กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--เอ็ม พิคเจอร์ส
“คุณจะล้มไม่เป็นท่าถ้าคุณขายหมาป่าพวกนี้ไม่ได้ครับ” คาร์นาฮานยืนยัน “เราพูดเสมอว่าถ้าเราถ่ายทอดหมาป่าออกมาไม่ได้ล่ะก็ เราก็ถ่ายทอดหนังเรื่องนี้ไม่ได้ด้วยเหมือนกัน” ผู้อำนวยการสร้างเดลีกล่าว แม้ว่าตัวผู้กำกับเองอาจจะทำตามขนบดั้งเดิมและใช้ภาพ CG สร้างเป็นหมาป่าพวกนี้ขึ้นมาในขั้นตอนโพสต์โปรดักชันก็ได้ แต่คาร์นาฮานกลับเลือกใช้ CGI เป็นตัวเสริมระบบอื่นๆ เช่นอนิมาโทรนิคกลไกขนาดใหญ่และสัตว์จริงๆ ที่ผ่านการฝึกฝนมาแล้ว
คาร์นาฮานดูสารคดีธรรมชาติหลายชั่วโมง อ่านหนังสือของชอน เอลลิสเกี่ยวกับพฤติกรรมของหมาป่าและเรียนรู้ทุกอย่างเท่าที่ทำได้เกี่ยวกับหมาป่าจริงๆ แต่เขาก็ยังอยากได้บางสิ่งที่ลึกลับ ราวกับเรื่องมหัศจรรย์ “ผมอยากให้มันสมจริง แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็อยากให้หมาป่าตัวใหญ่กว่าปกติด้วย” เขาอธิบาย “ตามธรรมชาติแล้ว หมาป่าไม่ใช่สัตว์ตัวใหญ่ แต่เราก็เจอตัวอย่างของหมาป่าหนัก 250 ปอนด์ ที่จะสู้กับหมีกริซลีได้จริงๆ ด้วย”
เกร็ก นิโคเทโร ปรมาจารย์ฝ่ายสเปเชียล เอฟเฟ็กต์ เจ้าของรางวัลอคาเดมี อวอร์ดและเอ็มมี อวอร์ด รับหน้าที่ซูเปอร์ไวเซอร์ฝ่ายสิ่งมีชีวิตให้กับเคเอ็นบี เอฟเฟ็กต์ โดยมีไมค์ ฟิลด์, อเล็กซ์ ดิแอซ, เดวิด โว้กและเบธแฮมเบอร์ ฮาธาเวย์คอยควบคุม “หุ่น” หมาป่า เจมส์ พาราดิส เป็นผู้ประสานงานฝ่ายสเปเชียล เอฟเฟ็กต์ โดยมีผู้ช่วยหลายสิบคนทำงานในแผนกเอฟเฟ็กต์ เกอร์รี เธียเรียนจากแอ็กชัน แอนนิมอลส์ คอยดูแลหมาป่าจริงๆ “การผสมผสานเป็นวิธีที่ดีจริงๆ ค่ะ” เดลีกล่าวสรุป “เทคนิคเดียวคงจะไม่เวิร์ค แต่พอใช้สองแบบแล้ว มันก็ช่วยเติมเต็มกันและกันค่ะ” ดัลลัส โรเบิร์ตส์ นักแสดงของเรื่องกล่าวว่า “เราใช้หุ่นที่น่าทึ่ง ซึ่งสามารถเคลื่อนไหว เลือดออกและคำรามได้เหมือนจริงด้วย มันเยี่ยมตรงที่ว่ามันไม่ได้มีแต่คอมพิวเตอร์ กรีนสกรีนและลูกปิงปองไปซะทั้งหมด มันยังมีหมาป่าตัวจริงยืนอยู่ตรงนั้น และหายใจห่างจากหน้าผมไปไม่กี่นิ้วด้วย” คาร์นาฮานกล่าวเห็นพ้องด้วย “การให้นักแสดงมีปฏิสัมพันธ์กับของจริงเป็นวิธีการทำงานที่ดีที่สุด แทนที่จะเป็นว่า ‘โอเค นี่เป็นลูกเทนนิสบนไม้เสียบนะ ลองสมมติว่าคุณกำลังเย่ออยู่กับหมาป่ายักษ์ที่พยายามจะฆ่าคุณดูนะ’ น่ะครับ”
“เราทุกคนต่างก็เคยเห็นเอฟเฟ็กต์ CGI มาแล้ว แต่เรายังอยากได้สิ่งที่ใกล้เคียงกับหมาป่าจริงๆ มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” นีสันบอก “เราก็เลยใช้หัวหุ่นขนาดใหญ่ ที่ควบคุมโดยคนสามหรือสี่คน ใช้นักกายกรรมแต่งตัวเป็นหมาป่า แล้วใช้เอฟเฟ็กต์อื่นๆ เพื่อตัดต่อสองหรือสามวินาที ในประสบการณ์ตรงครั้งแรกระหว่างผมกับพวกมัน ตัวละครของผมถูกหมาป่าสองตัวโจมตี ตัวหนึ่งงับขาผม ส่วนอีกตัวทับส่วนล่างของผมเอาไว้ มีผู้ชายสองคนควบคุมมันไว้เพื่อทำให้ดูเหมือนว่าหมาป่าตัวนี้กำลังหายใจอยู่ และมันก็กลายเป็นเรื่องจริงสำหรับผม พระเจ้า มันเป็นเรื่องจริงเลยล่ะครับ”
คาร์นาฮานได้ยินจากนักอนุรักษ์ ผู้เชื่อว่าหมาป่าไม่เคยโจมตีมนุษย์ และบอกว่าสิ่งที่เขาสร้างขึ้นนั้นแตกต่างจากสัตว์จริงๆ “แม้ว่าผมจะชื่นชอบไอเดียที่ว่าหมาป่าไม่โจมตีมนุษย์ แต่พวกมันก็ยังเป็นสัตว์ป่าและเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ผมไม่เคยพยายามจะนำเสนอภาพหมาป่าในฐานะนักฆ่าผู้โหดเหี้ยม แต่พวกมันอยู่ในดินแดนรกร้างและพวกมันก็จะปกป้องสิ่งที่เป็นของพวกมันครับ”
สำหรับนีสัน นักแสดงผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงอคาเดมี อวอร์ด นี่เป็นโอกาสที่เขาจะได้ร่วมงานกับผู้กำกับผู้หนักแน่นและเรื่องราวที่ล้วงลึกถึงอารมณ์สุดโต่ง ที่เป็นแรงดึงดูดสำคัญ “ใน The A-Team ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับความรักและพลังงานที่เหลือเชื่อของโจ และใน The Grey คุณสมบัติเหล่านั้นก็ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเลยครับ” นักแสดงกล่าวสรุป “นอกจากนี้ เขายังเป็นคนตลกมากๆ อีกด้วย และผมก็คิดว่าคุณต้องการอารมณ์ขันเพราะในบางฉาก คุณจะต้องไปยังที่ที่มืดหม่นจริงๆ มันเป็นเรื่องของการเอาชีวิตรอด เกี่ยวกับการรักษาร่างกายและจิตใจให้อยู่รอดสมบูรณ์เพราะถ้าอากาศไม่คร่าชีวิตคุณ พวกหมาป่าก็จะคร่าชีวิตคุณ เมื่อกล้องเริ่มหมุน และคุณต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เข้มข้นอย่างเหลือเชื่อพวกนั้น นั่นคือการแสดงที่แท้จริงครับ”
หรือถ้าจะหยิบยกคำพูดของเซอร์เออร์เนสต์ แชคเคิลตัน นักสำรวจดินแดนน้ำแข็งผู้ยิ่งใหญ่ มาอีกซักครั้งหนึ่งล่ะก็็็็ “เราได้เห็นพระเจ้าในสิ่งงดงามที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น ได้ยินข้อความที่ธรรมชาติได้ถ่ายทอดแล้ว เราได้มาถึงจิตวิญญาณเปล่าเปลือยของมนุษย์แล้ว”
การคัดเลือกนักแสดง
การนำนักแสดงที่หลากหลายมาร่วมงานและทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะเติมเต็มกันและกันเป็นเหมือน “การต่อชิ้นส่วนปริศนาเข้าด้วยกันค่ะ” ผู้อำนวยการสร้างเดลีกล่าว พลางอธิบายว่าผู้กำกับจงใจเลือกนักแสดงที่ค่อนข้างจะโนเนม ซึ่งรวมถึงแฟรงค์ กริลโล, ดัลลัส โรเบิร์ตส์, โจ แอนเดอร์สัน, นอนโซ อโนซีย์, เบน เบรย์และเจมส์ แบดจ์ เดล มารับบทกลุ่มผู้ชายที่เต็มไปด้วยฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน
ถ้าคุณสะดุดชื่อไหนเข้าล่ะก็ มันก็เกิดขึ้นได้ด้วยเหตุผลดีๆ ทั้งนั้น กุญแจสำคัญในการคัดเลือกนักแสดงคือการหานักแสดงที่น่าเชื่อ ผู้สามารถทนต่อความยากลำบากทางกายได้ แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นด้วยเช่นกัน มัลโรนีย์อธิบายว่า “ในหนังส่วนใหญ่ ถ้าคุณเห็นกลุ่มคนขึ้นเครื่องบิน คุณจะจำพวกเขาได้อย่างน้อยก็หกคน แล้วคุณก็จะรู้แล้วว่าใครจะรอดบ้าง ซึ่งมันก็จะทำเรื่องเสียไปเลย โจก็เลยเลือกนักแสดงที่แข็งแกร่งและทุ่มเทจริงๆ ซึ่งบางคนคุณอาจเคยเห็นมาก่อน แต่ไม่ใช่ทุกคนครับ” มัลโรนีย์ปล่อยให้เคราของเขายาวขึ้นสำหรับบทนี้ และสวมแว่นตา เพื่อที่เขาจะได้แตกต่างจากภาพตามปกติบนหน้าจอของเขา
กริลโล ผู้เป็นเพื่อนเก่าของคาร์นาฮาน รับบทจอห์น ดิแอซ ชายโรคจิต เขาได้นอนค้างอยู่บนเกาะริเกอร์เพื่อเตรียมตัวสำหรับบทนี้ด้วยซ้ำไป กริลโลเล่าถึงการได้ดู Deliverance เรื่องราวการสานสายสัมพันธ์ของชายหนุ่ม ร่วมกับนักแสดงคนอื่นๆ ในช่วงเริ่มแรก เพื่อช่วยในการเตรียมพร้อมการแสดงของพวกเขา “เราอยากจะเห็นกลุ่มคนที่ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใครเมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์คับขันครับ” เขากล่าว “พวกเขาถูกบีบให้ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง บางที ฮีโรอาจจะไม่ได้กล้าหาญนักในตอนจบก็ได้ และบางที ผู้ร้ายอาจจะไม่ได้ชั่วร้ายนักก็ได้”
คาร์นาฮานกล่าวว่า “ผมมองว่าตัวละครเหล่านี้เป็นแง่มุมที่หลากหลายของตัวออตเวย์เอง มีทั้งคนแกร่ง คนขี้ขลาด คนอ่อนไหว สามี ผมพยายามจะเปรียบเทียบมันแบบนั้น โดยที่ไม่ได้ขีดเส้นแบ่งให้ชัดเจน เรื่องราวถามเพียงแค่ว่า ‘คุณเป็นใคร คุณอยากจะใช้ชีวิตอย่างไร คุณอยากจะตายอย่างไร’น่ะครับ”
ประวัตินักแสดง
Liam Neeson (เลียม นีสัน) รับบท OTTWAY (ออตเวย์)
เลียม นีสันกลายเป็นหนึ่งในนักแสดงภาพยนตร์ชั้นนำของโลกในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นในบทออสการ์ ชินด์เลอร์ ในภาพยนตร์ที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงของสตีเวน สปีลเบิร์กเรื่อง Schindler’s List (1993) ที่ทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อชิงอคาเดมี อวอร์ด, บทวีรบุรุษในตำนานของสาธารณรัฐไอร์แลนด์ใน Michael Collins (1996) หรือบทอัลเฟรด คินซีย์ นักบำบัดเซ็กส์ในภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง Kinsey (2004) นีสันก็ได้แสดงให้เห็นถึงฝีมือการแสดงที่หาตัวจับยาก
ในช่วงต้นปีนี้ นีสันเพิ่งเสร็จสิ้นจากการถ่ายทำภาพยนตร์โดยยูนิเวอร์แซลเรื่อง Battleship ที่มีกำหนดจะเข้าฉายในปีหน้า และจะได้แสดงประกบไดแอน ครูเกอร์และแจนยัวรี โจนส์ในภาพยนตร์ทริลเลอร์จิตวิทยาเกี่ยวกับการถูกขโมยตัวตนเรื่อง Unknown นอกเหนือจากนั้น ในปี 2011 นีสันยังได้ร่วมแสดงในรีเมกภาพยนตร์ปี 1981 โดยวอร์เนอร์ บรอส. เรื่อง Clash of the Titans ซึ่งบอกเล่าตำนานของเพอร์ซีอุสและการผจญภัยเพื่อปราบเมดูซาและคราเคน เพื่อช่วยเหลือเจ้าหญิงแอนโดรเมดา ปัจจุบัน ซีเควลของภาพยนตร์เรื่องนี้กำลังอยู่ระหว่างการถ่ายทำและมีกำหนดเข้าฉายในปี 2012
เมื่อปีที่แล้ว เขาได้แสดงประกบคริสตินา ริชชีใน After Life ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวที่อยู่ระหว่างความเป็นและความตาย และผู้ดูแลงานศพ ที่ดูเหมือนจะมีพรสวรรค์ในการสื่อสารกับคนตาย นอกเหนือจากนั้น เขายังได้แสดงประกบแบรดลีย์ คูเปอร์และเจสสิกา บีลในภาพยนตรรีเมกจากซีรีส์ฮิต The A- Team, บทอดีตนักโทษในภาพยนตร์โดยพอล แฮ็กกิสเรื่อง The Next Three Days และพากย์เสียงสิงโตแอสลันใน The Chronicles of Narnia: The Voyage of the Dawn Trader ในปี 2009 เป็นการเปิดตัวภาพยนตร์บีบีซีเรื่อง Five Minutes of Heaven ซึ่งได้รับเสียงวิจารณ์ชื่นชมอย่างล้นหลามในงานเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ปี 2009
ในปี 2008 นีสันได้แสดงใน Taken ภาพยนตร์ฮิตม้ามืดเกี่ยวกับอดีตทหารที่พยายามตามรอยของพ่อค้าทาสชาวอัลบาเนีย ผู้ลักพาตัวลูกสาวของเขาไป นอกเหนือจากนั้น ในปี 2008 นีสันยังได้ร่วมงานกับลอรา ลินนียอีกครั้งในภาพยนตร์โดยริชาร์ด แอร์เรื่อง The Other Man ในเดือนพฤษภาคม ปี 2008 นีสันได้ร่วมทำงานในภาพยนตร์ดิสนีย์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในบ็อกซ์ออฟฟิศเรื่อง The Chronicles of Narnia: Prince Caspian ที่เขากลับมาพากย์เสียงสิงโตอัสลันอีกครั้ง หลังจากภาพยนตร์ฮิตปี 2005 เรื่อง The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and the Wardrobe ในปีเดียวกันนั้น เขายังได้หวนคืนสู่ละครเวทีด้วยการแสดงใน Gate/Beckett: EH JOE ที่กำกับโดยอะตอม อีโกยัน ที่ลินคอล์น เซ็นเตอร์ เฟสติวัล
นีสันได้แสดงในภาพยนตร์ที่ทำรายได้ถล่มทลายในบ็อกซ์ออฟฟิศเรื่อง Star Wars: Episode I — The Phantom Menace (1999) ในบทไคกอนจิน เจไดมาสเตอร์ ที่คอยแนะนำโอบีวัน เคโนบีและอนาคิน สกายวอล์คเกอร์ ในปีเดียวกันนั้นเอง เขายังได้แสดงประกบแคทเธอรีน ซีตา-โจนส์ในภาพยนตร์ของแจน เดอ บองท์เรื่อง The Haunting (1999) นอกเหนือจากนั้น เขายังได้แสดงในภาพยนตร์เรื่อง Les Miserables ที่สร้างขึ้นจากนิยายของวิคเตอร์ ฮิวโก ในบทฌอง วาลีฌอง ร่วมแสดงโดยเจฟฟรีย์ รัช, อูมา เธอร์แมนและแคลร์ เดนส์ และในปีเดียวกันนั้นเอง นีสันก็ได้รับบทออสการ์ ไวลด์ ในละครเรื่องใหม่ของเดวิด แฮร์เรื่อง The Judas Kiss ซึ่งเปิดตัวในเวทีเวสต์เอนด์ของลอนดอนก่อนจะถูกนำไปจัดแสดงบนเวทีบรอดเวย์ นีสันได้รับบทนำในภาพยนตร์ของนีล จอร์แดนเรื่อง Michael Collins (1996) ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากงานเทศกาลภาพยนตร์เวนิส และได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม รวมถึงรางวัลอีฟนิง สแตนดาร์ด อวอร์ดสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมอีกด้วย นอกจากนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้รับรางวัลสิงโตทองคำ ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดในเทศกาลนี้อีกด้วย
ในปี 1993 นีสันเป็นที่สนใจของผู้ชมทั่วโลกจากบทนำในภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลอคาเดมี อวอร์ดเรื่อง Schindler’s List นอกเหนือไปจากการได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี อวอร์ดสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมแล้ว เขายังได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลลูกโลกทองคำและรางวัลบาฟตาจากบทบาทนี้อีกด้วย
นีสันได้รับเสียงวิจารณ์ชื่นชมจากการแสดงประกบแชร์ในบททหารผ่านศึกเวียดนามที่หูหนวกและเป็นใบ้ในดรามาเกี่ยวกับศาลโดยปีเตอร์ เยทส์เรื่อง Suspect (1987), บทประติมากรชาวไอริชผู้มีอารมณ์รุนแรงประกบไดแอน คีย์ตันใน The Good Mother (1988) และบทนักวิทยาศษสตร์ เพย์ตัน เวสต์เลค ผู้ซึ่งอุบัติเหตุทำลายรูปโฉมเขา จนทำให้เขาจำต้องหลบซ่อนตัวในทริลเลอร์แฟนตาซีโดยแซม ไรมีเรื่อง Darkman (1990) หลังจากนั้น นีสันก็ได้แสดงในดรามาร่วมสมัยดิบเถื่อนโดยเดวิด ลีแลนด์เรื่อง Crossing the Line ที่สร้างขึ้นจากนิยายชื่อดังโดยวิลเลียม แม็คอิลวันนีย์เรื่อง The Big Man เกี่ยวกับคนงานเหมืองตกงานชาวสก็อต ที่ดิ้นรนหาเงิน ซึ่งส่งให้เขาต้องก้าวเข้าสู่โลกการชกมวยมือเปล่าความเสี่ยงสูง ในปี 1992 เขารับบทวิศวกรนาซีในภาพยนตร์โดยเดวิด เซลท์เซอร์ ที่ดัดแแปลงจากนิยายขายดีโดยซูซาน ไอแซ็คเรื่อง Shining Through ประกบไมเคิล ดักกลาส และในบทนายตำรวจอื้อฉาว ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรในทริลเลอร์อีโรติคเรื่อง Under Suspicion หลังจากนั้น เขาก็ได้แสดงในภาพยนตร์มากมาย ซึ่งที่โดดเด่นที่สุดคือบทนักประวัติศาสตร์ศิลป์ผู้อ่อนไหว และต้องการความรักของไมอา แฟร์โรว์และจูดี้ เดวิดในภาพยนตร์อื้อฉาวโดยวู้ดดี้ อัลเลนเรื่อง Husbands and Wives (1992)
ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของเขาได้แก่ Ethan Frome (1993) ที่แสดงประกบโจน อัลเลน, ภาพยนตร์โดยไมเคิล แอพเท็ดเรื่อง Nell (1994) ที่แสดงประกบโจดี้ ฟอสเตอร์และนาตาชา ริชาร์ดสัน, Before and After (1996) ที่แสดงประกบเมอริล สตรีพและบทนำในภาพยนตร์โดยไมเคิล แคนตัน-โจนส์เรื่อง Rob Roy (1995) ที่ร่วมแสดงโดยเจสสิกา เลนจ์
นีสันเปิดตัวบนเวทีบรอดเวย์ในปี 1993 และได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลโทนี อวอร์ดในละครของราวน์อเบาท์ เธียเตอร์ที่นำเอาดรามาปี 1921 ของยูจีน โอ’ นีลเรื่อง Anna Christie มาสร้างใหม่ ร่วมแสดงโดยนาตาชา ริชาร์ดสัน
FRANK GRILLO (แฟรงค์ กริลโล) รับบท DIAZ (ดิแอซ)
แฟรงค์ กริลโลกำลังอยู่ระหว่างการแสดงประกบทอม ฮาร์ดี้, โจเอล เอ็ดเกอร์ตันและนิค โนลเต้ใน Warrior แอ็คชั่น ดราม่าที่ได้รับเสียงวิจารณ์ชื่นชมและกำกับโดยกาวิน โอ’ คอนเนอร์ นอกจากนี้ เขายังเพิ่งเสร็จสิ้นจากการถ่ายทำภาพยนตร์ดังหลายเรื่อง ซึ่งมีกำหนดเข้าฉายในปี 2012 ได้แก่ Lay the Favourite ที่กำกับโดยสตีเฟน เฟรียส์ และร่วมแสดงโดยบรูซ วิลลิสและรีเบ็กก้า ฮอล, Gangster Squad ที่กำกับโดยรูเบน เฟลสเชอร์ และร่วมแสดงโดยฌอน เพนน์, ไรอัน กอสลิง, จอช โบรลินและเอ็มมา สโตน, Disconnect ที่กำกับโดยเฮนรี อเล็กซ์ รูบิน และร่วมแสดงโดยอเล็กซานเดอร์ สการ์สการ์ดและ เจสัน เบทแมนและ End of Watch ที่กำกับโดยเดวิด เอเยอร์และร่วมแสดงโดยเจค จิลเลนฮาล, ไมเคิล เพนาและแอนนา เคนดริค
ผลงานภาพยนตร์ก่อนหน้านี้ของกริลโลได้แก่ภาพยนตร์โดยเวส คราเวนเรื่อง My Soul to Take, Mother’s Day ที่ร่วมแสดงโดยเจมี คิงและรีเบ็กก้า เดอ มอร์เนย์, Edge of Darkness ที่ร่วมแสดงโดยเมล กิ๊บสันและกำกับโดยมาร์ติน แคมป์เบล, ภาพยนตร์โดยกาวิน โอ’ คอนเนอร์เรื่อง Pride and Glory ที่ร่วมแสดงโดยโคลิน ฟาร์เรลและเอ็ดเวิร์ด นอรตัน, ภาพยนตรโดยสตีเวน สปีลเบิร์กเรื่อง Minority Report ที่ร่วมแสดงโดยทอม ครูซและ The Sweetest Thing ที่ร่วมแสดงโดยคาเมรอน ดิแอซและคริสตินา แอปเปิ้ลเกท ผลงานจอแก้วของกริลโลได้แก่การแสดงนำในซีรีส์ The Shield, Prison Break, The Gates, The Kill Point กับจอห์น เลอกุยซาโม, Battery Park กับอลิซาเบธ เพอร์กินส์และ Blind Justice กับรอน เอลดาร์ด รวมถึงบทดารารับเชิญในซีรีส์ Law & Order: SVU, Without a Trace, CSI: Crime Scene Investigation, CSI: NY, Las Vegas และ The District
DERMOT MULRONEY (เดอรม็อท มัลโรนีย์) รับบท TALGET (ทัลเก็ท)
เดอร์ม็อท มัลโรนีย์ได้แสดงในภาพยนตร์กว่า 65 เรื่องตลอดระยะเวลา 25 ปีที่เขาอยู่หน้ากล้อง ในปีหน้านี้ เขาจะได้แสดงในโปรเจ็กต์ฟอร์มยักษ์หลายเรื่อง
ในเดือนพฤศจิกายน เขาจะมีผลงานในภาพยนตร์โดยคลินท์ อีสต์วู้ดเรื่อง J. Edgarให้กับวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของเจ. เอ็ดการ์ ฮูเวอร์และชีวิตของเขาในเงื้อมมือกฎหมาย มัลโรนีย์รับบท ‘ร้อยโท ชวอร์ซคอพ’ ประกบลีโอนาร์โด ดิ คาปริโอในบทเจ. เอ็ดการ์ ในวันที่ 7 ธันวาคม เป็นวันเปิดตัวภาพยนตร์ทีเอ็นทีเรื่อง Silent Witness ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอทนายความฝ่ายผู้ต้องหา ‘โทนี ลอร์ด’ ผู้กลับบ้านเกิดเพื่อว่าความให้กับเพื่อนเก่า ครูผู้ถูกกล่าวหาว่าฆ่านักเรียนคนหนึ่งของเขา ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ เดอรม็อทกลับมาอีกครั้งพร้อมกับภาพยนตร์สำหรับครอบครัวโดยยูนิเวอร์แซลเรื่อง Big Miracle ที่กำกับโดยเคน ควาพิส เขาได้แสดงประกบดรูว์ แบร์รีมอร์, คริสติน เบลและจอห์น คราซินสกี้ ในภาพยนตร์เกี่ยวกับนักข่าวหนังสือพิมพ์ในเมืองเล็กๆ ที่เขียนเรื่องเกี่ยวกับปลาวาฬแคร์ลิฟอร์เนียสีเทาสามตัวที่ติดอยู่ในอาร์ติค เซอรเคิล
ผลงานล่าสุดของเดอรม็อท มัลโรนีย์ได้แก่ภาพยนตร์โดยเสิร์ชไลท์เรื่อง Stoker ประกบไมอา วาซิโคว์สก้า, นิโคล คิดแมนและแมทธิว กู๊ด นอกจากนี้ เขายังเพิ่งเสร็จสิ้นจากการถ่ายทำภาพยนตร์อินดีเรื่อง Beyond Opposite John Voight เกี่ยวกับทีมนักสืบที่ใช้ผู้มีพลังจิตติดตามเด็กที่หายไป ใน Struck By Lightning ที่เขาแสดงประกบคริสตินา เฮนดริคส์และอัลลิสัน แจนนีย์ เด็กหนุ่มได้เล่าถึงวิธีที่เขาแบล็คเมล์เพื่อนร่วมชั้นให้มีส่วนร่วมกับนิตยสารวรรณกรรมของเขาหลังจากที่เขาถูกฟ้าผ่า
ด้วยผลงานที่น่าประทับใจบนหน้าจอ ผลงานของเขาได้แก่ Inhale ที่แสดงประกบไดแอน ครูเกอร์, Flash of Genius ที่ประกบเกร็ก คินเนียร์, Zodiac ที่กำกับโดยเดวิด ฟินเชอร์, Gracie ที่กำกับโดยเดวิส กุกเกนเฮมและนำแสดงโดยอลิซาเบธ ชู, ภาพยนตร์โดยพี่น้องโคเอนเรื่อง Burn After Reading, The Family Stone ที่ร่วมแสดงโดยไดแอน คีย์ตัน, Georgia Rule ที่ร่วมแสดงโดยเจน ฟอนดา, Must Love Dogs ที่ร่วมแสดงโดยไดแอน เลนและจอห์น คูแซ็ค, The Wedding Date ที่ร่วมแสดงโดยเด็บบรา เมสซิง, ภาพยนตร์โดยเดวิด กอร์ดอน กรีนเรื่อง Undertow ที่ร่วมแสดงโดยเจมี เบลและจอช ลูคัส, ภาพยนตร์โดยอเล็กซานเดอร์ เพย์นเรื่อง About Schmidt ที่ร่วมแสดงโดยแจ็ค นิโคลสัน, The Safety of Objects ที่ร่วมแสดงโดยเกลน โคลสและแพทริเซีย คลาร์คสัน, My Best Friend’s Wedding ที่ร่วมแสดงโดยจูเลีย โรเบิร์ตส์และคาเมรอน ดิแอซ, ภาพยนตร์โดยนิโคล โฮลอฟเซเนอร์เรื่อง Lovely and Amazing, Where the Money Is ที่ร่วมแสดงโดยพอล นิวแมนและลินดา ฟิออเรนติโน, ภาพยนตร์โดยโรเบิร์ต อัลทแมนเรื่อง Kansas City ที่ร่วมแสดงโดยเจนนิเฟอร์ ลีห์, Copycat ที่ร่วมแสดงโดยฮอลลี ฮันเตอร์และซิเกอร์นีย์ วีฟเวอร์, ภาพยนตร์โดยทอม ดิซิลโลเรื่อง Living in Oblivion, Young Guns ที่ร่วมแสดงโดยไคเฟอร์ ซุทเธอร์แลนด์, Point of No Return ที่ร่วมแสดงโดยบริดเจ็ท ฟอนดา, Bad Girls ที่ร่วมแสดงโดยแอนดี้ แม็คดูเวล, แมดเดอลิน สโตว์และดรูว์ แบร์รีมอร์, คอเมดีโดยเบลค เอ็ดเวิร์ดส์เรื่อง Sunset และ Career Opportunities ที่แสดงประกบเจนนิเฟอร์ คอนเนลลี
DALLAS ROBERTS (ดัลลัส โรเบิร์ตส์) รับบท HENDRICT (เฮนริค)
ดัลลัส โรเบิร์ตส์นำแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Shadow People ให้กับผู้อำนวยการสร้างไมเคิล โอโฮเวนและภาพยนตร์วอร์เนอร์ บรอส.เรื่อง The Factory ประกบจอห์น คูแซ็ค
ด้วยผลงานภาพยนตร์หลากสีสัน ดัลลัส โรเบิร์ตส์ได้แสดงภาพยนตร์สองเรื่องภายใต้ผู้กำกับเจมส์ แมนโกลด์ได้แก่ 3:10 To Yuma ประกบรัสเซล โครว์และคริสเตียน เบลและ Walk the Line ประกบวาคิน ฟินิกซ์ นอกจากนี้ ผลงานเรื่องอื่นๆ ของเขายังรวมถึง Shrink ที่แสดงประกบเควิน สเปซีย์, Joshua ที่แสดงประกบเวรา ฟาร์มิกาและแซม ร็อคเวล, Tell Tale ที่แสดงประกบจอช ลูคัสและไบรอัน ค็อกซ์, Flicka ที่นำแสดงโดยอลิสัน โลห์แมนและทิม แม็คกรอว์, The Notorious Bettie Page สำหรับผู้กำกับแมรี แฮร์รอน, Winter Passing ที่กำกับโดยอดัม แร็ปป์และบทนำใน A Home at the End of the World ประกบโคลิน ฟาร์เรล, โรบิน ไรท์ เพนน์และซิสซี สปาเซ็ค ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของเขาได้แก่ภาพยนตร์อินดีเรื่อง The River Why ที่แสดงประกบวิลเลียม เฮิร์ทและแซ็ค กิลฟอร์ดและ Ingenious ที่แสดงประกบเจเรมี เรนเนอร์
ผลงานจอแก้วของเขาได้แก่บทประจำในฐานะโอเวน พี่ชายของอลิเซียใน The Good Wife ประกบจูลีแอนนา มาร์กิลเลส, บทประจำในซีรีส์เอเอ็มซีเรื่อง Rubicon และ The L Word ทางโชว์ไทม์ รวมถึงบทดารารับเชิญใน Law & Order ทั้งสามเรื่อง
ด้านละครออฟบรอดเวย์ ดัสลัสได้แสดงในละครฮิตโดยเอ็ดเวิร์ด อัลบี้เรื่อง Peter and Jerry, ละครโดยคาริล เชอร์ชิลเรื่อง A Number ที่แสดงประกบแซม เชพเพิร์ดและ Burn This ประกบเอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลดรามา เดสก์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากละครโดยอดัม แร็ปป์เรื่อง Nocturne ที่เอ็นวาย เธียเตอร์ เวิร์คช็อป เขาเป็นผู้รับบท “เอ็ดเวิร์ด ไคนาสตัน” ในละครโดยเจฟฟรีย์ แฮทเชอร์เรื่อง Compleat Female Stage Beauty (ที่คอนเทมพอรารี อเมริกัน เธียเตอร์ เฟสติวัล) รวมถึงบท “เชส” ในละครโดยอดัม แร็ปป์เรื่อง Finer Noble Gases (ที่ฮิวมานา เฟสติวัล)
โรเบิร์ตสำเร็จการศึกษาจากจูเลียร์ด สคูล
ประวัติทีมผู้สร้าง
Joe Carnahan (โจ คาร์นาฮาน)
Director (ผู้กำกับ) / Writers (มือเขียนบท) / Priducer (ผู้อำนวยการสร้าง)
ผู้กำกับโจ คาร์นาฮานได้ผสมผสานแอ็กชันและดรามาเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ก่อเกิดเป็นความเข้มข้นบนหน้าจอที่สะกดใจผู้ชมทั่วโลก ภาพยนตร์ปี 2002 เรื่อง Narc ของเขา ซึ่งเขาเขียนบทและกำกับด้วย ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลแกรนด์ จูรี ไพรซ์จากเวทีซันแดนซ์และทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอินดีเพนเดนท์ สปิริต อวอร์ดสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม ล่าสุด เขาได้เขียนบทและกำกับภาพยนตร์ฮิตเรื่อง The A Team และ Smokin Aces เขาได้ร่วมเขียนบทภาพยนตร์ดรามาตำรวจคอรัปชันของวอร์เนอร์ บรอส. เรื่อง Pride and Glory ที่นำแสดงโดยโคลิน ฟาร์เรลและเอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน
Ian Mackenzie Jeffers เอียน แม็คเคนซีย์ เจฟเฟอร์ส — Writers (มือเขียนบท)
เอียน แม็คเคนซีย์เป็นผู้เขียนเรื่องสั้น Ghost Walker ที่เป็นเค้าโครงเรื่องสำหรับ The Grey เขาได้ร่วมเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้กับผู้กำกับโจ คาร์นาฮาน และได้ขยายเรื่องราวนี้เป็นนิยาย ซึ่งจะจำหน่ายในรูปแบบของ Kindle และ Nook ในเดือนกุมภาพันธ์ ปัจจุบัน เขากำลังอยู่ระหว่างการทำงานในภาพยนตร์เกี่ยวกับจูเนียร์ จอห์นสัน ตำนานการแข่งรถนาสการ์ ร่วมกับแม็คจี และนิยายใหม่เรื่อง Mad Dog ที่เขาจะดัดแปลงเป็นบทภาพยนตร์และกำกับ เอียนศึกษาที่เรดรูฟส์ สคูลในอังกฤษและที่เอเอฟไอ ตัวแทนของเขาคือคิมเบอร์ลีย์ เบียเล็คที่ดับบลิวเอ็มอี
Jules Daly จูลส์ เดลี — Producer ผู้อำนวยการสร้าง
จูลส์ เดลีเริ่มต้นการทำงานในสายงานสร้างจอแก้วในช่วงต้นยุค 80s และหลังจากนั้น เธอก็ได้ทำงานฝ่ายสร้างโฆษณาให้กับผู้กำกับชั้นนำของวงการหลายคน เช่นโจ พิทก้า ก่อนที่เธอจะได้สร้างโฆษณาให้กับริดลีย์และโทนี สก็อตเพียงเท่านั้น ภายใต้การนำของเธอ บริษัทได้สะสมชื่อเสียงจากความสามารถและนวัตกรรม ที่ได้รับการยกย่องไปทั้งวงการ และได้รับรางวัลสูงสุดของวงการมามากมาย ซึ่งรวมถึงโกลเดน ไลออน, เอ็มมี, บาฟตา, เอไอซีพี, คลีโอ, เอ็มทีวีและเอ็มวีพีเอ อวอร์ด บริษัทนี้ได้รับรางวัลเอ็มมี สาขาโฆษณายอดเยี่ยมจากโฆษณามูฟของไนกี้ สปอตโฆษณาดังของริดลีย์ สก็อตใปนี 1984 ที่เขาทำให้กับแอปเปิล คอมพิวเตอร์ ได้รับการยกย่องว่าเป็น “โฆษณาที่ดีที่สุดตลอดกาล” ของทีวี ไกด์ ในปี 2001 เธอได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานบริษัทอาร์เอสเอ ฟิล์มส์ ซึ่งเป็นบริษัทของสองพี่น้องสก็อต ที่ตั้งอยู่ในลอสแองเจลิส, นิวยอร์กและลอนดอน ปัจจุบัน บริษัทแห่งนี้มีผู้กำกับ 30 คนทำงานและอำนวยการสร้างโฆษณา มิวสิค วิดีโอ ภาพยนตร์ขนาดสั้น และภาพยนตร์ขนาดยาว ในแผนกทั้งสี่ ได้แก่อาร์เอสเอ, สก็อต ฟรี โปรดักชันส์, แบล็ค ด็อกและลิตเติล มิงซ์ นอกเหนือจากตำแหน่งประธานแล้ว เดลียังมีส่วนร่วมในงานสร้างภาพยนตร์ด้วยการอำนวยการสร้างภาพยนตร์เวสเทิร์นที่ได้รับการเสนอชื่อชิงออสการ์ในปี 2007 เรื่อง The Assasination of Jesse James by the Coward Robert Ford และภาพยนตร์จากซัมเมอร์ที่แล้ว The A-Team (ที่อำนวยการสร้างโดยริดลีย์ สก็อต) ซึ่งทำรายได้ไปกว่า 178 ล้านเหรียญ เดลีใช้ชีวิตอยู่ในลอสแองเจลิส
Ridley Scott ริดลีย์ สก็อต — Producer ผู้อำนวยการสร้าง
ผู้กำกับริดลีย์ สก็อตคนดัง ผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงอคาเดมี อวอร์ด ได้รับการเสนอชื่อชิงอคาเดมี อวอร์ดสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมจาก Black Hawk Down, Gladiator และ Thelma & Louise ภาพยนตร์ทั้งสามเรื่องยังทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลดีจีเอ อวอร์ดอีกด้วย ปัจจุบัน สก็อตอยู่ระหว่างการทำงานในขั้นตอนโพสต์โปรดักชันของ Prometheus ที่นำแสดงโดยไมเคิล ฟาสเบนเดอร์และชาร์ลิซ เธอรอน
สก็อตได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลหลายครั้งตลอดการทำงานที่ยาวนานของเขา นอกเหนือจากการได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี อวอร์ดและดีจีเอแล้ว เขายังได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมจาก American Gangster ที่นำแสดงโดยเดนเซล วอชิงตันและรัสเซล โครว์ และในฐานะที่เขารับหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างในดรามาที่สร้างจากชีวิตจริงเรื่องนี้ เขายังได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลบาฟตา สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอีกด้วย สก็อตได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลลูกโลกทองคำและบาฟตาสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมจากอีพิคเรื่อง Gladiator ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลอคาเดมี อวอร์ด ลูกโลกทองคำและบาฟตาสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
ในปี 1977 เขาได้เปิดตัวผลงานการกำกับภาพนยตร์เรื่องแรกด้วย The Duellists ซึ่งได้รับรางวัลภาพยนตร์เรื่องแรกยอดเยี่ยมจากงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ หลังจากนั้น เขาก็มีผลงานเป็นทริลเลอร์ไซไฟบล็อกบัสเตอร์เรื่อง Alien ที่ส่งให้ซิเกอร์นีย์ วีฟเวอร์โด่งดังและเป็นจุดเริ่มต้นของแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จ ในปี 1982 สก็อตได้กำกับภาพยนตร์ดังเรื่อง Blade Runner ที่นำแสดงโดยแฮร์ริสัน ฟอร์ด ทริลเลอร์อนาคต ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นภาพยนตร์ไซไฟคลาสสิกเรื่องนี้ ได้รับการบรรจุให้อยู่ในรายชื่อคลังภาพยนตร์แห่งชาติของหอสมุดสภาคองเกรส ในปี 1993 และฉบับไดเร็คเตอร์คัทของ Blade Runner ก็ได้รับการจัดจำหน่ายในปี 1993 และ 2007 ภายใต้การตอบรับอย่างอบอุ่น
ผลงานกำกับเรื่องอื่นๆ ของสก็อตได้แก่ Legend ที่นำแสดงโดยทอม ครูซ, Someone to Watch Over Me, Black Rain ที่นำแสดงโดยไมเคิล ดักกลาสและแอนดี้ การ์เซีย, 1492: Conquest of Paradise, White Squall ที่นำแสดงโดยเจฟ บริดเจส, G.I. Jane ที่นำแสดงโดยเดมี มัวร์และวิกโก้ มอร์เตนเซน, Hannibal ที่นำแสดงโดยแอนโธนี ฮ็อปกินส์และจูลีแอนน์ มัวร์, Body of Lies ที่นำแสดงโดยรัสเซล โครว์และลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ, A Good Year ที่นำแสดงโดยรัสเซล โครว์และอัลเบิร์ต ฟินนีย์, อีพิคเรื่อง Kingdom of Heaven ที่นำแสดงโดยออร์ลันโด บลูมและเจเรมี ไอรอนส์และ Matchstick Men ที่นำแสดงโดยนิโคลัส เคจและแซม ร็อคเวล ผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดของเขาได้แก่เวอร์ชันฮิตของตำนานอมตะ Robin Hood ซึ่งเป็นเรื่องที่ห้าที่เขาได้ร่วมงานกับรัสเซล โครว์ และร่วมแสดงโดยเคท บลังเช็ตต์
ริดลีย์และโทนี น้องชายของเขาได้ร่วมก่อตั้งอาร์เอสเอ บริษัทโฆษณาขึ้นในปี 1967 อาร์เอสเอได้สร้างชื่อเสียงจากการสร้างโฆษณาที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนใครให้กับแบรนด์ที่โด่งดังที่สุดของโลกมากมาย ในปี 1995 พวกเขาได้ก่อตั้งสก็อต ฟรี บริษัทผลิตภาพยนตร์และโทรทัศน์ ด้วยออฟฟิศในลอสแองเจลิสและลอนดอน พวกเขาได้อำนวยการสร้างภาพยนตร์มากมายเช่น In Her Shoes, The A-Team, Cyrus และภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อชิงอคาเดมี อวอร์ดเรื่อง The Assasination of Jesse James นอกจากนี้ พวกเขายังได้ควบคุมงานสร้างซีรีส์ฮิตที่ได้รับรางวัลเอ็มมี, พีบอดี้และลูกโลกทองคำเรื่อง The Good Wife ให้กับซีบีเอส รวมถึงซีรีส์เรื่อง Numbers ซึ่งแพร่ภาพทางซีบีเอสมาแล้วหกซีซัน นอกเหนือจากนั้น พวกเขายังรับหน้าที่ผู้ควบคุมงานสร้างในโปรเจ็กต์ยาวของบริษัทหลายเรื่อง ซึ่งรวมถึงมินิซีรีส์ทางสตาร์ซเรื่อง The Pillars of The Earth, มินิซีรีส์เอแอนด์อีเรื่อง The Andromeda Strain ที่สร้างจากหนังสือโดยไมเคิล ไครช์ตัน, มินิซีรีส์ทีเอ็นทีเรื่อง The Company และภาพยนตร์ที่แพร่ภาพทางเอชบีโอเรื่อง RKO 281, The Gathering Storm และ Into the Storm
ในปี 2003 เขาได้รับการติดยศอัศวินจากออเดอร์ ออฟ เดอะ บริติช เอ็มไพร์จากคุณูปการต่อแวดวงศิลปะของเขา