ได้เข้าร่วมกิจกรรมเมื่อปี 2558 จากโรงเรียนบ้านห้วยไซงัว จังหวัดหนองคาย โดยผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ และแม้ว่าจะเป็นครั้งเดียวที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม แต่ครั้งนั้นคือประสบการณ์ที่มีค่าในชีวิต การแข่งขันได้ฝึกฝนการทำงานร่วมกับเพื่อนในทีม เป็นการทำงานชิ้นใหญ่ครั้งแรกในชีวิต ทุกวันนี้ภาพความประทับใจที่เข้าร่วมการแข่งขันยังคงอยู่ในใจเสมอ และยังติดตามโครงการ ฯ อยู่ตลอด อยากบอกน้อง ๆ ว่า "จงกล้าที่จะคิดและถ่ายทอดจินตนาการออกมาอย่างเต็มที่ และหมั่นฝึกฝน พัฒนาตนเองอยู่เสมอ" นางสาวกรรณิการ์ กล่าวทิ้งทาย

ในรอบชิงชนะเลิศนี้ มีเยาวชนจากทั่วประเทศที่ผ่านรอบภูมิภาคมาเข้าร่วมแข่งขันจำนวน 24 ทีม ทีมละ 4 คน (คละชั้นปี ในระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6) จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "ศิลปะ วิทยาศาสตร์ สู่อนาคต" โดยมุ่งเน้นให้เยาวชนได้พัฒนาทักษะแห่งศตวรรษที่ 21" เสริมสร้างคุณลักษณะที่ดี 4 ด้าน (4 Cs) ประกอบด้วย การคิดแบบมีวิจารณญาณ (Critical Thinking) การสื่อสาร (Communication) ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) และการทำงานร่วมกัน (Collaboration) นอกจากนี้ยังได้จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้นอกห้องเรียน ได้แก่ ทัศนศึกษา ณ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ พิพิธภัณฑ์พระราม 9 เปิดประสบการณ์เรียนรู้เรื่องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่สามารถต่อยอดสู่นวัตกรรมเพื่อโลกในอนาคต และการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย เรียนรู้ประวัติศาสตร์การเงิน การธนาคารของประเทศไทย เป็นต้น

ผลการแข่งขัน มีดังนี้

• รางวัลชนะเลิศ: โรงเรียนอนุบาลบ้านวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี
• รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1: โรงเรียนสารสาสน์วิเทศเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
• รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2: โรงเรียนชุมชนบ้านท่าสองยาง จังหวัดตาก
• รางวัลชมเชย 4 รางวัล ได้แก่
  • โรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญาในพระอุปถัมภ์ ฯ จังหวัดภูเก็ต
  • โรงเรียนคำกุงประชานุกูล จังหวัดอุดรธานี
  • โรงเรียนบ้านประคอง จังหวัดบุรีรัมย์
  • โรงเรียนบ้านวังจ๊อม จังหวัดเชียงใหม่

ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี ที่ผ่านมา โครงการ "กล้าใหม่ใฝ่รู้" ได้สร้างโอกาสแห่งการเรียนรู้ สร้างประสบการณ์และแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนทั่วประเทศ ผ่านการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะบนผืนผ้าใบ เป็นเวทีแห่งโอกาสที่เป็นมากกว่าการแข่งขัน พร้อมปลูกฝังให้เยาวชนเป็นทั้งคนดีและคนเก่งของประเทศต่อไป