สสปน. ผนึกกำลังททท.-เอกชนผลักดันประเทศไทยเป็นจุดหมายระดับโลกในการจัดประชุม แสดงสินค้าและการท่องเที่ยว

ข่าวท่องเที่ยว Tuesday January 27, 2004 11:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 ม.ค.--VISAGE
สสปน.เปิดตัวผู้บริหารระดับสูง โชว์วิสัยทัศน์ ผนึกกำลังททท.-เอกชนผลักดันประเทศไทยเป็นจุดหมายระดับโลกในการจัดประชุม แสดงสินค้าและการท่องเที่ยวเป็นรางวัล โดยมีเป้าหมายปีแรกมุ่งสร้างความแข็งแกร่งขององค์กร พัฒนาความรู้พร้อมทั้งเสริมทักษะบุคลากรในธุรกิจไมซทุกระดับสู่ความเป็นมืออาชีพแข่งขันได้กับนานาชาติ
ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล ซึ่งได้รับแต่งตั้งจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2546 ให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการจัดตั้ง สสปน.ว่า หลังจากที่รัฐบาลอนุมัติให้จัดตั้ง สสปน.ในรูปแบบองค์การมหาชนขึ้นมาเป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาและส่งเสริมตลาดการประชุม แสดงสินค้า และการท่องเที่ยวเป็นรางวัล (MICE) ในประเทศไทย เพื่อสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศจากกลุ่มท่องเที่ยวระดับสูงนั้น ในช่วงระยะเวลากว่า 5 เดือนที่ผ่านมามีความคืบหน้าไปอย่างมาก
"สสปน.เป็นองค์การมหาชนที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ในช่วงที่ผ่านมา คณะกรรมการ สสปน.ได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนไปแล้วรวม 44 ครั้ง ประกอบด้วย การประชุมคณะกรรมการ 3 ครั้ง การประชุมร่วมกับองค์กรธุรกิจเอกชน และสมาคมต่าง ๆ 30 ครั้ง การประชุมกับองค์กรภาครัฐ 11 ครั้ง รวมทั้งได้ออกสำรวจดูศูนย์ประชุมและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ว่ามีอะไรจะนำเสนอในตลาดได้บ้าง ขณะเดียวกันได้จัดจ้างทำรายงานการศึกษาถึงจุดอ่อน จุดแข็ง อุปสรรค และโอกาสของธุรกิจไมซในประเทศไทย เพื่อให้ผู้อำนวยการคนใหม่สามารถใช้เป็นแนวทางในการศึกษาและวางแผนได้ทันที นอกจากนี้ยังได้จ้างที่ปรึกษาซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญตลาดไมซจาก ยุโรปมาศึกษาหาแนวทางการพัฒนาตลาดไมซในประเทศไทยต่อไป"
คณะกรรมการสรรหาของ สสปน.ได้ตกลงคัดเลือก นายพีระพงษ์ เอื้อสุนทรวัฒนา มาดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการคนแรกของ สสปน. เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2547 หลังจากนั้น ม.ร.ว.ดิศนัดดา ประธานกรรมการ สสปน.ได้นำนายพีระพงษ์เข้าพบรองนายกรัฐมนตรี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และรองนายกรัฐมนตรี ดร.วิษณุ เครืองาม เพื่อแนะนำตัวและขอคำแนะนำต่าง ๆ เมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา
นายพีระพงษ์ เอื้อสุนทรวัฒนา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ เปิดเผยถึงแนวทางบริหารงานว่า จะร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสมาคมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจไมซ เพื่อช่วยกันผลักดันให้ประเทศไทย เป็นจุดหมายระดับโลกในการจัดประชุม แสดงสินค้า และการท่องเที่ยวเป็นรางวัล โดยจะให้การสนับสนุนทั้งด้านการเงิน การประสานงานเพื่อดึงการประชุมเข้ามาจัดในประเทศ และการทำตลาดร่วมกัน นอกจากนี้จะทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐเพื่อดูแลเรื่องกฎระเบียบต่าง ๆ ที่จะเอื้อให้การทำงานของผู้ประกอบธุรกิจไมซสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
ทั้งนี้จากการวิเคราะห์ทางการตลาด พบว่า ไทยมีศักยภาพที่จะพัฒนาตลาดไมซได้อีกมาก โดยมีจุดแข็งในด้านเสถียรภาพทางการเมือง ความเชื่อมั่นในการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ความพร้อมของศูนย์ประชุม และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ การเดินทางเข้าถึง วัฒนธรรมไทยที่โดดเด่น และด้านอาหารซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเป็นครัวของโลกได้ รวมถึงกิจกรรมท่องเที่ยวที่หลากหลาย แต่เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่มีองค์กรหลักที่มาดูแลงานด้านนี้โดยตรง จึงทำให้ไม่มีกลยุทธ์ตลาดและเป้าหมายที่ชัดเจน และขาดฐานข้อมูลที่จะนำไปสู่การพัฒนาเป็นเว็บไซต์เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจไมซและผู้สนใจสามารถเข้าถึงข่าวสารข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ซึ่ง สสปน.จะเร่งพัฒนาเว็บไซต์ภายในปีนี้
นายพีระพงษ์ กล่าวอีกว่า เป้าหมายการดำเนินงานปีแรก จะเร่งสร้างองค์กรให้มีความเป็นมืออาชีพ พร้อมทั้งพัฒนาทักษะของบุคลากรและความรู้ด้านธุรกิจไมซ เพื่อสนับสนุนให้สสปน.และผู้ประกอบ ธุรกิจไมซในไทยสามารถแข่งขันได้กับนานาชาติ
ทางด้านการตลาด สสปน.จะให้ความสำคัญกับตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนการขยายผลประโยชน์จากการจัดงานหรือโครงการต่าง ๆ ที่ดำเนินการอยู่เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในการส่งเสริมตลาดไมซ อาทิ การใช้ข้อตกลงเปิดเสรีทางการค้าที่ไทยกำลังเจรจาอยู่กับหลายประเทศ ซึ่งจะส่งให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจในภูมิภาคนี้ เป็นโอกาสในการขยายตลาดไมซ การ ส่งเสริมตลาดเฉพาะกลุ่ม เช่น กอล์ฟ สปา ทัวร์สุขภาพ เสริมกับการจัดประชุมของบริษัทธุรกิจต่าง ๆ และการขยายความร่วมมือทางการตลาดกับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง
"การแข่งขันในระดับโลก สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เราจะต้องรู้ให้เท่าทันคู่แข่ง เช่น สิงคโปร์ ขณะนี้กำลังใช้เรื่องของมาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น ประกาศนียบัตรวิชาชีพทางด้านการจัดประชุมระดับบุคคล หรือ ประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐานการดำเนินงานระดับองค์กร เหมือนกับมี ISO มาตรฐานธุรกิจไมซ เป็นกลยุทธ์ตลาด ซึ่งเราจะต้องเร่งสร้างขึ้นมาเช่นกัน" นายพีระพงษ์ กล่าว
ข้อมูลเพิ่มเติม
นายพีระพงษ์ เอื้อสุนทรวัฒนา
ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
อายุ 48 ปี จบการศึกษาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า จาก Western Michigan University และปริญญาโทสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ จากมหาวิทยาลัยเดียวกัน
เป็นผู้มีประสบการณ์และคร่ำหวอดอยู่ในการบริหารงานภาคเอกชนและธุรกิจไอทีมานานกว่า 22 ปี ผ่านการบริหารงานในบริษัทไอทีชั้นนำระดับโลกมาแล้วกว่า 10 ปี
นายพีระพงษ์ เคยดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เกรียงพัฒน์ จำกัด ซึ่งทำกิจการด้านไอที หลังจากนั้นก็คลุกคลีกับการบริหารงานด้านธุรกิจไอทีของบริษัทข้ามชาติ เริ่มจาก ผู้จัดการแผนกให้คำปรึกษา บริษัท ดิจิตอล อีควิปเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผ่านการบริหารงานในฐานะผู้ก่อตั้ง และกรรมการผู้จัดการ บริษัท คอมแพค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ต่อมาได้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ในปี 2540
ประสบการณ์ในการทำงานและความเชี่ยวชาญในบริหารงานของภาคเอกชน ตลอดจนการประสานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ทำให้นายพีระพงษ์ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ซึ่งมี ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล เป็นประธาน ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) ซึ่งเป็นองค์การมหาชนที่จัดตั้งขึ้นใหม่อย่างเป็นทางการ เมื่อประมาณกลางปี 2546 โดยเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการ สสปน. คนแรก เมื่อต้นปี 2547
รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อ
สุภาพร หวานเสนาะ / ภูเบศ แม้นทอง
โทร. 0-2616-6749-50
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.)
Thailand Convention and Exhibition Bureau (TCEB)--จบ--
-รก-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ