บทสัมภาษณ์ “น้องน้ำขิง-สุธิดา หงษา” จัดเต็มความน่ารักแก่นแก้วทวีคูณ ใน “ปัญญาเรณู 2”

ข่าวบันเทิง Friday January 6, 2012 12:09 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ม.ค.--สหมงคลฟิล์ม บทบาท-คาแร็คเตอร์ เรื่องนี้ “เรณู” ก็ยังเหมือนเดิมนะคะ เป็นเด็กแก่นแก้วที่ไม่ยอมใครค่ะ ชั้นคิดอย่างนั้นต้องได้อย่างนั้นประมาณนี้ค่ะ แต่มาภาคนี้ก็จะแก่นแก้วมากขึ้น และก็ยังแอบหลงรักปัญญาอยู่เหมือนเดิม รักไม่มีวันเปลี่ยนแปลงค่ะ ก็มีคู่หูเพิ่มขึ้นมา ก็คือพี่ตุ๊กกี้ ที่เล่นเป็น อภัสรา ก็จะคอยแกล้งคนนั้นคนนี้ โดยเฉพาะไอ้จอบ ที่ชอบกันปัญญาให้ออกห่างจากหนู ซึ่งหนูก็ไม่ยอม หนูจะสู้ทุกอย่างค่ะ จะต้องคอยกีดกันไม่ให้มิวอยู่ข้างปัญญา ภาคนี้หนูก็ต้องร้องเพลงเหมือนเดิมด้วย ได้ร้องคู่กับมิว ได้ร้องคู่กับพี่ตุ๊กกี้ ภาคนี้ได้เล่นกับพี่ตุ๊กกี้ ภูมิใจมาก ฮามากทุกวันค่ะ พี่ตุ๊กกี้เค้าจะสอนตลอดเรื่องการแสดง การพูดบท เติมคำนั้นคำนี้เข้าไป พี่เค้าน่ารักมากค่ะ แล้วก็จะมีคู่กัดของหนูคือ ไอ้จอบค่ะ จะคอยกันหนูไม่ให้ใกล้ปัญญา แล้วเวลามิวมา ก็จะชอบจับปัญญาให้ใกล้กัน ปัญญาจะเป็นคนยังไงก็ได้ แต่จอบจะทำให้ปัญญามาอยู่กับมิวให้ได้ แล้วหนูเลยหาวิธีแกล้งจอบให้ได้ เพราะมันทนไม่ไหวละ เลยต้องแกล้งให้สาสม จนวันนั้นจอบเป็นไข้เลยค่ะ จะแกล้งด้วยวิธีอะไร ต้องไปดูกันในหนังค่ะ เรื่องราวของ “ปัญญาเรณู 2” ภาคนี้ก็ยังสะท้อนถึงวัฒนธรรมไทยเรานะคะ ในเรื่องหนูก็จะไปเจอกับพี่ตุ๊กกี้ในฉากตลาดควายนี่แหละค่ะ เพราะอยากได้ควายไปเลี้ยงเป็นคู่กับปัญญา จะเดินเล่นหนุงหนิงกันอะไรอย่างนี้แหละค่ะ เพราะมีใจให้ปัญญาตลอด รักเค้ามาก ห่วงเค้ามาก ที่นี้พอไปเจอพี่ตุ๊กกี้แล้ว มันก็เริ่มเป็นคู่หูกันตั้งแต่ตอนนั้น ไม่ว่าทำอะไรก็เหมือนตัวติดกันค่ะ เหมือนเป็นพี่สาวคนนึงค่ะ ทีนี้ มิวกับกี่ ก็มาจากกรุงเทพฯ มาขอความช่วยเหลือ จะให้ทิวไปช่วยแข่งขันร้องเพลง ก็สลับกัน ภาคแรกที่เค้าเคยมาช่วยเรา พอภาคนี้เราก็ไปช่วยเค้าบ้าง แต่หนูก็ยังกันท่าไม่ให้มิวกับปัญญาใกล้กันค่ะ หนูไม่ชอบ หนูหวงของหนูค่ะ ทีนี้พอเราไปกรุงเทพฯ เพื่อช่วยมิวกับกี่ มันก็จะมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นมากมายค่ะ เหตุการณ์จะเป็นยังไงก็ต้องติดตามดูกันค่ะ ยังต้องร้องเพลงด้วยในภาคนี้ ก็ร้องหลายเพลงค่ะ ร้องเดี่ยวเพลงนึง กับพี่ตุ๊กกี้เพลงนึง แล้วก็ร้องกับพี่มิวเพลงนึงค่ะ ฉากร้องเพลงเดี่ยวก็คือเพลง “เครียดเด๊ะ” เป็นฉากตัดพ้อปัญญาที่เหมือนจะนอกใจเรา แอบมีใจให้สาวกรุงเทพฯ เราก็เสียใจ เศร้ามาก จะมีมะลิ กะจำปาเพื่อนสนิทคอยให้กำลังใจค่ะ เศร้ามาก เศร้าตลอด เป็นเพลงช้า แต่ก็จะมีท่าฮาๆ ด้วยค่ะ (ให้ร้องเพลงโชว์) ถึงเพลงจะเศร้า แต่มันก็จะมีความฮาๆ ติดมาด้วยนิดๆ อ่ะค่ะ เป็นยังไงก็ต้องไปดูในโรงนะคะ อีกเพลงร้องกะพี่ตุ๊กกี้ เพลง “กะละมัง” พูดถึงอากาศวันนี้มันร้อนอบอ้าว เราก็ซักผ้าไป ซึ่งฉากนี้หนูก็จะสัญญากะพี่อภัสราว่า หนูจะไม่ทิ้งพี่แน่นอน เพราะพี่เค้าอยู่กะป้าค่ะ โดนพ่อแม่ทิ้ง หนูก็โอบกอดพี่เค้า จะอยู่เคียงข้างเสมอ ซักผ้าไป เพลงก็ขึ้น ร้องเพลงไป เล่นไปเต้นไป สนุกสนานค่ะ เพลงสนุกดีค่ะ เต้นก็สนุก แดนเซอร์ก็เต็มที่ หนูก็เต็มที่ ทุกคนก็เต็มที่มากๆ ค่ะ ส่วนอีกเพลงร้องกับพี่มิวเป็นฉากร้องเพลงประกวดคู่กันค่ะ หลายๆ ฉากในเรื่องให้กลิ่นอายแบบไทยๆ ที่หาดูยากในหนังยุคปัจจุบัน ใช่ค่ะ อย่างเช่น “ฉากเลี้ยงควาย” ก็ยากค่ะ เพราะหนูเป็นคนไม่เคยปลูกข้าว ปลูกแค่ผลไม้ที่บ้านหนูที่อุบลฯ เราไม่เคยคลุกคลีกับควาย เราก็เลยกลัว มีฉากนึงที่หนูโดนควายขวิดค่ะ หนูจะดึงมันเข้ามาๆ มันก็ไม่ยอมเข้ามา แล้วมันก็ขวิดหนู่ค่ะ “ฉากเกี่ยวข้าว” ฉากนี้หนูก็ได้เกี่ยวข้าวกับปัญญาค่ะ เกี่ยวเป็นคู่ๆ พี่ตุ๊กกี้ก็เกี่ยวคู่ลุงหม่ำ หนูก็สงสัยว่าทำไมมันถ่ายหลายเทคจัง ไม่เข้าใจ เห็นเค้าพูดกันว่า ลุงหม่ำเกี่ยวข้าวไม่เป็นค่ะ (หัวเราะ) แต่แกก็ทำท่าบิ้วไปกับเพลงได้ค่ะ ส่วนตัวหนูก็เกี่ยวไม่เป็นเหมือนกัน แต่ก็สู้ค่ะ วันนั้นหนูเกี่ยวทีละนิด แต่ก็ได้สองมัดใหญ่ค่ะ ก็เกี่ยวไม่เป็นจนเป็นเลยค่ะ “ฉากหนังกลางแปลง” ฉากนี้ก็จะเป็นฉากหนังขายยามาฉาย เราก็นัดปัญญาไปดูหนังกันดีกว่า วันนั้นเราก็แต่งตัวสวยซะเต็มยศเลย แต่ทีนี้พอไปถึงก็ไม่เจอปัญญาค่ะ หายังไงก็ไม่เจอ เลยตัดสินใจคว้าไมค์มาแล้วก็ตะโกนว่า “บักปัญญามึงอยู่ไส ออกมาฉาย ถ้าบ่ออกมาหนังบ่ฉาย” ปัญญาที่ไปหลบกับไอ้จอบ ไอ้แหว่งก็ออกมาค่ะ หนูก็งอนเดินสะบัดตูดออกไป เราต้องทำอารมณ์ดุๆ ค่ะ ก็เล่นอยู่หลายเทคเหมือนกัน ลุงท็อปก็จะบอกว่า ฉากนี้อารมณ์เดียวกับเจ้าแม่คะนองรักในภาคแรกเลยค่ะ ทีนี้ก็เล่นผ่านเลยค่ะ ความประทับใจที่ได้กลับมาแสดงอีกครั้งในภาคนี้ สนุกสนานค่ะ คือหนูได้มาเล่นกับพี่ตุ๊กกี้ขวัญใจหนู พี่เค้าเก่ง มีความสามารถ หนูชอบพี่เค้ามาก ภูมิใจมากที่ได้มาเล่นกับพี่เค้า เรื่องนี้หนูก็ชอบทุกอย่างที่เป็นภาคอีสาน เพราะหนูเป็นคนอีสานค่ะ หนูกินอะไรทุกอย่างที่เป็นอีสาน หนูชอบมาก พี่ตุ๊กกี้มาหนูก็หาให้พี่เค้ากินทุกอย่าง พี่เค้าชอบกินรังผึ้ง น้ำผึ้งมันจะออกหวานๆ แต่พี่เค้าไม่กิน พี่เค้าจะกินรังมันอ่ะค่ะ ความสนุกของภาคสองนี้ ก็จะสนุกสนานมากขึ้น เพราะมีลุงหม่ำกับพี่ตุ๊กกี้มาเพิ่มสีสัน และหนูกับพี่ตุ๊กกี้จะเล่นคู่กันเลยค่ะ ก็จะสนุกมากขึ้น มีการเข้าไปผจญภัยในกรุงเทพฯ มีความตลกมากขึ้นด้วยค่ะ การแสดงในภาคนี้มีความยากง่ายอย่างไร มันก็ยากนะคะ ยิ่งภาคนี้หนูต้องเข้าเกือบทุกฉาก เพราะลุงท็อปบอกว่าเพิ่มบททุกคน เทียบกับภาคแรกมันก็ง่ายขึ้นมาบ้าง เพราะเรามีประสบการณ์มาบ้างแล้ว โดยรวมแล้วก็เล่นง่ายขึ้นกว่าภาคแรกค่ะ การร่วมงานกับทีมนักแสดง พี่ทิวเค้าก็ตั้งใจอยู่นะคะ แต่เค้าจะพูดแบบสมรักษ์อ่ะค่ะ จนพี่ตุ๊กกี้ตั้งฉายาว่า สมรักษ์2 ค่ะ เค้าพูดไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่อ่ะค่ะ ลุงหม่ำจะไม่ค่อยคุยกะใคร จะเงียบๆ เป็นตัวของตัวเอง แต่เวลาเข้าฉากนี่จะกลายเป็นคนละคนเลยค่ะ เก่งมากค่ะ ส่วนพี่ตุ๊กกี้ก็จะเป็นตัวของตัวเอง แกจะเอาของมาฝากเรื่อย หนูก็ค่อนข้างสนิทกะพี่เค้าค่ะ แต่ก็ไม่ได้สนิทมาก เพราะพี่เค้าเป็นรุ่นใหญ่หนูไม่ค่อยกล้าไปเทียบกะเค้าค่ะ แต่ก็คุยกันได้สบายค่ะ การทำงานของลุงท็อปผู้กำกับเป็นยังไง แกก็จะดุเป็นบางครั้งนะคะ ใส่อารมณ์เข้าไปเลย ไม่ต้องกลัว หนูก็ใส่ไปตามแก แกก็ดุบ้าง เลี้ยงขนมบ้าง ตอนใจดีก็จะใจดีมาก แต่ตอนดุก็ดุมากเหมือนกันค่ะ เป็นคนทำงานละเอียด กว่าจะผ่านไปแต่ละฉากก็จะยากและเล่นอยู่หลายครั้งเลยค่ะ คาดหวังกับภาคสองยังไง สั้นๆ เลยนะคะ ก็ขอให้ไม่ขาดทุนก็แล้วกันค่ะ อยากให้คนมาดูเยอะๆ ค่ะ ความน่าสนใจโดยรวมของภาคนี้ เสน่ห์ของภาคนี้ก็จะมีมากขึ้น เพราะว่ามีพี่ตุ๊กกี้กะลุงหม่ำมาช่วยให้ความฮาค่ะ เรื่องนี้หนูก็ได้ร่วมงานกับไอดอลของหนู คือพี่ตุ๊กกี้กะลุงหม่ำ หนังสะท้อนกลิ่นอายวัฒนธรรมอีสาน ความสนุกจะเพิ่มขึ้นมาอีกเพราะมีพี่ตุ๊กกี้กะลุงหม่ำมาช่วย โดยคาแร็คเตอร์ของเรณูก็ก็จะแก่นแก้วมากขึ้น จะสร้างความป่วนมากขึ้น จะทำให้ปัญญามารักฉันให้ได้ ดีกว่าภาคแรกแน่นอน สนุกมากแน่นอน จะฮาก็ฮามาก จะเศร้าก็เศร้ามากค่ะ ก็ฝากหนัง “ปัญญาเรณู 2” เข้าฉายวันที่ 26 มกราคมไว้ด้วยค่ะ ติ๊ดใจเจ้าแม่คะนองรักจากภาคแรก ก็ต้องเบิ่งภาคนี้ค่ะ แซบหลายค่ะ อย่าลืมมาเบิ่งเด้อค่ะ หนูเล่นกับพี่ตุ๊กกี้ฝาแฝดหนูค่ะ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ