กรุงเทพฯ--20 ก.พ.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,731 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,726 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.79 กับ 30.83 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 25,200 บาท กับ 25,300 บาท และกลับมาปิดที่ 25,200 บาท กับ 25,300 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 4,349 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 11,472 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 3 คู่สัญญา ปริมาณการซื้อขาย Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 1% แบบ 10 บาท ลดลง 2% GFG12 ปิดที่ 25,340 บาท เและ GFJ12 ปิดที่ 25,540 บาท และ GF10G12 ปิดที่ 25,340 บาท และ GF10J12 ปิดที่ 25,540 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 2.5 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,725.9 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 15.4 เซนต์ ปิดที่ระดับ 33.21 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำที่ 1,281.28 ตัน (คงทองเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 93 เซนต์ ปิดที่ระดับ 103.24 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 45.79 จุดปิดที่ระดับ 12,949.87 จุด
Ratio Gold / Silver เท่ากับ 51.9 ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
- นายอาลี-อัคบาร์ ซาเลฮี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน ซึ่งกล่าวระหว่างเปิดแถลงข่าวและถ่ายทอดสดผ่านเพรสทีวี สถานีดาวเทียมของท้องถิ่นว่า อิหร่านและ 5 สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ บวกเยอรมนี (จี5+1) จะเปิดเจรจารอบใหม่ประเด็นโครงการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ ที่อิสตันบูล ประเทศตุรกี อิหร่านเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์เลวร้ายที่สุดแล้ว ท่ามกลางคำขู่จากชาติตะวันตก ชาติตะวันตกน่าจะเลือกที่จะปฏิสัมพันธ์กับอิหร่าน ไม่ใช่เผชิญหน้ากัน
- กระทรวงน้ำมันอิหร่านประกาศหยุดส่งออกน้ำมันให้กับบริษัทในสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสแล้ว แม้จะยังเหลือเวลาอีกหลายเดือนก่อนที่สหภาพยุโรปจะประกาศระงับการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน นายอาลีเรซา นิคซาด-ราห์บาร์ โฆษกกระทรวงน้ำมัน เผยว่า กระทรวงเคยประกาศก่อนหน้านี้ว่าอาจจะยุติการส่งออกน้ำมันไปยังบางประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) และล่าสุดกล่าวว่า กระทรวงน้ำมันหยุดขายน้ำมันให้กับบริษัทในสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสแล้ว เรามีลูกค้าน้ำมันของเราเอง และมีการพิจารณาตัวแทนบริษัทเหล่านั้นแล้ว เราจะขายน้ำมันดิบให้กับลูกค้ารายใหม่แทนบริษัทในสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส อย่างไรก็ดี โฆษกกระทรวงไม่ได้ระบุว่า จะหยุดขายน้ำมันให้กับบริษัทในสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสเป็นระยะเวลาเท่าใด
- คอนเฟอเรนซ์ บอร์ดเผยดัชนีชี้นำศก.สหรัฐเดือนม.ค.พุ่งสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 0.4% แตะ 94.9 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2551 และทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ต่อเนื่องจากที่ขยายตัว 0.5% ในเดือนธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีจะเพิ่มขึ้น 0.5 การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐนับตั้งแต่ตัวเลขจ้างงานไปจนถึงภาคการผลิตและยอดค้าปลีกล้วนบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีปัจจัยหนุนอยู่มากจากช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2554 ซึ่งทำให้ตลาดการเงินผ่อนคลายจากความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจอาจชะลอลงในไตรมาสนี้
- สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายขยายการลดภาษีจ้างงานและสวัสดิการว่างงานสำหรับผู้ว่างงานระยะยาวตลอดปีงบประมาณ หากมีการอนุมัติร่างกฎหมายนี้ ก็จะทำให้สามารถหลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีจ้างงานสำหรับชาวอเมริกันในวันที่ 1 มี.ค., เป็นการต่ออายุสวัสดิการว่างงานสำหรับผู้ว่างงานระยะยาว ข้อตกลงนี้แสดงถึงชัยชนะสำหรับปธน.โอบามา และพรรคเดโมแครต ซึ่งระบุว่า การลดภาษีจ้างงานสำหรับชาวอเมริกันอาจจะเป็นแรงหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
- รมว.คลังสหรัฐได้ให้การสนับสนุนมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจฉบับล่าสุดของกรีซ และกล่าวว่าสหรัฐจะผลักดันกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ให้สนับสนุนกรีซในเรื่องการเงิน กรีซได้ทำตามเงื่อนไขเบื้องต้นทั้งหมดของข้อตกลงการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบที่สองมูลค่า 1.30 แสนล้านยูโร (1.704 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) แล้ว ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยปูทางสู่การทำข้อตกลงสว็อปพันธบัตรกับเจ้าหนี้เอกชน ซึ่งจะช่วยลดภาระหนี้สินของกรีซ
- ธนาคารกลางจีนประกาศลดสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ (RRR) โดยมีเป้าหมายที่จะผ่อนคลายภาวะตึงตัวด้านสินเชื่อระยะสั้น และรับมือกับวิกฤตการณ์ในตลาดต่างประเทศ โดยจะให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.เป็นต้นไป ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนประกาศลด RRR ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ลง 0.50% มาอยู่ที่ระดับ 20.5% และลด RRR สำหรับธนาคารขนาดเล็กและขนาดกลางลง 17% โดยคาดว่าการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาดราว 4 แสนล้านหยวน
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันศุกร์
- Core CPI m/m จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.1% คาดการณ์ว่าจะออกมาอยู่ที่ 0.2 % ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ 0.2%
- CPI m/m จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.0% คาดการณ์ว่าจะออกมาอยู่ที่ 0.3% ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ 0.2%
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
-ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ เนื่องจากเป็นวัน Presidents Day and Washington's Birthday. ตลาด Comex หยุด
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำเช้าวันนี้ดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจากข่าวที่กรีซยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขการเรียกร้องของกลุ่มทรอยก้าทุกประการ อีกทั้งการที่สหรัฐแสดงท่าทีเชิงบวกสนับสนุนกลุ่มทรอยก้าในการที่จะปล่อยเงินให้กรีซรอบ 2 นี้ ซึ่งถ้าหากเป็นไปตามคาดจริง จะทำให้ตลาดการเงินเข้าสู่ภาวะสมดุล ทำให้ทองคำกลับเป็นขาขึ้นอย่างสมบูรณ์ โดยมีแนวต้านที่ระดับ 1740 เหรียญ และแนวรับที่ระดับ 1710 เหรียญ ถ้าราคาสามารถผ่านแนวต้าน ที่ระดับ 1740 เหรียญได้ แนะนำให้ Follow buy ตาม โดยหลักๆ รอความชัดเจนของข่าว ถ้าราคาดีดไปไกลให้ระวังเรื่อง Sell on Fact ด้วย ซึ่งจะมีนักลงทุนบางประเภทรอขายทำกำไร สรุปได้ว่า ทองคำน่าจะเป็นขาขึ้น โดยมีแนวต้านที่ระดับ 1740 เหรียญ และแนวรับที่ระดับ 1710 เหรียญ
Gold Futures G12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,250 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,450 บาท
Gold Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,550 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,750 บาท
Silver Futures G12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,020 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,050 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade)
เก็งกำไรในทิศทางขาขึ้น คาดว่าราคาน่าจะแกว่งตัว ในกรอบ 1720 - 1740 เหรียญ อย่างไรก็ดีทองคำยังถูกกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากกว่า 8 สตางค์ จากระดับ 30.84 บาท มาอยู่ที่ 30.76 บาท ซึ่งจะทำให้การขึ้นของทองคำเป็นไปได้ไม่สมบูรณ์นัก
นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade)
เข้าซื้อต่อเนื่อง ยังคงถือครองพอร์ท 50 %
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
เป็นการรอจังหวะซื้อสะสม ยังเป็นลักษณะถือครองพอร์ท 50 %
สรุปได้ว่า ภาพรวมหลักราคาทองคำน่าจะเป็นทิศทางขาขึ้น เป็นการรับข่าวของกรีซ
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง