กรุงเทพฯ--10 ก.พ.--เวิรฟ
ถ้าพูดถึงเทศกาลวาเลนไทน์ บรรยากาศโดยรอบก็กลายเป็นสีชมพู ซึ่งเป็นช่วงเวลาแสนน่ารักของคนหนุ่มสาว ที่จะแสดงความรักด้วยวิธีต่างๆ และมีคู่รักอีกจำนวนไม่น้อยที่ใช้โอกาสอันแสนพิเศษนี้ สละโสดแบบเต็มรูปแบบด้วยการเดินเข้าสู่ประตูวิวาห์ แน่นอนว่างานวิวาห์นี้นอกจาก “เจ้าสาว” ที่เป็นเหมือนดาวเด่นในงานแล้ว “เพื่อนเจ้าสาว” ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กันงานได้เช่นกัน และยังเป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้พวกเธอได้เป็นเจ้าสาวรายต่อไป
คอตตอน ยูเอสเอ องค์กรไม่แสวงผลกำไร เพื่อการสนับสนุนและส่งเสริมการบริโภคฝ้ายจากประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า "ในทุกๆ ปี ผู้คนทั่วโลกมักจะใช้เทศกาลแห่งความรัก อย่างวันวาเลนไทน์ แสดงความรักอันจริงใจต่อคู่รัก รวมทั้งถือโอกาสนี้ในการเดินเข้าสู่ประตูวิวาห์อันสุดแสนโรแมนติก ฉะนั้นคงจะเป็นภาพอันชินตาที่จะได้พบเห็นดอกไม้สีสันสดใส ที่ถูกประดับประดาอย่างตั้งใจ เพื่อเฉลิมฉลองความรักอันบริสุทธิ์ของคู่บ่าวสาว จนในบางครั้งอาจจะกลายเป็นสวนดอกไม้ขนาดย่อมเลยก็ว่าได้ แต่อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่บรรดาสาวๆ โดยเฉพาะสาวโสดไม่ควรพลาด คือ ท่ามกลางงานแต่งงาน ถือเป็นโอกาสดี ที่สาวๆ จะได้พบปะบรรดาหนุ่มโสดมากมาย ซึ่งในบางครั้งอาจจะนำไปสู่การพัฒนาความสัมพันธ์ต่อไปในอนาคตได้ ฉะนั้นการเตรียมตัวที่ดีทั้งเสื้อผ้า หน้าผม รวมไปถึงบุคลิกภาพ จะช่วยสร้างจุดสนใจให้สาวๆ เป็นที่ต้องตาหนุ่มโสดได้ง่ายยิ่งขึ้น”
นอกจากนี้ คุณแมน กวี ลักษณะสกุลชัย แฟชั่นสไตล์ลิตส์นิตยสารชื่อดัง ได้แนะเทคนิคการแต่งตัวง่ายๆ ที่ “เพื่อนเจ้าสาว” ควรทราบเพื่อสร้างความประทับใจในสายตาหนุ่มๆ ไว้ดังนี้
รู้ “กาลเทศะ”
เพราะชีวิตของคนเราจะมีโอกาสในการแต่งงานเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น เพราะฉะนั้นงานแต่งงานจึงถือเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับชีวิต ดังนั้นบรรดาเพื่อนเจ้าสาวหรือแขกที่มาร่วมงานควรให้เกียรติบุคคลที่สำคัญที่สุดในงาน นั่นคือ “เจ้าสาว” นั่นเอง สิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือ ธีมของงาน ว่างานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสทางเจ้าภาพกำหนดเป็นธีมอะไร ไม่ควรแต่งตัวแย่งซีน เพราะคนอื่นๆ รวมทั้งบรรดาหนุ่มๆ ทั้งหลายจะมองว่าเราเป็นคนไม่รู้จักกาลเทศะก็เป็นไปได้
ลำดับต่อมาคือ สีของชุด เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว ชุดเจ้าสาวจะเน้นไปในโทนสีขาวหรือสีครีม ดังนั้นบรรดาแขกทั้งหลายต้องหลีกเลี่ยงสีดังกล่าว ให้ลองเลือกสีชุดเป็นโทนอื่น อย่างสีชมพู สีฟ้า หรือสีพาสเทล ตามความชอบของตนเอง ซึ่งสีเหล่านี้นอกจากจะช่วยเพิ่มความสดใสให้กับตัวเองแล้ว ยังเป็นสีที่เหมาะสมกับงานมงคลเป็นอย่างยิ่งอีกด้วย นอกจากนี้อีกหนึ่งสิ่งที่ควรตระหนักถึง คือ ลักษณะของชุด โดยมากในช่วงงานกลางวันชุดของเจ้าสาวจะนิยมสวมใสเป็นเดรสสั้น ฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงชุดที่ฟู่ฟ่าอลังการจนเกินงาม ให้นำมาใส่ในงานช่วงกลางคืนจะดูเหมาะสมกว่า
รู้ “บุคลิกความเป็นตัวเอง”
ไม่แปลกที่สาวๆ อยากจะสวยหรือดูดีในสายตาของคนอื่นๆ เพราะรูปร่างหน้าตาทำหน้าที่เป็นตัวแทนของคนๆ นั้น แต่ภาพเหล่านี้ก็จะอยู่กับเราเพียงชั่วคราวเท่านั้น เพราะเหนือสิ่งอื่นใดคือ ความเป็นตัวของตัวเอง ความสัมพันธ์ของคนเราจะยืดยาวหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความเข้าใจและการยอมรับในตัวตนของคนๆ นั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นสาวหวาน สาวเปรี้ยว หรือสาวเรียบร้อย คุณก็สามารถสวยได้ในสไตล์ของคุณ เพียงแค่รู้จักการวางตัวที่ดี อย่าเพียงที่จะพยายามเปลี่ยนความเป็นตัวตนเพื่อให้คนอื่นมากสนใจเรา เพราะสุดท้ายก็จะสร้างความทุกข์ให้กับทั้งสองฝ่าย
รู้ “สไตล์ที่เหมาะสม”
หลายคงอาจจะเคยเห็นภาพงานแต่งงานสุดอลังการของบุคคลสำคัญๆ ของโลก อย่างล่าสุดงานพระราชพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าชายวิลเลี่ยมแห่งราชวงศ์อังกฤษ ซึ่งจัดในสไตล์อังกฤษหรูหรา สุดคลาสสิก โดยสตรีที่เข้าได้รับเกียรติเข้าร่วมงาน จะต้องสวมหมวกปีกกว้างโดยมีผ้าตาข่ายบางๆ คลุมหน้า ซึ่งหากจะนำมาใช้ในเมืองไทยก็ต้องพิจารณาถึงสไตล์ในการจัดงาน ว่าจัดในโบสต์ หรือเป็นงานกลางแจ้งในสไตล์แบบศาสนาคริสต์หรือไม่ เพราะหากจัดในโรงแรมแสงอาจจะไม่เพียงพอ ซึ่งทำให้บดบังความงามของใบหน้าเสียเปล่าๆ จึงอยากแนะนำว่า “ความเรียบง่าย” คือสไตล์ที่เข้ากับคนไทยที่สุด โดยเริ่มจากทรงผมอาจจะรวบตึง หรือรวบแล้วม้วนเป็นลอน เพื่อให้ดูเป๊ะตลอดทั้งงาน เลือกเดรสที่เข้ากับสรีระของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเดรสสั้นหรือเดรสยาวก็ได้ตามความชอบของตนเอง เลือกรองเท้าส้นสูงกับกระเป๋าทรงคลัชท์ที่เข้าเช็ต และปิดท้ายด้วยหมัดเด็ดพิชิตใจคือ รอยยิ้มอันแสนร่าเริงและจริงใจ เพียงเท่านี้สาวๆ ก็จะดูดีไปโดยปริยาย
หวังว่าเคล็ดลับดีๆ เหล่านี้ จะช่วยให้ สาวๆ อำลา “ความโสด” ได้อย่างสมบูรณ์แบบ