เปิดตัวหนังสือ ‘กึ่งศตวรรษ วิถีแห่งยามาฮ่า’ บันทึกความสำเร็จตำนานจักรยานยนต์คุณภาพของโลก

ข่าวทั่วไป Sunday December 25, 2011 09:03 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ธ.ค.--ดีซี คอนซัลแทนส์ฯ สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี ร่วมกับ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด และสำนักพิมพ์ฟ็อกซ์ เฮ้าส์ เปิดตัวหนังสือ ‘กึ่งศตวรรษ วิถีแห่งยามาฮ่า’ บันทึกความสำเร็จอันเป็นตำนานแห่งการก่อเกิดจักรยานยนต์ที่มีชื่อเสียงในเรื่องคุณภาพมากที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลก จากจุดกำเนิดสู่วิถีการสร้างแบรนด์ การต่อสู้ท่ามกลางวิกฤตสู่กรณีฉีกกฎความคิดนอกกรอบในอดีต 50 ปีที่ผ่านมา กลายเป็น ‘วิถียามาฮ่ายุคใหม่’ ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในเมืองไทย จึงเป็นเรื่องราวที่น่าติดตามและศึกษา เพื่อเป็นแบบอย่างในการดำเนินธุรกิจ หรือเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานส่วนบุคคล ตลอดจนเป็นอีกบทเรียนของงานสร้างสรรค์การตลาด ไอเดีย ดีไซน์ที่สอดคล้องกับผู้บริโภคในเมืองไทยในอนาคต มร. เกนอิจิ คาวาคามิ ผู้ให้กำเนิดจักรยานยนต์ยามาฮ่าคนแรก เคยกล่าวเอาไว้ว่า “สิ่งใดที่ไม่ได้มีคุณภาพระดับโลก สิ่งนั้นไม่ถือว่าเป็นสินค้า” หลังจากนั้นเป็นต้นมา ยามาฮ่าก็ได้ชื่อว่าเป็นจักรยานยนต์ที่มีคุณภาพมากที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลก จุดกำเนิดการเริ่มก่อตั้งครั้งแรกของยามาฮ่าคือ ชายหนุ่มที่ชื่อ โทรากุสุ ยามาฮ่า ในปี ค.ศ. 1884 ที่เดินทางไปถึงเมืองฮามามัทสุ เขาเป็นเพียงช่างซ่อมออร์แกน ซึ่งต่อมาได้เปิดบริษัทเพื่อผลิตออร์แกนขึ้นและใช้สัญลักษณ์ส้อมเสียงสามอันไขว้กัน ในปี ค.ศ. 1955 มร. เกนอิจิ คาวาคามิ ประธานคนที่ 4 แต่เป็นคนแรกที่นำธุรกิจจักรยานยนต์มาเปิดตลาดในญี่ปุ่น และเปิดตัวยามาฮ่าคันแรก ‘รุ่นแรกคือ YA1’ จากนั้น บริษัท ยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด จึงได้ถือกำเนิดขึ้น และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากเครื่องดนตรีสู่รถจักรยานยนต์ ภาพของล้อจักรยานยนต์ถูกรวมเข้ากับส้อมเสียงสามอัน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความสำคัญของการประสานกันระหว่างการผลิต การขาย และโครงสร้างทางวิศวกรรม กว่า 47 ปีมาแล้วที่ยามาฮ่าบุกตลาดในเมืองไทยท่ามกลางคู่แข่งขันที่แข็งแกร่ง และภาวะเศรษฐกิจที่กำลังตกต่ำอย่างหนัก โดยเฉพาะวิกฤตลดค่าเงินบาทในปี พ.ศ. 2540 ทำให้แทบจะมองไม่เห็นอนาคตของยามาฮ่าในตลาดรถจักรยานยนต์ในเมืองไทย แต่ นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด (ได้เปลี่ยนเป็นไทยยามาฮ่าเมื่อปี ค.ศ. 2000) และทีมงาน ก็ก้าวออกมาในฐานะผู้นำทัพในเมืองไทย เขานำกลยุทธใหม่ๆ ชนิด ‘นอกกรอบ’ มาใช้ ที่ไม่เหมือนการตลาดที่ไหนในโลก ตั้งแต่ครีเอทีฟ ดีไซน์ เทคนิค นวัตกรรมใหม่ๆ การโปรโมตสินค้าผ่านแนวการตลาดแบบขายไลฟ์สไตล์ อาทิ มิวสิก มาเก็ตติ้ง สปอร์ต มาเก็ตติ้ง และได้นำเอานักแสดง ศิลปิน นักร้องทั้งไทยและเกาหลีที่อยู่ในกระแสความนิยม มาเสริมภาพลักษณ์จักรยานยนต์ญี่ปุ่นอย่างได้ผล สิ่งเหล่านี้ทำให้ ‘วิถีแห่งยามาฮ่า’ ที่สืบทอดมาจาก เกนอิจิ คาวาคามิ ในอดีต 50 ปี กลายเป็น ‘วิถีแห่งยามาฮ่ายุคใหม่’ ที่เติบโตอย่างทะลุทะลวงในเมืองไทย นางสาวอภิรดี จูฑะศร (เอื้อง ยิปโซ) ผู้เขียนและผู้เรียบเรียงหนังสือ ‘กึ่งศตวรรษ วิถีแห่งยามาฮ่า’ กล่าวถึงที่มาของการจัดทำหนังสือว่า “วันหนึ่งได้มีโอกาสอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ยามาฮ่า เป็นการบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางที่ยาวนานมากถึง 50 ปี ซึ่งน่าสนใจมาก เพราะยากที่แบรนด์อื่นจะทำได้ จึงมีความคิดว่าน่าจะทำเป็นภาษาไทยให้คนไทยได้ศึกษาบ้าง หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่ปรัชญาการตลาด แต่เป็นเรื่องราวของการเปลี่ยนผ่าน การพัฒนา และที่น่าสนใจเป็นอย่างมากคือการที่ยามาฮ่าฝ่าฟันช่วงเวลาที่ยากลำบากและท้าทายมากมาย จนกลายเป็นเจ้าแรกที่ผลิตรถจักรยานยนต์สำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน หนังสือเล่มนี้จึงเป็นแรงบันดาลใจให้คนทั่วไปในเรื่องของการสร้างแบรนด์ รวมถึงการตลาดที่คิดก่อน ทำก่อน จนเป็นเทรนด์ที่คนอื่นๆ ต้องทำตาม” นายอภิวัติ โพธิสิทธิ์ นักสื่อสารมวลชนอาวุโส กล่าวว่า “ผมเคยได้รับเชิญจากคุณประพันธ์ให้ไปดูการผลิตของยามาฮ่าที่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้เห็นความอัศจรรย์ของการผลิต เพราะมีความยุ่งยาก ซับซ้อน ละเอียด และประณีตมาก เรียกได้ว่ามีเสน่ห์แบบที่ไม่ใช่แค่วิศวกรรม แต่เป็นงานศิลปะอย่างหนึ่ง ประกอบกับขณะนั้นได้อ่านหนังสือประวัติศาสตร์ยามาฮ่าภาคภาษาอังกฤษด้วย ก็เลยคิดว่าอยากทำเป็นภาษาไทยบ้าง เพราะยามาฮ่ามีแง่มุมทางการตลาดที่ไม่เหมือนใครในโลก โดยเฉพาะการตลาดในเมืองไทยที่ไม่เหมือนในประเทศญี่ปุ่น จนได้ปรึกษากับผู้เขียน และช่วยรวบรวมข้อมูล แปล รวมถึงสัมภาษณ์ผู้บริหาร จนออกมาเป็นหนังสือ ‘กึ่งศตวรรษ วิถีแห่งยามาฮ่า’ เล่มนี้” Mr. Fumiaki Nagashima (มร. ฟูมิอากิ นางาชิมา) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “ปรัชญาของยามาฮ่าตั้งแต่ 57 ปีก่อนคือ คันโดะ หมายถึงจิตวิญญาณของความท้าทาย แต่นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ความหมายที่ลึกซึ้งกว่านั้นคือ ทำอย่างไรถึงจะสร้างความพึงพอใจได้อย่างลึกซึ้งมากกว่าคำพูดที่จะสามารถอธิบายได้ ซึ่งไม่ใช่ความพึงพอใจธรรมดา แต่รู้สึกได้ถึงส่วนลึกของหัวใจ และทั้งหมดนั้นก็ได้ถูกถ่ายทอดลงในหนังสือเล่มนี้แล้ว” นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “การที่ยามาฮ่าประสบความสำเร็จได้นั้น เกิดขึ้นจากหลายองค์ประกอบด้วยกัน เริ่มตั้งแต่สินค้า การออกแบบ การตลาด การใช้พรีเซ็นเตอร์ เครือข่ายการขาย และที่สำคัญคือการสร้างแบรนด์ให้ชัดเจนจนทำให้ผู้บริโภคต้องเลือกซื้อสินค้า เรามีการทำสำรวจว่าทำไมถึงซื้อสินค้าตัวนี้ คำตอบที่ได้เป็นอันดับต้นๆ คือ‘แบรนด์’ ทุกครั้ง หนังสือ ‘กึ่งศตวรรษ วิถีแห่งยามาฮ่า’ อธิบายเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในเชิงการตลาด ผ่านการสัมภาษณ์ผู้บริหารอย่างหมดเปลือก ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทำมาจริงๆ” นายดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี และบริษัท ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด กล่าวว่า “ได้เฝ้าดูปรากฏการณ์ความสำเร็จของฟีโน่มานาน แต่ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลัง พอมาอ่านหนังสือ ‘กึ่งศตวรรษ วิถีแห่งยามาฮ่า’ จึงสามารถตอบโจทย์หนึ่งที่สำคัญได้ว่าแบรนด์ไม่ได้สร้างคน แต่คนเป็นผู้สร้างแบรนด์ และยังได้เห็นการถ่ายทอดจิตวิญญาณของความท้าทายและการสร้างสรรค์จากญี่ปุ่นมาเมืองไทย โดยมีการต่อยอดพัฒนา สิ่งที่ได้เห็นชัดคือการที่แบรนด์ต่างๆ อย่างฟีโน่นั้น มีจุดเริ่มต้นจากเมืองไทย หวังว่าหนังสือดีๆ เล่มนี้จะถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นกรณีศึกษาสำหรับแวดวงการศึกษาด้านการตลาด การบริหารธุรกิจ รวมถึงบุคคลทั่วไปที่สนใจในเรื่องการของการสร้างแบรนด์ก็สามารถอ่านได้เช่นกัน” นายอิษณัย งั่นบุญศรี ผู้จำหน่ายยามาฮ่า จังหวัดชุมพร กล่าวว่า “ผมเป็นดีลเลอร์มากว่า 40 ปี ปัจจุบันยามาฮ่ามีส่วนแบ่งทางการตลาดในจังหวัดชุมพรกว่า 30% ซึ่งผมคิดว่าเกิดจาก 3 องค์ประกอบด้วยกัน คือ ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค การมียามาฮ่า สแควร์ และการตลาดที่ทำให้ได้สัมผัสใกล้ชิดศิลปินดารามากขึ้น อย่างไรก็ตามผมก็ยังไม่เคยทราบถึงประวัติของยามาฮ่าจริงๆ จนได้อ่านหนังสือ ‘กึ่งศตวรรษ วิถีแห่งยามาฮ่า’ ทำให้รู้สึกทึ่งกับความมุ่งมั่นของผู้บริหาร ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้ผมมีความมุ่งมั่นมากขึ้นเช่นกัน” หนังสือ ‘กึ่งศตวรรษ วิถีแห่งยามาฮ่า’ จำนวนหน้า 272 หน้า ราคา 195 บาท วางจำหน่ายที่ร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ทุกสาขา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี โทร 0 2685 2255 หรือ www.dmgbooks.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ