กรุงเทพฯ--3 มี.ค.--กทม.
สำนักอนามัย เตือนประชาชนให้รู้จักเลือกซื้อและบริโภคอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารใส่สารกันบูด ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
นพ.เอี่ยม วิมุติสุนทร ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม.กล่าวว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมการผลิตอาหารได้พัฒนาไปมาก มีการนำสารเคมีชนิดต่าง ๆ มาใช้ปรุงแต่งอาหารมากมาย และสารกันบูดก็เป็นสารเคมีอีกชนิดหนึ่งที่นิยมใส่ในอาหาร เพื่อช่วยป้องกันหรือช่วยทำลายเชื้อจุลินทรีย์ไม่ให้เจริญเติบโตทำให้อาหารนั้นอยู่ได้นานและไม่บูดเสียง่าย ซึ่งการใช้สารกันบูดในอาหารอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภคได้ ตัวอย่างเช่นสารกันบูดในกลุ่มของดินประสิว ซึ่งนิยมนำมาใช้กับอาหารประเภทเนื้อสัตว์ หากใช้ในปริมาณที่เกินกำหนด จะมีผลทำให้ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ ในรายที่มีอาการรุนแรงจะมีผลต่อเม็ดเลือดแดง ทำให้เม็ดเลือดแดงหมดสภาพในการ พาออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้เกิดอาการตัวเขียวหายใจไม่ออก และอาจถึงตายได้ นอกจากนี้ดินประสิวยังเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วย ดังนั้นผู้ผลิตอาหารที่ใช้สารกันบูดผสมลงในอาหารต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของ ผู้บริโภค เลือกใช้สารกันบูดให้เหมาะสมกับชนิดของอาหารแต่ละประเภทในปริมาณที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากำหนดให้ใช้เท่านั้น และควรพิจารณาใช้ในกรณีจำเป็นจริง ๆ คือ กรณีที่ไม่มีวิธีใดจะช่วยถนอมอาหารนั้น ๆ ได้แล้ว ทั้งนี้ผู้ผลิตอาจจะได้รับโทษตามกฎหมายและทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงได้อีกด้วย
ผู้อำนวยการสำนักอนามัย ได้แนะนำผู้บริโภคเกี่ยวกับการเลือกซื้ออาหาร เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจากสารเคมีในอาหาร ดังนี้ เวลาซื้ออาหารสำเร็จรูปที่บรรจุในกล่อง ขวด หรือกระป๋อง ควรดูสลากอาหารและเลือกอาหารที่ระบุว่าไม่ใส่สารกันบูด ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่ไม่มีการระบุชัดเจนว่าใช้สารกันบูดหรือไม่ หลีกเลี่ยงการซื้ออาหารที่ผนึกขายในถุงพลาสติก หรือกล่องพลาสติกที่ไม่ได้ขายหมดวันต่อวัน หลีกเลี่ยงการซื้ออาหารที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะใส่สารกันบูด เช่น แหนม หมูยอ เนื้อเค็ม เนื้อแห้ง กุนเชียง และน้ำพริกชนิดต่าง ๆ เป็นต้น งดการกินอาหารที่อาจมีสารกันบูดอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในสุขภาพของตัวท่านและครอบครัว--จบ--
-นห-