สู่ปีที่ 2 ของ “To Be Number One Idol” กับการค้นหา “คนต้นแบบ” ที่ทั้งเก่ง-ดี เป็นคุณสมบัติเฉพาะตัว

กรุงเทพฯ--10 ก.พ.--ปชส. To Be Number One “Idol” (ไอดอล) หรือ “บุคคลต้นแบบในชีวิต” เป็นบุคคลที่ได้รับความรัก ความชื่นชม จนถึงความคลั่งไคล้ จากสิ่งที่เขาเป็น ไม่ว่าจะด้วยรูปร่างหน้าตา ความรู้ ความสามารถ หรือคุณสมบัติต่างๆที่คนๆนั้นมีอยู่ในตัวเอง โดยทั่วไปแล้วทุกคนมักจะมี“Idol”ของตัวเอง ที่ยกย่องให้เป็นต้นแบบและอยากจะดำเนินรอยตาม ซึ่งสามารถแบ่ง“Idol”ได้เป็น 2แบบอย่างคือ “Idol”ในแบบอย่างทางการดำเนินชีวิต และ “Idol”ในแบบอย่างทางการทำงานหรือในสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ ซึ่งคำว่า “Idol”ยังถูกนำมาเรียกดารา นักร้องที่ได้รับความนิยม บางคนอาจมีคำจำกัดความหรือความหมายของคำว่า “Idol” ในแบบอื่น ในลักษณะอื่น แต่คำจำกัดความหรือความหมายของคำว่า “Idol”ใน “โครงการTo Be Number One” นั้นไม่จำเป็นต้องเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง หรือเป็นดารา นักร้องยอดนิยม สิ่งสำคัญนั้นอยู่ที่บุคคลนั้นต้องเป็นเยาวชนที่มีทั้งความเก่งและความดีอยู่ในตัวเอง มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็น“Idol” ที่เพื่อนๆสามารถดำเนินรอยตามได้อย่างภาคภูมิ หม่อมหลวงยุพดี ศิริวรรณ ที่ปรึกษาสำนักงานโครงการทูบีนัมเบอร์วันกล่าวว่าการเสริมสร้างและพัฒนาคุณภาพให้เยาวชนสมาชิกทูบีนัมเบอร์วันเป็นที่ยอมรับและมีคุณค่าต่อสังคม และได้รับการยกย่องให้เป็น“Idol” หรือ“บุคคลต้นแบบ” ที่มีทั้งความเก่งและความดีเป็นคุณสมบัติสำคัญเฉพาะตัว ถือเป็นเป้าหมายสำคัญของกิจกรรมการประกวด “เยาวชนต้นแบบเก่งและดีทูบีนัมเบอร์วัน” หรือ “To Be Number One Idol” กิจกรรมที่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี องค์ประธานโครงการทรงดำริให้มีขึ้น เพราะพระองค์เชื่อมั่นว่าสมาชิกทูบีนัมเบอร์วันทุกคน ต่างก็มีดีและมีความเก่งในแบบของตนเอง หากมีความมุ่งมั่น ตั้งใจจริง ปฏิบัติตามกรอบแนวทางซึ่งเป็นที่ยอมรับ ได้รับโอกาสและการส่งเสริมสนับสนุนทั้งด้านการเรียนความประพฤติ และการปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีงาม ก็จะสามารถพัฒนาตนเองให้มีความกล้าและพร้อมที่จะก้าวออกมาเป็น“Idol”ที่ทั้งเก่งและดี มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็นบุคคลต้นแบบของเพื่อนๆได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นคนมีชื่อเสียง ดารา หรือศิลปิน ฯลฯ ความสำเร็จของกิจกรรมการประกวด “To Be Number One Idol” ในปี2554 ที่ผ่านมาถึงแม้จะเริ่มดำเนินการเป็นปีแรก แต่ได้รับความสนใจจากเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมกันเป็นจำนวนมาก การจัดกิจกรรมฯในปี2555นี้ถือเป็นปีที่ 2 ซึ่งคุณสมบัติของเยาวชนที่เข้าร่วมประกวดเพื่อคัดเลือกเป็น“To Be Number One Idol” นอกจากจะต้องเป็นสมาชิกทูบีนัมเบอร์วันที่อายุระหว่าง16-21 ปี นับถึงวันที่ 5 พฤษภาคม 2555แล้ว จะต้องมีทั้งความเก่งและความดีเป็นคุณสมบัติเฉพาะตัวด้วย “ความเก่ง” คือ ผลการเรียนดี มีเกรดเฉลี่ยในปีที่ผ่านมาหรือถ้าจบการศึกษาแล้วให้ใช้เกรดเฉลี่ยผลการศึกษาปีสุดท้ายเป็นเกณฑ์และต้องไม่ต่ำกว่า 2.7 มีความสามารถพิเศษเช่น ร้องเพลง เต้นรำ ฯลฯ และ มีบุคลิกภาพดี “ความดี” คือเป็นผู้มีความกตัญญู มีความซื่อสัตย์ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม มีมนุษยสัมพันธ์ดี มีความฉลาดทางอารมณ์และมีจิตอาสา หม่อมหลวงยุพดี กล่าวต่อว่าการประกวด“To Be Number One Idol” ปี 2555นี้จะทำการคัดเลือกในระดับจังหวัดและภูมิภาคเพื่อเข้าไปแข่งขันในระดับประเทศ ขณะนี้ระดับภูมิภาคได้เริ่มประกวดไปแล้วที่ภาคใต้ ส่วนที่เหลือทั้งหมดจะจัดประกวดให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 55 นี้ ได้แก่ ภาคเหนือจัดประกวดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลกาดสวนแก้ว จังหวัดเชียงใหม่ ภาคกลางและภาคตะวันออกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัลพัทยาบีชจัง หวัดชลบุรี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ จังหวัดนครราชสีมา และกรุงเทพมหานครที่ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต หลังจากนั้นตัวแทนเยาวชนที่ผ่านการคัดเลือกจากระดับภูมิภาคทั้งหมด จะเข้าแข่งขันระดับประเทศ ในระหว่างวันที่ 13-15 กรกฎาคม 2555 ณ ศูนย์การประชุมอิมแพค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี "วัยรุ่นเป็นวัยที่ต้องการการยอมรับจากสังคม เมื่อเราเปิดเวทีและให้โอกาสเขาได้แสดงศักยภาพของตนเอง เขาจะสามารถก้าวออกมาด้วยความมั่นใจ และกล้าที่จะแสดงออกให้คนอื่นๆได้เห็นว่าตนเองมีดีอะไร การที่เขาเข้ามาประกวดในเวที To Be Number One Idol แสดงว่าเขามั่นใจในตัวเองว่ามีความสามารถและมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะมาเป็นบุคคลต้นแบบให้กับเพื่อนๆสมาชิก To Be Number One ด้วยกัน และถ้ากระแส To Be Number One Idol หรือเยาวชนเก่งและดีทูบีนัมเบอร์วันประสบความสำเร็จ ก็จะกลายเป็นแรงจูงใจ ให้เยาวชนสมาชิกทูบีนัมเบอร์วันคนอื่นๆซึ่งมีมากกว่า 10 ล้านคน หันมาเอาใจใส่และรับผิดชอบเรื่องการเรียน และดูแลควบคุมพฤติกรรมของตนเองให้เหมาะสมยิ่งขึ้น และใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างถูกต้อง เพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคตต่อไป " หม่อมหลวงยุพดีกล่าว ด้าน น.ส.จิราวรรณ พรหมศร หรือ น้องโอ๋ หนึ่งใน To Be Number One Idol รุ่นที่1 ได้เล่าถึง ประสบการณ์ที่ได้รับจากการเข้าประกวดในเวทีทูบีนัมเบอร์วันไอดอลเมื่อปี2554ที่ผ่านมาว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้รับจากบ้าน To Be นั้นคุ้มค่ากับชีวิตมากๆ ได้ช่วยสอนในหลายๆอย่าง เพื่อพัฒนาให้เรามีบุคลิกภาพที่ดี มีทั้งกิจกรรมการร้องเพลง การเต้น การแสดง รวมถึงการว่ายน้ำ สำหรับผู้เข้ามาประกวดในกิจกรรมนี้ไม่ว่าใครจะได้ที่ 1 หรือที่เท่าไหร่ไม่ใช่สิ่งสำคัญเท่ากับมิตรภาพ เพราะทุกคนคือเพื่อนกัน เป็นพี่น้องกัน ปรึกษากันได้ตลอดในทุกๆเรื่อง เวทีนี้จึงเป็นเหมือนบ้านของพวกเราและไม่เคยคิดว่ามาในที่นี้แล้วจะต้องมาแข่งขันกัน เช่นเดียวกับ นายวรวุฒิ โตวิรัตน์ หรือ น้องเอิร์ธ อีกหนึ่งใน To Be Number One Idol รุ่นที่1 ได้เล่าเพิ่มเติมว่า “ประสบการณ์ต่างๆที่ได้รับเมื่อตอนอยู่ในบ้านทูบีฯ ได้ช่วยสอนให้เรารู้จักการใช้ชีวิต การวางตัวในสังคม รู้จักการคิดและไตร่ตรองในสิ่งที่จะทำได้อย่างถูกต้องเหมาะสม สอนให้เรารู้จักแยกแยะว่าสิ่งไหนผิด สิ่งไหนถูก ที่สำคัญเวทีนี้ช่วยพัฒนาให้เราทุกคนได้เป็นทั้งคนเก่งที่เป็นคนดีและเป็นที่ยอมรับของเพื่อนๆ และยังช่วยให้เราไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด” ส่วนครูนุ้ย เกศริน หนึ่งในกรรมการผู้ตัดสินกล่าวว่าเกณฑ์การตัดสินของกิจกรรมนี้จะดูจากหลายองค์ประกอบทั้งบุคลิกภาพ การแสดงออกเมื่ออยู่บนเวที ความสามารถพิเศษ การวางตัวที่ถูกกาลเทศะ ใครมีดีอยู่ในตัวอย่าเก็บเอาไว้ ควรนำออกมาโชว์ หรือบางคนที่คิดว่าตนเองมีความสามารถสู้คนอื่นไม่ได้ ขอแค่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม ก็อาจจะทำให้เราเป็นผู้ชนะได้ ไม่ว่าผลการมาประกวด To Be Number One Idolออกมาจะเป็นอย่างไร แต่อยากให้ทุกคนคิดว่านี่คือประสบการณ์ที่มีค่า และเชื่อว่าน้องๆจะต้องได้รับประโยชน์หลายๆอย่างจากเวทีนี้อย่างแน่นอนเพราะนี่คือ“Idol”ในแบบของ To Be Number One ที่มีทั้งความเก่งและความดีเป็นคุณสมบัติเฉพาะตัว