TFEX ปี 2554 เทรดทะลุ 10 ล้านสัญญา เพิ่มขึ้นกว่า 120%

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 4, 2012 17:23 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 ม.ค.--ตลท. ปี 2554 ตลาดอนุพันธ์ (TFEX) ซื้อขายโดยรวมสูงถึง 10 ล้านสัญญา คิดเป็นเฉลี่ยวันละ 41,145 สัญญา เพิ่มขึ้น 120% จากปีก่อน เป็นผลจากการเติบโตของ Gold Futures ภายหลังการเพิ่มช่วงการซื้อขายในภาคค่ำ โดย SET50 Index Futures ยังคงครองแชมป์ซื้อขายสูงสุดด้วยสัดส่วน 43% รองลงมา ได้แก่ Gold Futures ที่สัดส่วน 40% และ Single Stock Futures ที่ 16% นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานของ TFEX ในปี 2554 นั้นเป็นที่น่าพอใจ โดยเติบโตทั้งด้านปริมาณการซื้อขายและจำนวนผู้ลงทุน ปริมาณการซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นเป็น 10,027,116 สัญญา หรือเฉลี่ยวันละ 41,145 สัญญา เทียบกับปีที่ผ่านมาที่ซื้อขายทั้งสิ้น 4,519,436 สัญญา หรือ วันละ 18,676 สัญญา ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 120% และสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของ TFEX ในปีนี้สูงถึงประมาณ 23,805 ล้านบาทต่อวัน “ปัจจัยสำคัญมาจากธุรกรรมของ Gold Futures ที่มีการซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นถึง 3 เท่าจาก 971,423 สัญญาในปี 2553 เป็น 3,989,278 สัญญา ในปี 2554 โดยมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ 16,350 สัญญา หรือ คิดเป็นมูลค่าประมาณวันละ 11,037 ล้านบาท เนื่องจากราคาทองคำได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นไปถึงระดับสูงสุดที่มากกว่า 1,900 เหรียญ สรอ. ในช่วงไตรมาสที่สาม และความผันผวนของราคาทองคำที่อยู่ในระดับสูง ประกอบกับ TFEX เปิดขยายเวลาซื้อขายในภาคค่ำไปจนถึงสี่ทุ่มครึ่งตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา สำหรับอนุพันธ์ที่อ้างอิงกับสินค้าโภคภัณฑ์โลก ได้แก่ Gold Futures, Silver Futures และ Oil Futures ทำให้ผู้ลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนและบริหารความเสี่ยงได้สอดคล้องและทันต่อสภาพการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดโลกมากขึ้น ทั้งนี้ Gold Futures ที่ซื้อขายในภาคค่ำนั้นคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 30% ของปริมาณการซื้อขายโดยรวมของ Gold Futures” นางเกศรากล่าว นอกจากนี้ การซื้อขาย SET50 Index Futures ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น โดยปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นถึง 73% จากระดับ 10,212 สัญญาในปี 2553 เป็น 17,690 สัญญา ในปี 2554 เป็นผลจากการที่ผู้ลงทุนใช้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลงทุนและบริหารความเสี่ยงในภาวะที่ตลาดหุ้นมีความผันผวน นอกจากนี้ TFEX ได้จัดให้มีการซื้อขายสินค้าเพิ่มเติม ทั้งการเพิ่มจำนวนหุ้นอ้างอิงของ Single Stock Futures อีก 16 ตัวในเดือนมีนาคม การเพิ่มสินค้าใหม่ ได้แก่ Silver Futures และ Oil Futures ในเดือนมิถุนายนและตุลาคม ตามลำดับ ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2554 ตลาดอนุพันธ์มีสถานะคงค้างรวมทั้งสิ้น 56,452 สัญญา ลดลง 28% จากจำนวน 77,955 สัญญาในปีก่อนหน้า และมีจำนวนบัญชีลูกค้าที่ซื้อขายอนุพันธ์รวมทั้งสิ้น 62,883 บัญชี เพิ่มขึ้น 50% จากสิ้นปี 2553 จาก 41,880 บัญชี สัดส่วนการซื้อขายของตลาดอนุพันธ์นั้นส่วนใหญ่ยังคงมาจากผู้ลงทุนรายบุคคลในประเทศที่ 60% ผู้ลงทุนต่างประเทศ 33.6% และผู้ลงทุนสถาบันในประเทศ 6.4% โบรกเกอร์อนุพันธ์ที่มีปริมาณการซื้อขายโดยรวมสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ บล.โกลเบล็ก มีสัดส่วนการซื้อขาย 11.28% บมจ.หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) 8.44% บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) 7.4% บ. เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ 5.67% และ บมจ.หลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) 5.42% ตามลำดับ ส่วนอันดับโบรกเกอร์ที่ซื้อขายสินค้ากลุ่ม Gold Futures และ Silver Futures สูงสุด 5 อันดับแรก เป็นโบรกเกอร์ที่มีการประกอบเครือข่ายธุรกิจด้านทองคำทั้งสิ้น ได้แก่ บล.โกลเบล็ก มีสัดส่วนการซื้อขาย 18.66% บ. เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ 14.14% บ.จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ 10.64% บ. ออสสิริส ฟิวเจอร์ส 10.14% และ บ. วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส 6.9% ตามลำดับ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ