“เทศกาลตรุษจีนเยาวราช เทิดไท้ 72 พรรษามหาราชินี 222 ปีไชนาทาวน์”

ข่าวทั่วไป Friday January 23, 2004 10:12 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ม.ค.--กทม.
เมื่อวานนี้ (22 ม.ค.47) เวลา 17.00 น. ณ ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ วงเวียนโอเดียน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และหม่อมเจ้าสิริวัณวรี มหิดล ร่วมงาน “เทศกาลตรุษจีนเยาวราช เทิดไท้ 72 พรรษามหาราชินี 222 ปี ไชน่าทาวน์” ซึ่งเริ่มขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในวันนี้ และจะมีไปจนถึงเที่ยงคืนวันพรุ่งนี้
ในวันเดียวกันเวลา 11.00 น. บริเวณเวทีหลัก ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ (วงเวียนโอเดียน) ฯพณฯ นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดงาน “เทศกาลตรุษจีนเยาวราช เทิดไท้ 72 พรรษามหาราชินี 222 ปี ไชน่าทาวน์” โดยมี นายเหมิ่น เจี่ยวซื่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมจีน นายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางจุฑามาศ ศิริวรรณ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ดร.ธารินทร์ สงวนเสริมศรี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางณฐนนท ทวีสิน ปลัดกรุงเทพมหานคร ดร.บุญทรง ศรีเฟื่องฟุ้ง ประธานจัดงานและประชาชนจำนวนมากเดินทางมาร่วมงาน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร และประชาคมเขตสัมพันธวงศ์ จัดงาน“เทศกาลตรุษจีนเยาวราช เทิดไท้ 72 พรรษามหาราชินี 222 ปีไชน่าทาวน์” ในวันที่ 22 — 23 ม.ค.47 เวลา 10.30 — 24.00 น. บริเวณถนนเยาวราช ตั้งแต่ วงเวียนโอเดียนถึงสี่แยกถนนจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กทม. เพื่อให้ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวจีนร่วมกันแสดงความจงรักภักดี เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะทรงเจริญพระชนมายุ 72 พรรษา โดยจะมีการจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติหลายกิจกรรม อาทิ การแสดงมังกรทอง Light & Sound บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ (วงเวียนโอเดียน) พร้อมทั้งเปิดให้ประชาชนได้ลงนามถวายพระพรบนกระดาษสาขนาดความยาว 73 เมตร บนโต๊ะซึ่งประดับตกแต่งด้วยผ้าทองโคมจีนส่องสว่าง และพระบรมฉายาลักษณ์ ความยาวรวม 30 เมตร นอกจากนี้ยังเฉลิมฉลองโอกาสที่ในปี 2547 นี้ ย่านไชน่าทาวน์ซึ่งเป็นเขตที่ คนไทยเชื้อสายจีนได้มาตั้งรกรากในกรุงเทพฯ มีอายุการก่อตั้งครบรอบ 222 ปี เท่ากับอายุของกรุงเทพมหานคร
สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การจัดซุ้มศิลปวัฒนธรรมจีน จัดให้มีการสาธิตทางวัฒนธรรมจากประเทศจีน เช่น การผลิตทองรูปพรรณด้วยมือ การเขียนภาพและอักษรจีน การทำโคมไฟกระดาษ การปักผ้าด้วยไหมจีน และการชงชา การจัดนิทรรศการ “เยาวราชรำลึก” เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับถนนเยาวราชตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมีเนื้อหาและภาพขยายจากหนังสือ “ท่องไชน่าทาวน์ เยาวราช” ซึ่งจัดทำขึ้นใหม่ในโอกาสนี้ เทศกาลอาหารอร่อยเยาวราช แสดงเอกลักษณ์ของรสชาติอาหารที่อยู่บนถนนเยาวราชอย่างแท้จริง และเป็นฝีมือการปรุงจากย่านไชน่าทาวน์ กิจกรรมทางศาสนาไหว้เจ้า 8 ศาลเจ้าเสริมสิริมงคล จัดทำแผนที่และป้ายบอกเส้นทางตามจุดทางเข้าศาลเจ้าทั้ง 8 ศาล พร้อมบอกประวัติโดยย่อของศาลเจ้าในแต่ละแห่ง เยาวราชถนนสายทองคำที่ยาวที่สุดในโลก โดยขอความร่วมมือจากร้านค้าทองคำบนถนนเยาวราช จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเป็นกรณีพิเศษใน ช่วงเทศกาลตรุษจีน นอกจากนี้ยังมีการแสดงมากมาย อาทิ การแสดงจากคณะนาฏศิลป์ ประเทศจีนกว่า 200 ชีวิต การแสดงเชิดมังกรที่ยาวที่สุด การเชิดสิงโต มังกรทอง การประกวด Mr. & Miss Chinese International Bangkok 2004
นอกจากนี้จุดเด่นและสีสันของงานอยู่ที่การจัดทำรูปสัญลักษณ์ประจำปีนักษัตรวอก คือ ลิงเห้งเจียขนาดใหญ่ มีขนาดความสูง 4 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสูง 1 เมตร เพื่อสื่อความหมายถึงการอวยพรในปีวอก โดยจะติดตั้งบริเวณด้านหน้าเทียนฟ้ามูลนิธิ อีกทั้งการจัดทำต้นท้อขนาดใหญ่ 2 ต้น และการประดับโคมจีนพร้อมแสงไฟส่องสว่าง จำนวน 2004 ลูก ตลอดแนวถนนตรีมิตร ถนนเยาวราชและถนนราชวงศ์ ตลอดจนมีการแจกอั่งเปาแก่ผู้ที่สวมเสื้อสีแดง 73,000 ใบ เพื่อจับรางวัลใหญ่มากมายให้กับผู้โชคดี
นายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ให้แนวคิดในการจัดงานครั้งต่อไปว่า เพื่อแก้ไขปัญหาความแออัดจากการที่มีประชาชนเดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก ทำให้ไม่สะดวกในการเดินชมงาน ดังนั้นนอกจากการจัดงานที่ถนนเยาวราชเพียงเส้นเดียวแล้ว ตนเห็นว่ายังมีถนนเจริญกรุงอีกสายที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะมีชาวไทยเชื้อสายจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และเป็นถนนสายแรกของไทยอีกด้วย ถ้าหากจัดงานเทศกาลตรุษจีนทั้งบนถนนเยาวราชและถนนเจริญกรุง เป็นลักษณะคู่ขนานกันและจัดจราจรเป็นลักษณะวงแหวนล้อมรอบงาน จะทำให้ประชาชนที่มาร่วมงานมีทางเลือกในการเข้าชมอย่างไม่แออัด สามารถเดินได้อย่างสบาย ทั้งนี้การจัดงานเทศกาลตรุษจีนนั้นเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ทางหนึ่ง เพราะในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะจากประเทศจีนเดินทางเข้ามาในประเทศไทยช่วงเทศกาลตรุษจีนเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งเสริมการค้าขายในย่านนี้และทำให้เศรษฐกิจในภาพรวมของกรุงเทพฯ ดีขึ้นอีกด้วย--จบ--
-นห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ