กรุงเทพฯ--18 พ.ย.--เวก้า อินเตอร์เทรด แอนด์ เอ็กซิบิชั่น
นายอัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเวก้า อินเตอร์เทรด แอนด์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด ออแกนไนเซอร์งานแสดงสินค้าอันดับ1 Niche market ในภูมิภาคตะวันออกกลางและโลกมุสลิมด้วยการบริหารจัดการแบบOne stop service และเป็นผู้เชี่ยวชาญตลาดอาหรับ ได้เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทในปี54 ว่า แม้ประเทศไทยประสบปัญหาอุทกภัยในไตรมาศสุดท้ายปี54 ธุรกิจของตนไม่ได้รับผลกระทบเพราะได้ทำการปิดการขายล่วงหน้าไปแล้วกว่า4เดือนก่อนกำหนดงานแสดงสินค้าท้ายปี54 แต่อาจกระทบกับผลการทำตลาดช่วงไตรมาศแรกของปี55 เพราะลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ของตนส่วนหนึ่งประมาณ25% ต้องกลับไปฟื้นฟูสถานประกอบการหลังภาวะน้ำลด
นายอัครวุฒิเปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานประสบความสำเร็จเกินคาดกว่าทุกปี ทำรายได้เพิ่มขึ้นกว่า30%จากปี53 เบ็ดเสร็จโดยรวมร่วม100ล้านบาท ทั้งนี้ตนเองไม่เน้นการสื่อสารการตลาด นอกจากช่องทางการให้ความรู้และความเข้าใจ แต่ชูกลยุทธ์ “การตลาดบอกต่อ” ผู้ประกอบการรายเดิมยังคงไว้วางใจและมั่นคงเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอย่างต่อเนื่อง มีการชักจูงเชิญชวนผู้ประกอบการรายอื่นๆเข้าร่วมงานด้วย โดยมีผู้ประกอบการใหม่ๆเพิ่มขึ้นเกือบ40% เฉพาะงานแสดงสินค้าโกลบอลวิลเลจดูไบ2011-2012 ซึ่งจัดระหว่างเดือนพฤศจิกายน54ถึงเดือนมีนาคม55 ประสบความสำเร็จมากเป็นพิเศษ ด้วยระยะเวลามาราธอนร่วม5เดือนทำให้ลูกค้าเดิมซึ่งเป็นผู้ประกอบการสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการต่างๆมีโอกาสพัฒนาตลาดและเจรจาการค้าอย่างต่อเนื่องสานสัมพันธ์ลูกค้าอาหรับเก่าและขยายตลาดลูกค้าอาหรับรายใหม่ๆ อีกทั้งผู้ประกอบการที่เพิ่งเข้าร่วมมีโอกาสทดลองตลาดและศึกษาลู่ทางการค้าและพฤติกรรมผู้บริโภค ปรับกลยุทธ์งานโชว์สินค้าได้ตรงกับความต้องการลูกค้าเป้าหมายและบริหารจัดการโลจิสติกส์ เพื่อระบายสินค้าได้อย่างสอดคล้องและมีประสิทธิภาพ
นายอัครวุฒิ กล่าวอีกว่า “ผมเน้นการสร้างความเชื่อถือและความไว้วางใจ (Trustful) มาโดยตลอด นอกเหนือจากศักยภาพของตลาดตะวันออกกลางที่เป็นโอกาสของสินค้าและบริการของไทยแล้ว โชคดีที่ประเทศต่างๆเจ้าภาพงานแสดงสินค้าระดับโลกและภูมิภาคอาหรับชื่อดังให้ความมั่นใจเลือกผมเป็นตัวแทนนำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานต่างๆ จึงเป็นการคัดสรรงานแสดงสินค้าที่มีคุณภาพให้กับผู้ประกอบการ ในปี55ผมเป็นตัวแทนงานแสดงสินค้า20งาน ด้วยกัน ซึ่งจะเน้นไปที่ 2งานแสดงสินค้า คือกลุ่มสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ และกลุ่มสินค้าทั่วไป”
กลุ่มงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ นายอัครวุฒิเผยว่า ตนได้แนะความเข้าใจกับผู้ประกอบการที่คุ้นเคยในตลาดยุโรป สหรัฐและญี่ปุ่น เกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภคอัญมณีและเครื่องประดับชาวอาหรับร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและองค์กรต่างๆมาเป็นเวลาร่วม9ปีแล้ว จนปัจจุบันที่สภาพเศรษฐกิจในตลาดหลักทรงตัว เริ่มมีผู้ประกอบการกล้าทดลองตลาดใหม่ ทำให้ตนมีลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการนี้เหนียวแน่น กลุ่มใหม่ๆก็เริ่มทดลองเข้าร่วมงานบ้างแล้ว โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบียเป็นตลาดอัญมณีที่ไทยจะเจาะตลาดได้คุ้มค่าและง่าย เพราะมีศักยภาพมาก กระแสมาแรงจริงๆ กลุ่มงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับปี55 จำนวน 7งานในซาอุดิอาระเบีย ยูเออี คูเวต เลบานอน และอินเดียคือ
1) 6th India Int'l Fashion Jewellery & Accessories Show 2012 ,10 - 13 Feb 12 ,Mumbai India
2) 32th Mid East Watch & Jewellery Show,27 - 31 Mar 12 ,Sharjah U.A.E.
3) 10th Gold & Jewellery Exhibition 2012,23 - 28 Apr 12, Mishref Kuwait
4) 6th Riyadh Int'l Gold Jewellery & Watch 2012,10 - 13 May 12, Riyadh Saudi Arabia
5) 6th Jeddah Int'l Gold Jewellery & Watch 2012,17 - 20 May 12 ,Jeddah Saudi Arabia
6) The 6th Saudi Int'l Jewellery & Watches Show,23 - 27 May 12, Dammam Saudi Arabia
7) 33th Mid East Watch & Jewellery Show 02 - 06 Oct 12 , Sharjah U.A.E.
ส่วนงานแสดงสินค้าทั่วไป ก็มีศักยภาพมากที่สุด เพราะชาวอาหรับชอบสินค้าไทยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว งานแสดงสินค้าอุปโภคบริโภคปี55 5งานในยูเออี คูเวต การ์ต้า เลบานอน คือ
1.Kuwait International Trade Fair ,25 May - 2 Jun 12, Mishref Kuwait
2.Doha Trade Fair 2012,01 - 10 Jan 12, Doha Doha Doha Qatar
3.Thai Pavilion - Global Village Festival,25 Jun - 10 Aug 12, Beirut Lebanon
4.Ramadan & Eid Festival 2011,09 - 30 Aug 12, Abu Dhabi U.A.E.
5.Thai Pavilion - Global Village 2012/2013, 01 Nov 12- 03 Mar 13, Dubai U.A.E.
นอกนั้นเป็นงานแสดงสินค้าในกลุ่มสินค้าอสังหาริมทรัพย์ตกแต่งและก่อสร้าง กลุ่มสินค้าอาหาร กลุ่มสินค้าสถานพยาบาลและท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยรวมทั้งหมดปี55 มีจำนวนทั้งสิ้น20งาน
นายอัครวุฒิ กล่าวสรุปว่า การทำตลาดในปี55 ตนหวังให้เพิ่มมากกว่าปี54 กว่า30% แต่การปฎิบัติดำเนินงานต่างๆ ตนอาจเริ่มช้ากว่าปกติด้วยผู้ประกอบการบางส่วนประสบปัญหาอุทกภัย ไตรมาศแรกคงเป็นการเตรียมช่องทางสื่อสารการตลาดไปยังกลุ่มผู้ประกอบการใหม่ซึ่งไม่ประสบปัญหาน้ำท่วม ตลอดจนการออกแบบและก่อสร้างคูหางานแสดงสินค้าและกิจกรรมที่เน้นเอกลักษณ์ไทยให้โดดเด่นและร่วมสมัย(Unique Thai’s construction & activity) ส่วนการทำตลาดจริงน่าจะเริ่มในไตรมาศ2 แต่โดยรวมปี55น่าจะยังสร้างผลประกอบการที่น่าพอใจและเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้