กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--ททท.
ททท. ชูกลุ่มจังหวัดล้านนา 8 จังหวัด และห้าประเทศ ฉลองมหาสงกรานต์ยิ่งใหญ่ บนเส้นทางท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ สืบทอดอารยธรรมแผ่นดินล้านนา
ภาพสะท้อนความเป็นตัวตนของผู้คนล้านนา สืบสานสู่นักเดินทางผู้แสวงหาผ่านกิจกรรมท่องเที่ยวใน รูปแบบทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ ประเพณีเก่าแก่ เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของภาคเหนือ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก …ในปีนี้ททท. ริเริ่มจัดงาน "เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ อารยธรรม ล้านนา และห้าประเทศ" ระหว่างวันที่ 2-15 เมษายนนี้ กระจายอยู่ในกลุ่มจังหวัดล้านนา 8 จังหวัดที่มีเชียงใหม่เป็นศูนย์กลาง รายล้อมด้วยจังหวัด เชียงราย-ลำพูน-ลำปาง-พะเยา-แพร่-น่าน-แม่ฮ่องสอน และกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง 5 ประเทศ จีน(ยูนนาน)-ลาว-พม่า-กัมพูชา และ เวียดนาม โดยสร้างสรรค์บรรยากาศทางวัฒนธรรมในรูปแบบต่างๆ เช่น ขบวนแห่ทางวัฒนธรรม การสาธิต การละเล่น การแสดงสินค้าภูมิปัญญา การแสดงการแต่งกาย การตกแต่งประดับประดาเมือง และการจัดแสดงอาหารล้านนา เป็นต้น
ททท.ได้แนะนำเส้นทางท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ซึ่งจะช่วยให้นักท่องเที่ยวมีความสะดวกและตรงตามความต้องการมากขึ้น ทั้งเป็นโอกาสดีที่จะได้สัมผัสกับเส้นทางธรรมชาติที่งดงามผสานอารยธรรมล้านนาไปพร้อมกัน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวันนี้ โดยสามารถเลือกเดินทางท่องเที่ยวได้หลายเส้นทางไม่ว่า จะเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรพื้นที่สูง, เส้นทางท่องเที่ยว SOFT ADVENTURE, เส้นทางท่องเที่ยวหมู่บ้าน OTOP ,เส้นทางขับรถท่องเที่ยววงกลมล้านนาตะวันออก, เส้นทางท่องเที่ยว ชมธรรมชาติและขุนเขา น้ำเป็นร้อย - ดอยเป็นพัน, และเส้นทางท่องเที่ยวไหว้ธาตุ 8 จังหวัดล้านนา
ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ความงดงามอย่างมีสาระ
เส้นทางการท่องเที่ยวเชิงเกษตรพื้นที่สูง โปรแกรม 1 เชียงใหม่-ลำปาง-แพร่ รวม 4 วัน เป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพทุ่งไม้พืชพรรณเมืองหนาว เริ่มต้นที่เชียงใหม่ เยี่ยมชมแปลงสาธิตไม้ดอกไม้ประดับ และซื้อหาพืชผักผลไม้เมืองหนาวจากโครงการหลวง หรือจากชาวเขาที่ สถานีโครงการหลวงดอย อินทนนท์ ตั้งอยู่ในอำเภอจอมทอง บนเนื้อที่กว่า 150 ไร่ จากนั้นสามารถเดินทางต่อไปที่ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ขุนวาง บนดอยขุนวาง อำเภอแม่วาง เพื่อสัมผัสความงามภายใต้อ้อมกอดขุนเขา และพันธุ์ไม้เมืองหนาวที่ออกดอกผลิใบและมีผลให้เด็ดชิม ไม่ว่าจะเป็นสาลี่ พลัม ท้อ สตรอเบอรี่ ชมดอกซากุระดอย หรือดอกนางพญาเสือโคร่งที่บานเต็มดอย ชมและชิมแปลงสาธิตมะคาเดมีย นัท ที่หอม มัน อร่อยที่สุดในบรรดาถั่วด้วยกัน
ออกเดินทางจากขุนวางด้วยเส้นทาง 1013 ผ่านป่าสนเกี๊ยะในสายหมอกและทุ่งดอกท้อ และวิถีของชาวเขาชนเผ่าที่สูงระหว่างทาง แวะขี่ช้าง-ล่องแพแม่วิน เพิ่มสีสันการท่องเที่ยวแบบ Soft Adventure และเข้าร่วมชมงาน "เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ อารยธรรมล้านนา และห้าประเทศ" ที่เมืองเชียงใหม่
มุ่งสู่จังหวัดลำปาง แวะนมัสการพระธาตุลำปางหลวง สถาปัตยกรรมล้านนาเก่าแก่สวยงามและชมภาพเขียนสีในตัววิหารและเงาสะท้อนพระธาตุหัวกลับหนึ่งใน Unseen Thailand จากนั้นเดินศึกษาธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติน้ำตก-น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน พร้อมแช่น้ำร้อนและนวดแผนไทยผ่อนคลายความเมื่อยล้า
ศูนย์วิจัยพืชสวน จังหวัดแพร่ เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่นักท่องเที่ยวจะมีโอกาสนั่งล้อวัวเทียมเกวียนชมสวน ร่วมกิจกรรมเก็บผลผลิตทางการเกษตรตามฤดูกาล และเยี่ยมชมหมู่บ้านอนุรักษ์เตาปูลู ก่อนเดินทางกลับ
เส้นทางการท่องเที่ยวเชิงเกษตรพื้นที่สูง โปรแกรม 2 เชียงราย-เชียงใหม่-ลำปาง รวม 4 วัน เริ่มกันที่เชียงราย พระตำหนักดอยตุง นมัสการพระธาตุ ชมไร่แม่ฟ้าหลวง ระหว่างทางแวะ วัดร่องขุ่น วัดไทยในสไตล์ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ และเข้าพักที่ ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย ดูนกน้ำ ชมพรรณไม้นานาชนิด เช่น นางพญาเสือโคร่ง น้ำตกขุนกรณ์ แวะชมไร่ชาพันธ์ดี จิบชารสเยี่ยมที่สถานีทดลองเกษตรที่สูงวาวี เดินทางต่อสู่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เยี่ยมชมสวนส้มรสดีพันธ์สายน้ำผึ้งที่สวนส้มทรายทอง และเข้าร่วมชมงาน "เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ อารยธรรมล้านนา และห้าประเทศ" ที่เมืองเชียงใหม่
ท่องไพรชมพรรณไม้นานาชนิดในเรือนกระจกยักษ์ในสวนพฤกษศาสตร์พระนางเจ้าสิริกิตต์ เดินทางต่อไปชมวิถีชีวิตชาวเขาเผ่าม้งที่บ้านผานกกก แล้วเลยไปชื่นชมธรรมชาติและแปลงพืชผักเมืองหนาวที่โครงการหลวงบ้านหนองหอย ทดลองเล่นล้อเลื่อนไม้ของชาวเขาที่ตื่นเต้นสนุกสนาน เข้าที่พักแบบ Home Stay ที่ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จังหวัดลำปาง ชมช้างอาบน้ำ การแสดงของช้าง ร่วมกิจกรรมขี่ช้างท่องไพร แวะนมัสการพระธาตุลำปางหลวง แล้วเดินทางกลับ
ท่องเที่ยว SOFT ADVENTURE ท้าทายกว่า 7,000 โค้ง
เส้นทางการท่องเที่ยว SOFT ADVENTURE ขับรถท้าทายกว่า 7,000 โค้ง วงกลมเชียงใหม่- เมือง 3 หมอก แม่ฮ่องสอน รวม 3 วัน ตั้งต้นกันที่เชียงใหม่เดินทางสู่แม่ฮ่องสอน(ใช้เส้นทาง ทล.108) ผ่านอำเภอจอมทอง สักการะพระธาตุศรีจอมทอง ผ่านเส้นทางลัดเลาะตามลำน้ำแม่แจ่มที่สวยงาม ผ่านอำเภอฮอดแวะเยือนออบหลวง ช่องเขาขาดที่แคบและสูงชัน เลี้ยวขวาใช้เส้นทาง ทล.1008 สู่อำเภอแม่แจ่ม ใช้เส้นทางทล.1263 ฝึกทักษะการขับขี่รถบนเส้นทางคดเคี้ยวแต่สวยงามเกินบรรยายผ่านดอยขุนยวม
ถึงแม่ฮ่องสอน ชอปปิ้งตลาดคนไต สักการะพระธาตุดอยกองมู เดินทางต่อไปบ้านน้ำเพียงดินด้วยเรือหางยาวที่ท่าเรือห้วยเดื่อล่องน้ำปาย แวะทักทายกะเหรี่ยงคอยาว กลับจังหวัดเชียงใหม่ด้วยเส้นทาง ทล.1905 แวะชม ถ้ำปลา ถ้ำลอด ผ่านอำเภอปาย ชมวิวที่อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง มหัศจรรย์ธรรมชาติที่โป่งเดือด เลี้ยวขวาเข้าเส้นทาง ทล.107 ที่ตลาดแม่มาลัยเข้าสู่เชียงใหม่
ท่องเที่ยวหมู่บ้าน OTOP ส่งเสริมภูมิปัญญาล้านนา
เส้นทางท่องเที่ยวหมู่บ้าน OTOP สานศิลป์ถิ่นหัตถกรรมเชียงใหม่-ลำปางเมืองเซรามิก รวม 3 วัน ตั้งต้นกันที่เชียงใหม่สู่เส้นทางศิลปหัตถกรรมหมู่บ้าน OTOP (ใช้เส้นทาง ทล.108) เยี่ยมชมงานไม้แกะสลักที่ มีความวิจิตรประเมินค่าไม่ได้ที่ บ้านร้อยอันพันอย่าง แวะศูนย์ผลิตตุ๊กตาเชียงใหม่ OTOP ระดับ 5 ดาว มี เอกลักษณ์บ่งบอกถึงวัฒนธรรมไทย และมีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมตุ๊กตาของนานาประเทศเข้าไว้ให้เยี่ยมชมและเลือกซื้อหากัน ช่วงบ่ายเยี่ยมชม บ้านถวาย ถิ่นหัตถกรรมไม้ที่ลือเลื่องไปทั่วโลก แวะย่าน Shopping Street บนถนนนิมมานเหมินทร์ ชมสินค้าตกแต่งบ้านคุณภาพสูง และชมงาน "เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ อารยธรรม ล้านนา และห้าประเทศ" ที่เมืองเชียงใหม่ เดินทางสู่เส้นทางสานศิลป์ถิ่นหัตถกรรม เยี่ยมชมเวียงกุมกาม นครโบราณใต้พิภพเมืองของพญา เม็งรายที่จมอยู่ใต้สายน้ำปิงก่อนการสร้างเมืองเชียงใหม่ ที่ถูกขุดค้นขึ้นมาบูรณะเป็นแหล่งท่องเที่ยวหมู่บ้าน OTOP ต้นแบบ ภาคบ่ายสู่สันกำแพง เลือกชมผ้าไหมผ้าฝ้ายทอที่งดงาม เครื่องปั้นดินเผาศิลาดล ช่วงเย็นถึงจังหวัดลำปาง นั่งรถม้าชมเมืองในบรรยากาศเขลางค์นคร รุ่งขึ้นเยี่ยมชมโรงงานเซรามิกระดับโลกที่มีอยู่มากมาย ด้วยดินขาวคุณภาพดีเหล่านี้เป็นเพียงเส้นทางท่องเที่ยวบางส่วนที่ยังคงคุณค่าของการเป็นแหล่งอารยธรรมล้านนาที่ยิ่งใหญ่ ทั้งมีธรรมชาติที่มหัศจรรย์ งดงาม วิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดมายาวนานจนถึงปัจจุบัน ควรแก่การไปเยี่ยมเยียนในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์นี้
น่าน…พะเยา…เชียงราย แหล่งท่องเที่ยวแบบล้านนาที่น่าสัมผัส
หมู่บ้านไทลื้อ บ้านหนองบัว ตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน เป็นชุมชนชาวไทลื้อที่สืบเชื้อสายมาจากเมืองล้า แคว้นสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ชุมชนไทยลื้อมักอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่ รู้จักการใช้ประโยชน์จากธรรมชาติ แยกพื้นที่นาไร่ และมีสวนครัวปลูกผักไว้กินเอง แสดงถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย
ผลิตภัณฑ์ที่นิยมนำมาแปรรูปคือ "ไก" หรือสาหร่ายน้ำจืด มาทำเป็นไกแผ่น และไกยี หรือเป็นข้าวตังหน้าสาหร่าย กรอบเค็มสาหร่าย เป็นต้น นับเป็นภูมิปัญญาของชาวไทลื้อในการถนอมอาหารมีฝีมือในการทอผ้าพื้นเมืองประจำเผ่าที่สวยงาม เรียกว่า "ผ้าลายน้ำไหล" นับเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดของจังหวัดเป็นหัตถกรรมที่ตกทอดมาหลายยุคหลายสมัย และเป็นผ้าที่ต้องอาศัยเทคนิค "เกาะ" ตามภาษาเรียกของชาวไทลื้อ อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา และอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ขณะที่ "ล้วง" เป็นภาษาเรียกของชาวเมืองน่านหมู่บ้านป่ากลาง หรือ หมู่บ้านพัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขาป่า ที่อำเภอปัว อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 69 กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านชาวเขา เผ่าแม้ว เย้า และถิ่น มีการผลิตงานหัตถกรรมเครื่องเงินที่สวยงาม มีทั้งในรูปแบบดั้งเดิมและแบบใหม่ทันสมัยนิยม มีความเชี่ยวชาญในการผลิตเครื่องเงินเพื่อเป็นเครื่องประดับ ตกแต่ง ทั้งแหวน กำไล สร้อยคอ สร้อยข้อมูล ต่างหู รวมทั้งเครื่องใช้อย่างกระเป๋าถือ กล่องใส่นามบัตร รูปทรงสวยและมีความประณีต หากเป็นสร้อยคอผู้ชาย นอกเหนือจากลวดลายแบบโบราณที่เป็นเงินตีโปร่งธรรมดา มักนิยมทำเป็นเส้นเงินถักเป็นลายอื่นๆ เช่น ลายกระดูกงู ลายโซ่ ส่วนลวดลายแบบผู้หญิงที่มีความละเอียดละออ คือ ลายพิกุล หรือทำเป็นแผงอุบะ และมีทั้งแบบปกติซึ่งขัดขาว และแบบรมดำ เพื่อให้แลดูเป็นของเก่า หมู่บ้านมณีพฤกษ์ อำเภอทุ่งช้าง เป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง และเผ่าลัวะ จัดตั้งขึ้นตามโครงการพัฒนาพื้นที่เพื่อความมั่นคงลุ่มน้ำน่าน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีวัตถุประสงค์หลักในการพัฒนาชาวเขาและผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยในพื้นที่ยุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงชายแดนไทย-ลาว ด้วยการใช้ประโยชน์พื้นที่ตามวิถีเกษตรที่แตกต่างกัน คือ ชาวลัวะ จะทำไร่ข้าว ไร่ข้าวโพด ส่วนชาวม้ง นิยมปลูกไม้ผลตามหุบเขา จึงมีการจัดทำแปลงสาธิต การเกษตร การทดลองปลูกผลไม้เมืองหนาว เช่น สาลี ท้อ ลูกไหน และส่งเสริมงานหัตถกรรม เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร และเป็นการสร้างอาชีพและสร้างรายได้จากผลผลิตเนื่องจากหมู่บ้านมณีพฤกษ์ ตั้งอยู่บนเทือกดอยภูคา จึงพบต้นชมพูภูคาซึ่งเป็นต้นไม้หายาก พบได้เพียงที่เดียว ณ ดอยภูคา จังหวัดน่าน ทั้งเชื่อกันว่าใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว นอกจากนั้นยังมีต้นดอกเสี้ยวขาวที่ผลิดอกสะพรั่ง นักท่องเที่ยวสามารถแวะเข้าไปชมได้ หรือติดต่อล่วงหน้าได้ที่ชมรมการท่องเที่ยวเกษตรบ้านมณีพฤกษ์ เบอร์โทรศัพท์ 0 5477 9398 "ศูนย์ส่งเสริมเกษตรที่สูงดอยผาหม่น" เส้นทางท่องเที่ยวเกษตรที่สูง ตั้งอยู่ระหว่างเส้นทางขึ้นภูชี้ฟ้า ทางอำเภอเทิง บริเวณบ้านร่มโพธิ์ไทย เป็นชุมชนชาวเขาเผ่าอาข่า มีพื้นที่กว่า 100 ไร่ จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ชาวบ้านมีรายได้จากการปลูกพืชเมืองหนาว ได้แก่ กาแฟอาราปีก้า มะระหวาน การผลิตสารสกัดจากธรรมชาติแทนการใช้สารเคมี ส่งเสริมการแปรรูปสินค้าเกษตรจากสมุนไพร รวมทั้งส่งเสริมให้รู้จักใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการเลี้ยงสุกร และสัตว์ปีกเสริมรายได้ นอกเหนือจากนี้สิ่งที่โดดเด่น คือ แปลงปลูกไม้ดอกเมืองหนาว สีสวย เช่น ทิวลิป โดยนำหัวพันธุ์กว่า 10 สายพันธุ์จากเนเธอร์แลนด์ เข้ามาทดลองปลูกเมื่อปี 2538 ทั้งยังมีดอกลิลลี่ ดอกเบญจมาศ และไม้ดอกเขตร้อนชื้นอย่างดอกหน้าวัวที่ออกดอกให้ชมตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวที่สนใจจะแวะเวียนเข้ามาขอพักแรมได้ในบ้านพัก หรือกางเต้นท์ ติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0 5376 7066
น้ำตกภูซาง จังหวัดพะเยา มหัศจรรย์ธรรมชาติ Unseen Thailand อยู่ที่เขตอุทยานแห่งชาติภูซาง สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และการเดินทางเข้าถึงอย่างสะดวก จากพะเยาใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1021 ถึงอำเภอเชียงคำ ต่อด้วยเส้นทางหมายเลข 1093 ประมาณ 17 กิโลเมตร ถึงอุทยานแห่งชาติภูซาง น้ำตกภูซางเป็นน้ำตกบนผาหินปูนที่ใครได้ยืนอาบเหมือนอาบน้ำอุ่นจากฝักบัวยักษ์ขนาดมหึมา ความแปลกก็คือเป็นน้ำตกที่มีน้ำอุ่นเพียงแห่งเดียวที่พบในประเทศไทย มีอุณหภูมิสูงถึง 35 องศาเซลเซียส ต้นน้ำตกตั้งอยู่บนเทือกเขาดอยผาหม่น เกิดจากบ่อน้ำซับอุ่นภูซาง เป็นบ่อน้ำซับแหล่งต้นน้ำของน้ำตกภูซาง สายน้ำอุ่นที่ไหลมาจากผาหินปูนสูง 25 เมตร ตกสู่แอ่งน้ำด้านล่างจึงเหมาะสำหรับการลงแช่น้ำให้อบอุ่น สบายตัวและปราศจากกลิ่นกำมะถัน--จบ--
-นท-