The Woman in Black หนังสยองขวัญเรื่องแรกของ แดเนียล แร็ดคลิฟฟ์ จากผู้สร้าง The Ring และ The Grudge

ข่าวบันเทิง Wednesday January 4, 2012 15:34 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 ม.ค.--สหมงคลฟิล์ม The Woman in Black เป็นผลงานเรื่องแรกของ แดเนียล แร็ดคลิฟฟ์ หลังจากเสร็จสิ้นการแสดงเป็นพ่อมด แฮร์รี่ พ็อตเตอร์ ในแฟรนไชส์หนัง Harry Potter ที่สร้างตั้งแต่ปี 2001-2011 โดยเขาก็ได้เลือกแสดงในภาพยนตร์ที่นำเรื่องเล่าสยองขวัญที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดแห่งศตวรรษที่ 20 มาทำ ผลงานจากผู้สร้างหนังสยองขวัญร่วมสมัยอย่าง The Ring และ The Grudge แดเนียล แร็ดคลิฟฟ์ พูดถึงการเลือก The Woman in Black เป็นจุดเริ่มต้น หลังจากรับบทใน Harry Potter มานานกว่าทศวรรษว่า “ผมอยากให้ทุกคนเข้าใจว่า ผมต้องการเติบโตอย่างแท้จริงในวงการบันเทิง และไม่คิดว่าผมจะเลือกเส้นทางที่ง่ายอย่างเช่นการแสดงหนังแฟนตาซีเรื่องอื่นๆ ผมอยากทำให้ทุกคนแปลกใจ และให้เห็นว่าผมมีศักยภาพพอที่จะแสดงในหนังแนวอื่น โดยส่วนตัวแล้วผมจะรู้สึกเบื่อถ้าไม่ได้ทำอะไรที่ท้าทายตัวเอง หรือทำให้ผมต้องพบกับความลำบาก” The Woman in Black คือหนังสยองขวัญที่สร้างจากนิยายคลาสสิกของ ซูซาน ฮิล ที่มีกลิ่นอายนิยายสืบสวนสอบสวนของ อกาธา คริสตี้ และนิยายสยองขวัญของ สตีเฟ่น คิง โดยมันถูกสร้างเป็นละครเวทีเวสเอนด์ของกรุงลอนดอน เริ่มแสดงตั้งแต่ปี 1989 จนถึงปัจจุบัน และยังสร้างเป็นภาพยนตร์ที่ฉายทางโทรทัศน์และละครวิทยุของ BBC มาแล้ว แดเนียล แร็ดคลิฟฟ์ รับบทเป็น อาเธอร์ คิปส์ ทนายจากลอนดอนที่เดินทางมาชนบทเพื่อขายบ้าน อีล มาร์ช แต่เขาก็ต้องพบกับความลับอันน่าสะพรึงกลัวที่เคยเกิดในบ้านหลังนี้ รวมถึงผู้หญิงในชุดดำปริศนาที่ตามหลอกหลอน โดยเขาก็ได้พูดถึงความแตกต่างระหว่างการรับบท แฮร์รี่ พ็อตเตอร์ กับตัวละครในเรื่องนี้ว่า “ผมคิดว่ามันเป็นก้าวที่สำคัญสำหรับผม เพราะว่านี่คือครั้งแรกที่ผมได้แสดงเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว อาเธอร์ เป็นทนายและมีลูกแล้ว และเขายังมีอดีตที่เจ็บปวด ซึ่งก็เชื่อมโยงกับสิ่งที่เขาเผชิญหน้าในบ้าน อีล มาร์ช ผมคิดว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญสำหรับผม” แดเนียล แร็ดคลิฟฟ์ ได้สรุปถึงความรู้สึกที่เขามีกับหนังเรื่องนี้ว่า “นี่คือหนังที่ถ้าผมไม่ได้แสดงเอง ผมก็คงกลัวเกินกว่าที่จะดูมัน (หัวเราะ) แต่ในขณะเดียวกันนี่คือหนังที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับคอหนังสยองขวัญ มันมีบรรยากาศที่น่ากลัวและมีองค์ประกอบของหนังแนวนี้อย่างครบถ้วน อย่างเช่นช่วงกลางของเรื่องที่เราแทบไม่มีบทพูดเลย แต่มันก็จะทำให้คนดูนั่งไม่ติดเก้าอี้ ผมไม่ได้เจอกับภาพยนตร์ที่จะทำให้คุณขนลุกโดยไม่รู้สึกตัวแบบนี้มานานแล้ว” 9 กุมภาพันธ์ นี้ ในโรงภาพยนตร์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ