"ประชัย"ชนะคดีฟ้องหมิ่นประมาท หนังสือพิมพ์ดิอีโคโนมิสต์จ่าย2ล้าน

ข่าวทั่วไป Tuesday March 2, 2004 16:07 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--โอเอซิส มีเดีย
ด่วน! ศาลจังหวัดนนทบุรี มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ "ประชัย เลี่ยวไพรัตน์"ชนะคดี กรณีฟ้องหมิ่นประมาทหนังสือพิมพ์ดิอีโคโนมิสต์ ระบุงานนี้เจ้าของหนังสือต้องจ่าย 2 ล้านบาท
รายงานข่าวจากศาลจังหวัดนนทบุรี แจ้งว่า เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2547 ศาลฯได้พิจารณาคดีหมายเลขแดงที่ ส 87/2547 เกี่ยวกับคดีละเมิด ระหว่างนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ในฐานะโจทก์ และบริษัท ดิอีโคโนมิสต์ นิวส์เปเปอร์ จำกัด เจ้าของหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์"ดิอีโคโนมิสต์"ในฐานะจำเลย โดยศาลฯได้มีคำพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 2,000,000 ล้าน(สองล้านบาท)ให้แก่โจทก์ จากวงเงินที่โจทก์ยื่นฟ้องค่าเสียหาย 420 ล้านบาท และให้จำเลยลงโฆษณาเต็มหน้ากระดาษแจ้งข้อความในหนังสือพิมพ์ดิอีโคโนมิสต์ในข้อความที่โฆษณาหมิ่นประมาทใส่ความ และเผยแพร่ข่าวที่ไม่เป็นความจริง อันเป็นการละเมิดต่อโจทก์ รวมทั้งจำเลยต้องลงโฆษณาข้อความดังกล่าวในหนังสือพิมพ์ชั้นนำ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษอีกหลายฉบับ
คดีดังกล่าวโจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 21-27 มิถุนายน 2546 จำเลย(หนังสือพิมพ์ดิอีโคโนมิสต์) ได้กระทำความผิดละเมิดต่อโจทก์กล่าวคือ จำเลยได้ใส่ความโจทก์และตีพิมพ์เผยแพร่ข่าวในข้อความที่ไม่เป็นความจริงในหนังสือพิมพ์ดิอีโคโนมิสต์ ฉบับลงวันที่ 21-27 มิถุนายน 2546 โดยหมิ่นประมาทโจทก์ว่า โจทก์เป็นนักธุรกิจที่มีอิทธิพล มีเส้นสายทำให้อำนาจควบคุมบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด(มหาชน)บางส่วนอาจกลับมาอยู่ในมือโจทก์ และยังระบุว่า โจทก์นำบริษัทดังกล่าวไปสู่ความล้มละลาย
นอกจากนี้ ยังระบุอีกว่า โจทก์พยายามถ่วงเวลาเจ้าหนี้ในคดีล้มละลายของทีพีไอ และใช้จ่ายเงินอย่างไม่ระมัดระวังในการสร้างท่าเรือและโครงการอื่น ๆ และพยายามทำให้ทีพีไอ มีสินทรัพย์มากกว่าหนี้สินโดยการให้ข้อมูลที่เป็นเท็จในสมุดบัญชี โดยมีการเพิ่มราคาสินทรัพย์มากกว่าความเป็นจริง
และยักย้ายเงินออกทางประตูหลังหรือการไชฟ่อนเงิน โดยจ่ายเงินค่าเช่า 90 ปีล่วงหน้า ซึ่งเป็นค่าเช่าอาคารของครอบครัวโจทก์
แต่ในความจริงโจทก์ระบุว่า โจทก์ได้ทำหน้าที่ในฐานะกรรมการของทีพีไอตามขอบเขตอำนาจหน้าที่โดยสุจริต ไม่เคยคดโกง หาประโยชน์ที่ไม่ชอบด้วยระเบียบข้อบังคับของบริษัทและไม่ชอบด้วยกฎหมายเพื่อตนเอง ผู้อื่นหรือบริษัทครอบครัวโจทก์แต่อย่างใด และไม่เคยให้ข้อมูลหรือแสดงตัวเลขในสมุดบัญชีเป็นเท็จ ไม่เคยยักย้ายถ่ายเทเงินของบริษัทโดยไม่ชอบ ซึ่งข้อกล่าวหาดังกล่าว ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียงเกียรติคุณ เสื่อมเสียเกียรติยศ เสื่อมเสียความน่าเชื่อถือในทางธุรกิจ เสียช่องทางทำมาหาได้ ถูกดูหมิ่นเกลียดชังจากผู้อ่านหนังสือพิมพ์ดิอีโคโนมิสต์และประชาชนทั่วไปที่รู้ข่าว
ดังนั้น โจทก์จึงเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 420,000,000 บาท(สี่ร้อยยี่สิบล้านบาท)และค่าเสียหายในอัตราวันละ 210,000 บาทนับจากวันฟ้องจนกว่าจำเลยจะงดเว้นระทำละเมิดต่อโจทก์ นอกจากนี้ ให้จำเลยลงตีพิมพ์โมษณาข้อเท็จจริงที่ใส่ความหมิ่นประมาทโจทก์ในหนังสือพิมพ์ชั้นนำ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เช่น หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ เดอะเนชั่น บิสซิเนสเดย์ วอลสตรีทเจอนัล ไฟแนนเชียลไทม์ วอชิงตันโพสต์ กรุงเทพธุรกิจ ผู้จัดการรายวัน ไทยรัฐ เดลินิวส์ สยามรัฐ และมติชน เป็นเวลา 14 วันอีกด้วย--จบ--
-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ