กรุงเทพฯ--29 ธ.ค.--วว.
ดร.สุทธิพร ชีวสาธน์ รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนากลุ่มพัฒนาอย่างยั่งยืน สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) และ นายพศิน วีระสัย ประธานกรรมการบริษัท ซัคเซส เอ็นไวรอนเม้นส์ เมเนจเม้นส์ (เซ็ม) จำกัด ลงนามในบันทึกข้อตกลงโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยี เรื่อง การพัฒนาการผลิตเชื้อเพลิงอัดแท่งจากเศษเยื่อเหลือทิ้งของโรงงานผลิตเยื่อ และ/หรือ กระดาษด้วยระบบ Rotary ณ ห้องประชุม กวท. ชั้น 8 วว.เทคโนธานี คลองห้า จ.ปทุมธานี
ดร.สุทธิพร ชีวสาธน์ รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนากลุ่มพัฒนาอย่างยั่งยืน วว. ชี้แจงว่า สำหรับโครงการการพัฒนาเชื้อเพลิงอัดแท่งจากเศษเยื่อเหลือทิ้งของโรงงานผลิตเยื่อ และ/หรือกระดาษด้วยระบบ Rotary นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเศษเหลือทิ้งจากกระบวนการผลิตของโรงงานเยื่อกระดาษไปใช้ประโยชน์ด้านพลังงาน โดยการผลิตเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่ง ซึ่งนับเป็นความร่วมมือต่อเนื่องจากโครงการความร่วมมือบริการวิจัยการผลิตผ้าเพดานที่มีคุณสมบัติกันความร้อน โครงการนี้ยังได้นำเศษขยะเหลือทิ้งประเภทกากยิปซั่ม เศษเยื่อกระดาษจากกระบวนการ deinking มาทดลองผลิตบล็อกประสานสำหรับกั้นผนังภายในอาคาร
อย่างไรก็ตามทางบริษัทฯ ยังมีเศษเหลือทิ้งจากโรงงานเยื่อกระดาษอีกมาก ซึ่งมีศักยภาพในการใช้เป็นวัสดุชีวมวล สามารถให้พลังงานความร้อนได้ ดังนั้น วว. และ บ. เซ็ม ฯ จึงจะได้ร่วมกันนำเศษวัสดุดังกล่าวมาพัฒนาเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่งที่มีประสิทธิภาพสำหรับผลิตไอน้ำในหม้อต้มไอน้ำหรือแก๊สเชื้อเพลิงจากเตาปฏิกรณ์แก๊สซิไฟเออร์ ทั้งนี้หากสำเร็จจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการนำของเหลือทิ้งมาใช้ประโยชน์เพื่อลดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม
“...วว.มีความยินดีและพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วน มุ่งพัฒนาผลงาน นวัตกรรมที่เผยแพร่ไปสู่ผู้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ และความร่วมมือร่วมกันระหว่าง 2 หน่วยงานในครั้งนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะนำมาซึ่งประโยชน์แก่ประชาชนผู้บริโภค หรือ ผู้ผลิต ตลอดจนประเทศชาติโดยรวมต่อไป...” รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนากลุ่มพัฒนาอย่างยั่งยืน กล่าวเพิ่มเติม
ด้านนายพศิน วีระสัย ประธานกรรมการผู้จัดการบริษัท ซัคเซส เอ็นไวรอนเม้นส์ เมเนจเม้นส์ (เซ็ม) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมงานกับ วว. ต่อเนื่องเป็นโครงการที่ 2 เพื่อร่วมกันพัฒนาแท่งเชื้อเพลิงจากเยื่อกระดาษ ให้เป็นพลังงานที่สะอาดและยั่งยืน คาดว่าในราวกลางปีหน้าโครงการฯจะสำเร็จจากความร่วมมือของทั้งสองหน่วยงาน และหวังว่าจะได้ผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้าได้ในอนาคต