ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกัน “บ. โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย)”: ระยะกลางที่ระดับ “AAA” ระยะสั้นที่ระดับ “T1+” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 23, 2012 16:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ม.ค.--ทริสเรทติ้ง บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันภายใต้โครงการ Medium-term Debenture ในวงเงินรวม 40,000 ล้านบาทของ บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (“TLT” หรือ “ผู้ออกหุ้นกู้”) ที่ระดับ “AAA” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันของบริษัทภายใต้โครงการ Short-term Debenture มูลค่า 10,000 ล้านบาท (1/2554) ที่ระดับ “T1+” ส่วนแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ หุ้นกู้ทั้งหมดของบริษัทได้รับการค้ำประกันโดย Toyota Motor Finance (Netherlands) B.V. (“TMF” หรือ “ผู้ค้ำประกัน”) โดย TMF เป็นบริษัทลูกของ Toyota Financial Service Corporation (TFS) ที่ถือหุ้น 100% โดย Toyota Motor Corporation (TMC) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มโตโยต้า บริษัททั้ง 3 แห่งคือ TMF, TFS และ TMC ได้รับการจัดอันดับเครดิตระดับ “AA-” จาก Standard & Poor’s (S&P) และระดับ “Aa3” จาก Moody’s Investors Service (Moody’s) รวมทั้งได้รับการจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้ระยะสั้นที่ระดับ “A-1+” จาก S&P และ “P-1” จาก Moody’s ด้วย ทริสเรทติ้งรายงานว่า ผลประกอบการของ TMC ปรับตัวดีขึ้นนับตั้งแต่รอบปีบัญชี 2553 (เมษายน 2552-มีนาคม 2553) หลังจากได้รับผลกระทบจากปัญหาที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพสินค้ารถยนต์ในรอบปีบัญชี 2552 โดย TMC รายงานผลกำไรสุทธิ 209 พันล้านเยนในรอบปีบัญชี 2553 จากที่มีผลขาดทุนสุทธิจำนวน 437 ล้านเยนในรอบปีบัญชี 2552 ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในรอบปีบัญชี 2554 ด้วยกำไรสุทธิ 408 พันล้านเยน อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิครั้งใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ได้ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทในรอบปีบัญชี 2555 โดยโรงงานของกลุ่มโตโยต้าทั้งในประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศต้องหยุดการผลิตเนื่องจากปัญหาการขนส่งที่ล่าช้าและการขาดแคลนส่วนประกอบรถยนต์ ส่งผลให้ยอดผลิตรถยนต์รวมลดลง 572,000 คัน เหลือ 3,074,000 คันในช่วงครึ่งแรกของรอบปีบัญชี 2555 เมื่อเทียบกับจำนวนการผลิต 3,646,000 คันในช่วงเดียวกันของรอบปีบัญชี 2554 ในครึ่งแรกของรอบปีบัญชี 2555 ยอดขายก็ลดลง 688,000 คันเหลือ 3,027,000 คันเมื่อเทียบกับ 3,715,000 คันในครึ่งแรกของรอบปีบัญชีก่อนหน้า TMC รายงานผลกำไรสุทธิ 82 พันล้านเยนสำหรับครึ่งแรกของรอบปีบัญชี 2555 ซึ่งลดลงจาก 289 พันล้านเยนในช่วงเดียวกันของรอบปีบัญชี 2554 ทริสเรทติ้งกล่าวว่า อุทกภัยครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในช่วงปลายปี 2554 ส่งผลทำให้การผลิตรถยนต์ของกลุ่มโตโยต้าทั่วโลกลดลงจากปัญหาการขาดแคลนส่วนประกอบรถยนต์เนื่องจากส่วนประกอบจำนวนมากผลิตในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวคาดว่าจะไม่รุนแรงเท่ากับผลกระทบจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในประเทศญี่ปุ่น นอกเหนือจากผลกระทบจากภัยพิบัติทั้งหลายที่กล่าวมาแล้ว การแข็งค่าของสกุลเงินเยนยังเป็นอุปสรรคต่อความสามารถในการทำกำไรของ TMC ด้วย โดยการฟื้นตัวของผลประกอบการทางการเงินและผลการดำเนินงานคาดว่าจะชะลอตัว และบริษัทจะยังคงเผชิญกับความท้าทายในการปรับปรุงความสามารถในการทำกำไรให้แข็งแกร่งขึ้น อย่างไรก็ตาม สถานะทางการตลาดและการแข่งขันที่เข้มแข็งของบริษัทได้รับแรงหนุนจากการกระจายตัวของตลาดและผลิตภัณฑ์ ตลอดจนความเป็นผู้นำในเทคโนโลยี และความเสี่ยงทางการเงินในระดับต่ำ อันดับเครดิตหุ้นกู้ระยะปานกลางและระยะสั้นของ TLT สะท้อนถึงการค้ำประกันแบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้โดย TMF ซึ่งอันดับเครดิตของ TMF อยู่บนพื้นฐานของสถานะอันดับเครดิตของ TMC ภายใต้โครงสร้างการค้ำประกันดังกล่าว TMC ได้ทำสัญญาให้การสนับสนุนสินเชื่อ (Credit Support Agreement หรือ CSA) กับ TFS ในขณะเดียวกัน TFS ก็ได้ทำสัญญา CSA กับ TMF ด้วยเช่นกัน ภายใต้เงื่อนไขของสัญญา CSA ดังกล่าว TMC จะทำหน้าที่รักษาสภาพคล่องทางการเงินให้อยู่ในระดับที่เพียงพอสำหรับรองรับภาระหนี้หุ้นกู้ หรือพันธบัตร และตราสารทางการเงิน (Commercial Paper) อื่น ๆ ของบริษัทลูกซึ่งได้แก่ TFS และ TMF นอกจากนี้ TMC จะเป็นผู้จัดหาสภาพคล่องทางการเงินที่เพียงพอสำหรับเงื่อนไขการค้ำประกันของ TMF ด้วย ทั้งนี้ การค้ำประกันของ TMF บังคับใช้ภายใต้กฎหมายของประเทศเนเธอร์แลนด์โดยเป็นการค้ำประกันแบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้ ซึ่งผู้ค้ำประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบในการชำระเงินตามกำหนดเวลาของหุ้นกู้แต่ละชุดที่ออกให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ของ TLT ทั้งนี้ ภาระการค้ำประกันของ TMF มีสถานะทางกฎหมายอยู่ในระดับเดียวกับตราสารหนี้ไม่มีประกันและไม่ด้อยสิทธิอื่น ๆ ของผู้ค้ำประกันที่ออกทั้งในปัจจุบันและในอนาคต อีกทั้งยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขหรือเพิกถอนโดยปราศจากการยินยอมทั้งจากตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้และผู้ค้ำประกันได้ อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ผู้ค้ำประกันไม่มีภาระในการชำระหนี้ใดใดแทนในกรณีที่ผู้ออกหุ้นกู้ไม่สามารถชำระหนี้ด้วยเหตุอันเกิดจากการเข้าแทรกแซง หรือการกระทำต่าง ๆ โดยองค์กรใดใดของรัฐบาลไทย ดังนี้ (1) ชะงักการชำระเงินเนื่องจากผู้ออกหุ้นกู้ไม่สามารถโอนเงินไปให้นายทะเบียน หรือผู้ถือหุ้นกู้ หรือไม่สามารถแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นสกุลเงินที่ต้องชำระตามหุ้นกู้ (2) ทำให้ต้องมีการโอนการถือหุ้นข้างมากหรือการควบคุมผู้ออกหุ้นกู้ไปยังองค์กรอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกของกลุ่มโตโยต้า (3) การเวนคืนหรือการโอนซึ่งทรัพย์สินของผู้ออกหุ้นกู้ให้เป็นของรัฐซึ่งมีมูลค่ารวมอย่างน้อย 10% ของมูลค่าสุทธิของสินเชื่อเช่าซื้อสุทธิของผู้ออกหุ้นกู้และบริษัทลูกของผู้ออกหุ้นกู้ และ (4) การเวนคืนหรือการโอนทรัพย์สินให้เป็นของรัฐอันมีผลทำให้ผู้ออกหุ้นกู้และบริษัทลูกของผู้ออกหุ้นกู้ไม่สามารถประกอบธุรกิจได้ ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งเห็นว่าโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวมีน้อยมาก ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนความน่าเชื่อถือของบริษัทแม่ลำดับสุดท้ายของ TLT คือ TMC ซึ่งมีสถานะที่เข้มแข็งในตลาดการค้าสำคัญแม้ว่าจะอ่อนตัวลงจากผลกระทบของปัญหาด้านคุณภาพสินค้ารถยนต์ รวมถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในประเทศญี่ปุ่น และอุทกภัยใหญ่ในประเทศไทย โดยความเข้มแข็งดังกล่าวเกิดจากการขยายขอบเขตธุรกิจสู่ภูมิภาคต่าง ๆ และการเพิ่มความหลากหลายของสินค้า ปัจจุบัน TMC ได้รับแนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” ทั้งจาก S&P และ Moody’s ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลในผลกระทบจากแผ่นดินไหวและ อุปสรรคต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อผลประกอบการของ TMC รวมถึงความกังวลต่อการสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดและสถานะทางการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตในปัจจุบันที่ระดับ “AA-” ซึ่งจัดโดย S&P และ “Aa3” โดย Moody’s ยังคงสะท้อนสถานะเครดิตที่แข็งแกร่งของ TMC เมื่อเทียบกับบริษัทต่าง ๆ ในประเทศไทยที่ได้รับอันดับเครดิตในระดับ National Scale ที่ “AAA” จากทริสเรทติ้ง บริษัท โตโยต้าลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด อันดับเครดิตตราสารหนี้: หุ้นกู้มีการค้ำประกันในวงเงิน 40,000 ล้านบาท ในโครงการ Medium-term Debenture: - TLT124A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555 คงเดิมที่ AAA - TLT128A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555 คงเดิมที่ AAA - TLT129A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,150 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555 คงเดิมที่ AAA - TLT12DA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555 คงเดิมที่ AAA - TLT134A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 2,150 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 คงเดิมที่ AAA - TLT136A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 คงเดิมที่ AAA - TLT138A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 คงเดิมที่ AAA - TLT139A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,750 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 คงเดิมที่ AAA - TLT13OA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 2,250 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 คงเดิมที่ AAA - TLT13DA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 คงเดิมที่ AAA - TLT145A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 คงเดิมที่ AAA - TLT149A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 1,050 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 คงเดิมที่ AAA หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 10,000 ล้านบาท ในโครงการ Short-term Debenture (1/2554) คงเดิมที่ T1+ แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่) บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ