กรุงเทพฯ--29 ธ.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
วิเคราะห์ราคาทางเทคนิคช่วงเช้า
Gold — ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในช่วงค่ำคืนตลาด Comex ในตลาดเอเชีย ภาพรวมโดยทั่วไปยังเป็นการซื้อในช่วง 1580-1590 เหรียญ ราคามาหลุดลงหนักในช่วงประมาณ 21.30 น. หลังจากหลุดบริเวณแนวรับที่ระดับ 1580 เหรียญ ลงมา โดยมีแรงเทขายตลอด จนไปทำจุดต่ำสุดในตลาด Comex ที่ระดับ 1552 เหรียญ โดยประมาณ และกลับมาปิดที่ระดับ 1564 เหรียญ ในขณะที่ค่าเงินยูโรเองได้หลุดแนวรับที่ระดับ 1.3000 ยูโร/ดอลลาร์ลงมา โดยเมื่อวานนี้ปรับตัวลดลง140 pip ลงมาอยู่ที่ระดับ 1.2950 ยูโร/ดอลลาร์ โดยประมาณ ราคาทองคำอยู่ในทิศทางขาลง โดยที่ได้วิเคราะห์ไปแล้วเมื่อ 7 วันก่อน ได้ย้ำเตือนให้นักลงทุนลงทุนในทิศทางขาลง โดยที่ราคาทองคำยังหลุดแนวรับสำคัญต่างๆ เข้ามาทดสอบที่ระดับ 1550 เหรียญ ภาพรวมๆ ยังเป็นแนวโน้มในทิศทางขาลง โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ระดับ 1500 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 1580 เหรียญ คำแนะนำนักลงทุนควรปรับสถานะพอร์ท ตามที่ได้แนะนำไปแล้ว 4-5 วันก่อนหน้านี้ ค่าเงินบาทยังคงอ่อนค่าเช่นเดียวกัน ทำให้ราคาทองของไทย ปรับตัวลงไม่มากนัก โดยค่าเงินบาทเมื่อวานอ่อนค่าลง 10 สตางค์ จาก 31.55 บาท/ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 31.65 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งทำให้ราคาทองคำของไทยอาจปรับตัวลงไม่มากนัก
สรุป ภาพรวมราคาทองคำยังไม่สดใส ดูเป็นแนวโน้มขาลง ระยะนี้อาจจะหลุดลงไปที่ระดับ 1450 เหรียญ ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญของนักลงทุนระยะยาวได้ ควรบริหารพอร์ทให้ดี Gold Future Series Z จะหมดอายุในวันนี้ ถ้านักลงทุนยังจะถือสถานะต่อ แนะนำให้เปลี่ยนไปถือใน Series G แทน ส่วน Silver Series Z จะหมดอายุในวันนี้ แนะนำให้เข้าถือใน Series G แทนเช่นกัน
หมายเหตุ — บทวิเคราะห์ที่สมบูรณ์แนะนำให้อ่านทั้ง 3 ส่วน ได้แก่ GOLD ANALYSIS, GOLD RECAP และ GOLD MARKET
คำแนะนำในการลงทุน Gold
Daily - เก็งกำไรในภาวะการแกว่งในทิศทางขาลง โดยแนวรับแรกที่ระดับ 1,550 เหรียญ แนวกรอบบนอยู่ที่ระดับ 1,570 เหรียญ แนะนำให้ขายก่อน แล้วค่อยซื้อปิดสถานะ ทำกำไรในทิศทางขาลง
Weekly - แนะนำให้ทำกำไรในทิศทางขาลง หลังจากที่เปิดสถานะ Short Position มาแล้ว 40% และปล่อยให้ Let Profit Run อาจทำกำไรบ้าง ถ้าราคาทองคำมีการรีบาวน์ขึ้นไป ให้เปิดสถานะ Short Position ต่อ
Monthly - เริ่มช้อนซื้อประมาณ 5-10%เท่านั้น โดยพอร์ทเดิมอยู่ที่ 0%
MORNING RECAP
ราคาทองคำในเวลาซื้อขายในประเทศ เปิดตลาดช่วงเช้า ณ ระดับ 1,586 เหรียญ/ออนซ์ Gold Futures Z11 เปิด ณ ระดับ 23,750 บาท Gold Futures G12 เปิด ณ ระดับ 24,130 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิด ณ ระดับ 23,700 บาท
ราคาทองคำเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบ อยู่ในช่วงระดับ 1,582 — 1,589 เหรียญ โดยเคลื่อนตัวสู่ระดับสูงสุดในช่วงเช้า ณ ระดับ 1,589 เหรียญ ก่อนจะเคลื่อนตัวสู่ระดับต่ำสุด ณ ระดับ 1,581 ในช่วงปลายตลาดภาคบ่าย และปิดตลาดภาคบ่าย ณ ระดับ 1,581 เหรียญ
NIGHT RECAP
ราคาทองคำในเวลาซื้อขายในประเทศ เปิดตลาดช่วงค่ำ ณ ระดับ 1,588 เหรียญ Gold Futures Z11 เปิด ณ ระดับ 23,760 บาท Gold Futures G12 เปิด ณ ระดับ 24,140 บาท
ราคาทองคำแกว่งตัวอยูในช่วงระดับ 1,570-1592 เหรียญ โดยในช่วงภาคค่ำราคาทองคำแกว่งตัวสูงสุด ณ ระดับ 1,592 เหรียญ ก่อนทำการแกว่งตัวสู่ระดับต่ำสุด 1,570 เหรียญ และทำการปิดตลาดภาคค่ำ ณ ระดับ 1,570 เหรียญ
สรุป ราคาทองคำแกว่งตัวในทิศทางลบ โดยราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากทางฝั่งยุโรปอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารกลางยุโรปได้รับเงินฝากข้ามคืนจากธนาคารพาณิชย์ในยุโรปสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.52 แสนล้านยูโร อีกทั้งความวิตกกังวลต่อผลการประมูลพันธบัตรรัฐบาลของอิตาลีที่จะมีขึ้นในวันนี้
ข่าวที่สำคัญ
ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้รับเงินฝากข้ามคืนจากธนาคารพาณิชย์ในยุโรปมากขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.52 แสนล้านยูโร (5.91 แสนล้านดอลลาร์) เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจาก 4.12 แสนล้านยูโรวันก่อนหน้า ยอดเงินฝากที่พุ่งสูงขึ้นเป็นผลมาจากการที่อีซีบีตัดสินใจปล่อยสินเชื่อ 3 ปี มูลค่า 4.89 แสนล้านยูโร ให้แก่ธนาคารพาณิชย์ 523 แห่งในยูโรโซนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นับเป็นสินเชื่อที่มีวงเงินสูงสุดเท่าที่อีซีบีอัดฉีดเข้าสู่ระบบธนาคารในประวัติศาสตร์ 13 ปีของยูโร โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1%
ธนาคารกลางอิตาลีเปิดเผยว่า อิตาลีระดมทุนได้ 9 พันล้านยูโร (1.18 หมื่นล้านดอลลาร์) ในการประมูลขายตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือน วันนี้ โดยให้อัตราดอกเบี้ยที่ 3.251% ต่ำกว่าระดับ 6.504% พันธบัตรอายุ 2 ปีที่ไม่มีการจ่ายดอกเบี้ยระหว่างงวด (Zero-coupon bond) มูลค่า 1.7 พันล้านยูโร ที่อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 4.853% ซึ่งลดลงระดับ 7.814% ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีของอิตาลี ลดลง 0.10% มาอยู่ที่ 4.97% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลง 0.22% แตะ 6.78%
สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส หรือ Insee เปิดเผยว่า ยอดหนี้สาธารณะของฝรั่งเศสลดลง 3.6 พันล้านยูโร (4.7 พันล้านดอลลาร์) มาอยู่ที่ 1.688 ล้านล้านยูโร ณ สิ้นไตรมาสสามปีนี้ สัดส่วนหนี้สินต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ลดลงเช่นกัน จากระดับ 86.2% ในไตรมาสสอง มาอยู่ที่ระดับ 85.3% ในไตรมาสสาม เนื่องจากจีดีพีขยายตัวในอัตรารวดเร็วขึ้นที่ 0.3% ในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. ในขณะเดียวกัน หนี้สินสุทธิของรัฐบาลฝรั่งเศสมีจำนวนอยู่ที่ 1.56 ล้านล้านยูโร หรือประมาณ 78.6% ของจีดีพี เมื่อเทียบกับระดับ 77.8% ในช่วงสามเดือนก่อนหน้า