โรงงานแห่งใหม่ของเวอร์ทิฟมีกำหนดเปิดดำเนินการเต็มรูปแบบในปีพ.ศ. 2569 คาดว่าจะสร้างตำแหน่งงานให้กับแรงงานท้องถิ่นมากถึง 500 อัตรา พร้อมช่วยเร่งการส่งมอบโซลูชันโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลยุคใหม่
เวอร์ทิฟ (NYSE: VRT) หรือ Vertiv ผู้นำระดับโลกด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและโซลูชันเพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจ ประกาศแผนขยายฐานการผลิตในภูมิภาคเอเชีย ผ่านการจัดตั้งโรงงานผลิตแห่งใหม่ในรัฐยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย โดยโรงงานนี้มีกำหนดเปิดดำเนินการเต็มรูปแบบในไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2569 และจะผลิตโซลูชันการจัดการด้านพลังงานและความร้อนภายใต้แบรนด์ Vertiv(TM) หลากหลายประเภท รวมถึงหน่วยจ่ายน้ำหล่อเย็น (CDU) รวมถึงโซลูชันดาต้าเซ็นเตอร์แบบโมดูลาร์และแบบสำเร็จรูป (Modular & Prefabricated Data Center Solutions)
การขยายการฐานผลิตในครั้งนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโตและการเพิ่มขีดความสามารถของบริษัท โดยมีแรงขับเคลื่อนจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสำหรับโครงสร้างพื้นฐานด้านการประมวลผลความหนาแน่นสูงที่พร้อมรองรับ AI โดยโรงงานในยะโฮร์จะมีบทบาทสำคัญในการเสริมศักยภาพการผลิตของเวอร์ทิฟ เพื่อให้บริการลูกค้าในตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วภูมิภาค ช่วยให้ส่งมอบได้เร็วขึ้น เพิ่มกำลังการผลิต และสนับสนุนเทคโนโลยีรุ่นใหม่ ๆ เช่น AI และแมชชีนเลิร์นนิง ด้วยทำเลที่ตั้งใกล้ประเทศสิงคโปร์ เครือข่ายโลจิสติกส์ที่มีความพร้อม และโครงสร้างสาธารณูปโภคที่มีเสถียรภาพ รัฐยะโฮร์จึงเป็นพื้นที่เชิงกลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูงที่สามารถขยายกำลังการผลิตได้ในระยะยาว
"โรงงานแห่งใหม่นี้เป็นก้าวสำคัญของเครือข่ายการผลิตระดับโลกของเวอร์ทิฟ ซึ่งช่วยเสริมทั้งขนาด ความยืดหยุ่น และความใกล้ชิดกับลูกค้า เพื่อให้เราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ" Andrew Whall รองประธานฝ่ายปฏิบัติการ ประจำภูมิภาคเอเชีย ของเวอร์ทิฟ กล่าว "นอกจากนี้ ยังสะท้อนถึงการลงทุนอย่างต่อเนื่องของเวอร์ทิฟ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและความเป็นเลิศด้านการผลิต"
เวอร์ทิฟมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากร เพื่อรองรับการดำเนินงานของโรงงานแห่งใหม่ โดยคาดว่าจะสามารถสร้างตำแหน่งงานให้กับแรงงานท้องถิ่นได้มากถึง 500 อัตราภายในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า ในขณะเดียวกัน โรงงานจะนำเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติสมัยใหม่มาใช้ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการผลิตที่มีประสิทธิภาพและเป็นระบบ โดยมุ่งเน้นความเป็นเลิศด้านการดำเนินงานและการผลิต เพื่อให้เวอร์ทิฟสามารถขยายกำลังการผลิตได้อย่างรวดเร็ว โดยยังคงรักษามาตรฐานคุณภาพและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
"โรงงานที่มีความสำคัญในระดับนี้ต้องอาศัยบุคลากรที่มีทักษะสูงและมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ เรารู้สึกภาคภูมิใจที่ได้สร้างงานที่มีคุณค่าและมีความสำคัญต่อภูมิภาค ซึ่งสนับสนุนทั้งการเติบโตระยะยาวของเราและเป้าหมายทางเศรษฐกิจในวงกว้างของมาเลเซีย" Whall กล่าวเสริม