กรุงเทพฯ--20 ก.พ.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยคณะพาณิชยศาสตร์ และการบัญชี ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดแข่งขันประกวดแผนธุรกิจระดับภูมิภาคเอเชีย “ASIA VENTURE CHALLENGE 2012” ครั้งที่ 7 เฟ้นหาสุดยอดตัวแทนนักศึกษารุ่นใหม่ ภายใต้ ความเป็น “ภาวะผู้นำ” แรงผลักดันสู่การเติบโตเหนือคู่แข่ง( Growing Ventures Beyond the Competition — the Leadership Factor ) จาก 12 ทีม ทั่วเอเชีย-แปซิฟิก คัดเลือก ผู้ชนะ เข้าสู่การประกวดแผนธุรกิจบนเวทีระดับโลกที่มลรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา
รศ.ดร.กุลภัทรา สิโรดม คณบดี คณะพาณิชยศาสตร์ และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยคณะพาณิชยศาสตร์ และการบัญชี ร่วมกับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จัดการแข่งขันประกวดแผนธุรกิจระดับภูมิภาคเอเชีย “ASIA VENTURE CHALLENGE 2012” ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 6 — 8 มีนาคม 2555 ณ โรงแรม Four Seasons กรุงเทพฯ โดยได้รับการสนับสนุนหลัก ในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ คือ บมจ.ปตท (PTT) , ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) , Air Asia, บมจ.บีจีที คอร์ปอเรชั่น ( BGT ), บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด
สำหรับการแข่งขันในปีนี้ มีทีมที่ผ่านการคัดเลือก จากนักศึกษาปริญญาโทโครงการบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย ทั้งหมด 12 ทีม จากจำนวน 8 ประเทศ ได้แก่ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินเดีย ไทย และสหรัฐอเมริกา โดยคณะกรรมการตัดสินจะมาจากผู้ทรงเกียรติและทรงคุณวุฒิต่าง ๆ ซึ่งประกอบด้วย นักธุรกิจชั้นนำ จากหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงตัวแทนผู้ลงทุนที่มีชื่อเสียง เข้ามาเป็นที่ตัวแทนพิจารณาคัดเลือกและตัดสินการแข่งขัน สุดยอดแผนธุรกิจระดับเอเชียในครั้งนี้
ทั้งนี้ จากทีมที่ได้รับการคัดเลือกและเข้ามาแข่งขันในครั้งนี้ นอกจากจะมีความรู้ความสามารถแล้ว สิ่งที่ สำคัญที่สุด ที่จะทำให้แผนธุรกิจประสบความสำเร็จได้ ต้องขึ้นอยู่กับภาวะความเป็นผู้นำของคนในทีมนั้นๆด้วย ซึ่งคนในทีมทุกๆคนจะต้องแสดงความเป็น “ ภาวะผู้นำทางความคิด ความสามารถ ” ที่จะช่วยให้ทีมงานทุกๆคนฟันฝ่าภาวะความกดดันภายใต้การแข่งขันแผนธุรกิจในครั้งนี้ไปให้ได้
“ ทีมที่เข้าแข่งขันทุกทีมต้องแข่งขันกัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งไทย และต่างชาติ ผู้เปรียบเสมือนดั่ง “ ผู้ลงทุน ” หรือ “ ผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมทุน ” (Venture Capitalist) ซึ่งจะต้องจัดทำแผนธุรกิจของผลิตภัณฑ์ และบริการ ตั้งแต่การวิเคราะห์ การวิจัย ศึกษาตลาด ด้วยแนวคิดการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ ที่มีความเป็นไปได้โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องนำเสนอแผนธุรกิจ สร้างความเชื่อมั่นให้ได้ว่า ธุรกิจจะสามารถทำได้จริงและจะประสบความสำเร็จหากได้รับเงินทุนสนับสนุน ตลอดจนสามารถให้ผลตอบแทน และกำไรให้ได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ ” รศ.ดร.กุลภัทรา กล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับทีมผู้ชนะเลิศการแข่งขัน “ASIA VENTURE CHALLENGE 2012” ในครั้งนี้ จะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 10,000 เหรียญสหรัฐฯ และยังได้เป็นตัวแทนจากทวีปเอเชีย เข้าร่วมการแข่งขันแผนธุรกิจระดับโลก Venture Labs Investment Competition (VLIC) ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนพฤษภาคม ณ มลรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยทีมที่ชนะการแข่งขันแผนธุรกิจระดับโลก จะได้รับเงินรางวัลมูลค่ากว่า 100,000 เหรียญสหรัฐฯ และได้รับเกียรติลั่นระฆัง เปิดตลาดหุ้น NASDAQ ที่นิวยอร์ก
ด้านนายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า กลุ่มตลาดหลักทรัพย์-แห่งประเทศไทย ได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมโดยเน้นให้ความสำคัญในการพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพของเยาวชน ซึ่งการแข่งขัน “ASIA VENTURE CHALLENGE 2012” ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ กลุ่มตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นว่าการวางแผนธุรกิจถือเป็นเรื่องสำคัญในการต่อยอดวิธีคิด มุมมอง อย่างมีระบบ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการมีหลักในการดำเนินธุรกิจ และสามารถ ประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น
“ การจัดแข่งขัน “ASIA VENTURE CHALLENGE 2012” มุ่งพัฒนาผู้ประกอบการและเพิ่มนักบริหารธุรกิจเอเชียที่มีศักยภาพในอนาคต โดยเป็นเวทีให้นักศึกษาบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วเอเชีย ได้นำเสนอแผนธุรกิจต่อผู้ลงทุนเพื่อการลงทุนจริงหรือที่เรียกว่า Investment Competition ซึ่งจะช่วยสนับสนุนคนรุ่นใหม่ให้รู้จักกระบวนการทางความคิด เพื่อพัฒนาการออกแบบและวางแผนธุรกิจ ที่สามารถนำมาใช้เป็นแนวทางในการทำงานในอนาคตต่อไป ในขณะเดียวกัน ยังเป็นการแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ ระหว่างทีมผู้เข้าแข่งขันจากนานาชาติด้วย ” นายจรัมพร กล่าว
นอกจากนี้ ในการจัดการแข่งขัน “ASIA VENTURE CHALLENGE” หลายปีที่ผ่านมา นักศึกษาไทยสามารถคว้ารางวัลแชมป์โลก และเข้าสู่รอบสุดท้ายได้หลายครั้ง อีกทั้งมีผู้ลงทุนสนใจนำแผนธุรกิจจากการแข่งขันไปลงทุนจริง ถือเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอีกด้วย