กรุงเทพฯ--24 ก.พ.--ปตท.
ปตท.จะศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับปรุงโรงแยกก๊าซหน่วยที่ 2 และ 3 เพื่อผลิตอีเทนเพิ่มขึ้น รองรับการขยายกำลังการผลิตเอทิลีนของเอ็นพีซี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและเป็นการใช้ประโยชน์สูงสุดแก่ระบบสนับสนุนต่าง ๆ ของเอ็นพีซี
วันนี้ ( 24 กุมภาพันธ์ 2547 ) ณ อาคารสำนักงานใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจในการซื้อขายก๊าซอีเทนเพิ่มเติม ระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยนายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และบริษัท ปิโตรเคมีแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือเอ็นพีซี โดยนายวิโรจน์ มาวิจักขณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ โดย ปตท.จะทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับปรุงโรงแยกก๊าซหน่วยที่ 2 และ 3 เพื่อจัดหาอีเทนเพิ่มเติมประมาณ 390,000 - 500,000 ตันต่อปี ให้กับเอ็นพีซี เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโครงการขยายกำลังการผลิตเอทิลีน และโครงการปิโตรเคมีขั้นต่อเนื่อง ซึ่งจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 ปี 2549
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าการลงนามซื้อขายก๊าซอีเทนส่วนเพิ่มให้กับเอ็นพีซีนับเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับก๊าซธรรมชาติแทนที่จะใช้เป็นเชื้อเพลิงอย่างเดียว และเป็นการใช้ประโยชน์สูงสุดจากโรงแยกก๊าซ ฯ ที่มีอยู่ปัจจุบัน นอกจากนี้ ปตท.และเอ็นพีซีจะศึกษาแนวทางในการจัดหา Utilities ต่าง ๆ ให้กับโครงการผลิตเอทิลีนของเอ็นพีซี และความเป็นไปได้ในการจัดตั้งบริษัทร่วมกันเพื่อจัดหา Utilities ดังกล่าว รวมถึงการที่ ปตท.อาจจะพิจารณาร่วมทุนในโครงการขยายกำลังการผลิตเอทิลีน และโครงการปิโตรเคมีขั้นต่อเนื่อง ของเอ็นพีซีในอนาคตด้วย
นายวิโรจน์ มาวิจักขณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปิโตรเคมีแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือเอ็นพีซี กล่าวว่า เอ็นพีซีมีแผนศึกษาการลงทุนในโครงการขยายกำลังการผลิตเอทิลีนขนาด 400,000 ตันต่อปีและโครงการผลิตโพลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นต่ำ (LDPE หรือ LLDPE) ซึ่งเป็นโครงการปิโตรเคมีขั้นต่อเนื่องของบริษัทฯ และเป็นการขยายสายการผลิตของบริษัทฯจากอุตสาหกรรม ปิโตรเคมีขั้นต้นไปสู่อุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นปลายภายหลังจากที่บริษัท ฯ ได้ลงทุนในโครงการผลิตโพลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นสูงไปก่อนหน้าแล้ว
LDPE คือโพลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นต่ำ เป็นพลาสติกที่มีคุณสมบัติเด่น คือ มีความใส เหนียว ลื่น และมีความมันวาว ใช้ในงานบรรจุภัณฑ์สำหรับตลาดบนที่มีคุณภาพสูง และเป็นการขึ้นรูปที่เน้นความสวยงามและความคงทนเป็นหลัก นอกจากนี้ยังใช้เป็นพลาสติกเคลือบพื้นผิว (Laminate) ในบรรจุภัณฑ์ต่างๆ สำหรับ LLDPE เป็นพลาสติกที่มีสูตรโครงสร้างเป็นสายโพลิเมอร์เส้นตรงที่ให้คุณสมบัติด้านความใสเป็นพิเศษ สามารถรับแรงดึงได้ดี มีต้นทุนการผลิตต่ำ มีการใช้งานที่หลากหลาย สามารถปรับเปลี่ยนประเภทของวิกฤติร่วม (comonomer) ต่างๆ ในแต่ละประเภท ให้สอดคล้องกับคุณสมบัติการใช้งานที่ต้องการแตกต่างกันไปได้นายวิโรจน์ฯ กล่าวว่า ถ้าหากโครงการขยายกำลังการผลิตเอทิลีนของบริษัท ฯ แล้วเสร็จในปี 2549 จะส่งผลให้กำลังการผลิตโดยรวมเป็น 1 ล้านตันต่อปี ซึ่งเป็นขนาดเทียบเท่ากับกำลังการผลิตของโรงโอเลฟินส์ในระดับสากล เป็นการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน และเป็นการใช้ประโยชน์สูงสุดให้แก่ระบบสนับสนุนต่าง ๆ ของบริษัทฯ นอกจากนี้ทาง ปตท.ยังให้ความสนใจที่จะเข้าร่วมลงทุนกับเอ็นพีซีอีกด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ส่วนประชาสัมพันธ์ กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ปตท.
โทรศัพท์ 0-2537-3217
โทรสาร 0-2537-3211--จบ--
-รก-