ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต หรือ INETREIT พร้อมนำหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันที่ 12 ธันวาคม 2568 หลังปิดดีลลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินครั้งที่ 2 ด้วยมูลค่าระดมทุนประมาณ 2,415 ล้านบาท ซึ่งมียอดจองซื้อล้นหลาม สำเร็จตามเป้า ชูจุดเด่นเข้าลงทุนรูปแบบกรรมสิทธิ์ (Freehold) ในโครงการ INET-IDC3 เฟส 2 ส่วนขยาย พร้อมรับรู้รายได้ทันที หนุนศักยภาพกองทรัสต์เติบโตแกร่งรับเมกะเทรนด์ Cloud และ Data Center มาแรง พร้อมสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงให้ผู้ถือหน่วยอย่างยั่งยืนในระยะยาว
นายสุตกานต์ แน่นหนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเน็ต รีท แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ เปิดเผยว่า กองทรัสต์เตรียมนำหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนภายหลังการระดมทุนเพื่อการเข้าลงทุนในทรัพย์สินหลักเพิ่มเติมครั้งที่ 2 เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันที่ 12 ธันวาคม 2568 นี้ การนำหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนเข้าเทรดในครั้งนี้ สืบเนื่องจากความสำเร็จของกองทรัสต์ในการระดมทุนเพื่อการเข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติม โดยได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จากผู้ถือหน่วยเดิมและผู้ถือหน่วยใหม่ สะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพของกองทรัสต์ ซึ่งเป็นการลงทุนในรูปแบบกรรมสิทธิ์ (Freehold) ในอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินงานของโครงการ INET-IDC3 เฟส 2 ส่วนขยาย ซึ่งประกอบด้วยตู้ Rack จำนวน 246 Rack พร้อมอุปกรณ์การเชื่อมต่อและซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวตั้งอยู่ในอาคารโครงการ INET-IDC3 เฟส 2 ซึ่งเป็นทรัพย์สินหลักที่ลงทุนในปัจจุบันของกองทรัสต์ โดยการลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเติบโตของกองทรัสต์
สำหรับการลงทุนครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยเสริมศักยภาพให้กองทรัสต์เติบโตอย่างมั่นคง โดยมีจุดเด่นสำคัญ ดังนี้ 1) ทรัพย์สินคุณภาพสูงและมั่นคง โดยทรัพย์สินที่เข้าลงทุนอยู่ในโครงการที่ได้รับรองมาตรฐานระดับสากล เช่น Uptime Tier III และตั้งอยู่ในทำเลที่มีความเสี่ยงภัยธรรมชาติต่ำ อีกทั้งรูปแบบการลงทุนเป็นกรรมสิทธิ์ (Freehold) ทำให้กองทรัสต์มีศักยภาพในการสร้างกระแสเงินสดได้ยาวนานแบบไม่มีกำหนดอายุ 2) สัญญาเช่าระยะยาวกับผู้เช่าที่แข็งแกร่ง กองทรัสต์ได้ปล่อยเช่าทรัพย์สินแก่ บมจ.อินเทอร์เน็ตประเทศไทย (INET) ซึ่งเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาด Cloud (IaaS) สัญชาติไทยสำหรับครึ่งปีแรกของปี 2567 โดยมีสัญญาเช่าระยะยาวสิ้นสุดปี 2597 มีการกำหนดอัตราค่าเช่าที่แน่ชัดพร้อมปรับขึ้นค่าเช่าร้อยละ 2 ต่อปี และ 3) ศักยภาพเติบโตตามอุตสาหกรรม ธุรกิจ Data Center และ Cloud ในไทยมีแนวโน้มเติบโตสูงจากการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลและนโยบายภาครัฐ โดยคาดว่ามูลค่าตลาด Public Cloud ในไทยจะเติบโตเฉลี่ยสะสมประมาณร้อยละ 18 ต่อปีในช่วงปี 2567-2571
นอกจากนี้ กองทรัสต์ยังมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาวจากโอกาสในการลงทุนเพิ่มเติมผ่านสิทธิในการปฏิเสธก่อน (Right of First Refusal) จาก INET เพื่อเข้าลงทุนในทรัพย์สินอื่นที่ใช้ในการประกอบธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Data Center) ของ INET ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญในการขยายขนาดกองทรัสต์ให้เติบโตสอดคล้องกับความต้องการใช้งาน Data Center ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และตอกย้ำความเชื่อมั่นในการเป็นผู้นำกองทรัสต์ที่ลงทุนในทรัพย์สินโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีของไทย
"บริษัทฯ มั่นใจว่าทรัพย์สินใหม่นี้จะสร้างรายได้ค่าเช่าที่สม่ำเสมอและช่วยให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์ได้รับประโยชน์ตอบแทนสม่ำเสมอ อีกทั้งภายหลังการเพิ่มทุนครั้งนี้จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องจากขนาดของกองทรัสต์ที่ใหญ่ขึ้น ดังนั้นถือเป็นโอกาสดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาวพร้อมโอกาสการเติบโตสอดคล้องกับยุคดิจิทัล" นายสุตกานต์ กล่าว