UAC แจงแค่ศึกษาธุรกิจน้ำมันพืช เพื่อต่อยอดพลังงานทดแทน ปฏิเสธการเข้าเทคโอเวอร์ร่วมกับ บมจ.บางจาก

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 26, 2012 17:09 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 ม.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์ บมจ.ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ฯ ออกโรงปฏิเสธข่าว กรณีเข้าเทคโอเวอร์ โรงงานน้ำมันพืช บมจ.ทรัพย์ศรีไทย (SST) ร่วมกับ บมจ.บางจาก ด้านผู้บริหาร UAC “กิตติ ชีวะเกตุ” ระบุ ยอมรับว่าเข้าไปศึกษาธุรกิจน้ำมันพืช เพื่อหวังต่อนำมาต่อยอดธุรกิจพลังงานทดแทน จริง แต่เป็นเพียงแผนการศึกษาเท่านั้น ส่วนการระดมทุน เพื่อลงทุนในโครงการใหม่ ผ่านเครื่องมือทางการเงินนั้น คาดได้ข้อสรุปภายในไตรมาส1/55 นายกิตติ ชีวะเกตุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ. ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์ (UAC) ชี้แจ้งกรณีข่าวการเข้าซื้อธุรกิจน้ำมันพืชว่า บริษัทฯมีการเข้าไปพูดคุย/หารือกับบริษัททรัพย์ศรีไทย จำกัด(มหาชน)หรือSST ตามที่เป็นข่าวจริง แต่ไม่ได้เป็นการเจรจาร่วมกับ บมจ.บางจาก ปิโตรเลียม (BCP)เพื่อการซื้อกิจการ(เทคโอเวอร์)บริษัทดังกล่าว แต่เป็นการหารือกับ บจก.บางจากไบโอฟูเอล(BBF) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่บริษัทฯถือหุ้นอยู่ร้อยละ 30 ว่าควรเข้าศึกษาในธุรกิจน้ำมันพืช เพื่อเป็นการช่วยส่งเสริมธุรกิจพลังงานทดแทนของบริษัทร่วมทุนได้อย่างไร ซึ่งในขณะนี้บริษัทฯก็ยังไม่ได้ข้อสรุปดังกล่าวแต่ประการใด ส่วนกรณีการเพิ่มทุนนั้น นายกิตติ กล่าวว่า บริษัทฯมีแผนที่จะใช้เงินลงทุนในโครงการใหม่ด้านพลังงานทดแทน เพื่อต่อยอดธุรกิจ ประมาณ 450 -500 ล้านบาท ซึ่งในเบื้องต้นบริษัทฯอยู่ระหว่างการศึกษาแผนระดมทุนไว้ 3 แนวทาง คือ แผนการเพิ่มทุนขายแบบเฉพาะเจาะจง(PP) , การเพิ่มทุนขายให้กับนักลงทุนทั่วไป(PO)และการออกหนังสือรับรองสิทธิ(วอแรนต์)โดยแผนดังกล่าวคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส1/2555 เนื่องจากจะต้องนำเรื่องดังกล่าวขอมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯก่อน หลังจากนั้นก็จะนำเสนอเพื่อขอมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติในการประชุมสามัญประจำปี2555 นายกิตติ ยังกล่าวทิ้งท้ายอีกว่า บริษัทฯมีแผนที่จะขยายธุรกิจพลังงานทดแทน เพื่อต่อยอดรายได้ของบริษัทฯในอนาคต เนื่องจากมองว่าธุรกิจพลังงานทดแทนในประเทศ ยังมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามดีมานด์ที่เพิ่ม ประกอบการภาครัฐบาลยังคงให้การสนับสนุน ส่วนประมาณการรายได้ในปี2555 ในเบื้องต้นคาดว่าจะอยู่ที่1,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน15%ซึ่งรายได้จากธุรกิจหลัก 85% และการลงทุน 15%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ