กรุงเทพฯ--21 ก.พ.--ออดินริค-ไทย
บริษัท ออดินริค-ไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “เบอกาม็อท” ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะจากสารสกัดธรรมชาติ เดินเกมรุกเต็มพิกัดในปี 55 เน้นกลยุทธ์สื่อสารโดนใจคนรุ่นใหม่ชูจุดเด่นผลิตภัณฑ์สารสกัดจากธรรมชาติ พร้อมส่ง “เบอกาม็อท ดีท็อกซิฟาย สูตรประจุบวก” แชมพูและครีมนวดบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะสูตรประจุบวกลิขสิทธิ์เฉพาะของเบอกาม็อท ตอบโจทย์ปัญหาเส้นผมของคนรุ่นใหม่ ตั้งเป้าดันตัวเลขส่วนแบ่งการตลาดแบรนด์เบอกาม็อท ขยับเป็น 32 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้
นายวิรัตน์ บุญกาญจน์ ประธานบริหาร บริษัท ออดินริค-ไทย จำกัด เผยว่า ที่ผ่านมา “เบอกาม็อท” เป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จและอยู่คู่คนไทยมากว่า 30 ปี โดยมีกลยุทธ์สำคัญ คือ การยึดมั่นในการสร้างสินค้าที่มีคุณภาพที่สามารถแก้ปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะได้อย่างแท้จริง จนได้ชื่อว่าเป็น Top of Mind ของผู้บริโภคในฐานะของผู้เชี่ยวชาญในการแก้ปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะ ด้วยภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยมในประเภทผลิตภัณฑ์เพื่อการรักษาเฉพาะทาง ที่เน้นกลุ่มลูกค้าระดับบน และกลุ่มผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาเส้นผมขาดหลุดร่วงและปัญหาหนังศีรษะเป็นหลัก จนถือเป็นสัญลักษณ์คู่ปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะของคนไทยไปแล้ว
ด้วยภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งนี้ ได้กลายเป็นโจทย์สำคัญสำหรับแผนการขยายตลาดในปัจจุบันที่ต้องการขยายกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น ทั้งเพื่อกลุ่มลูกค้าในอนาคตและการเติมเต็มช่องว่างในตลาดหลังพบว่าปัญหาเส้นผมขาดหลุดร่วงและปัญหาหนังศีรษะพบมากขึ้นในกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน อันเนื่องมาจากหลายสาเหตุ อาทิ ความเครียด, กรรมพันธุ์, มลภาวะในอากาศ, การตกค้างของสารเคมีจากผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม และการดูแลเส้นผมอย่างไม่ถูกวิธี เป็นต้น โดยที่ผ่านมาได้มีการดำเนินแผนการตลาดเพื่อสื่อสารสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องมาแล้วกว่า 2 ปี
“สำหรับในปี 2555 เบอกาม็อทตั้งเป้าในการรุกตลาดอย่างเต็มพิกัด โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ การสร้างทัศนคติและการรับรู้ที่ถูกต้องและชัดเจนยิ่งขึ้นต่อแบรนด์เบอกาม็อท และการต่อยอดความสำเร็จของเบอกาม็อทเพื่อขยายกลุ่มลูกค้ามาสู่ คนรุ่นใหม่ โดยตั้งแต่ต้นปีเราได้มีการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาตัวใหม่ล่าสุด ชื่อชุด “The Secret of Nature” เพื่อสร้างการรับรู้และชูจุดเด่นของแบรนด์เบอกาม็อทในกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปว่าผลิตภัณฑ์ทุกชนิดของเบอกาม็อทผลิตจากสารสกัดจากธรรมชาติไม่ใช่ยาหรือสารเคมี” นายวิรัตน์ กล่าว
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง เบอกาม็อทเตรียมแผนโปรโมทผลิตภัณฑ์ “เบอกาม็อท ดีท็อกซิฟาย สูตรประจุบวก” แชมพูและครีมนวดบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะสูตรประจุบวกลิขสิทธิ์เฉพาะของเบอกาม็อท
ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะโดดเด่นมากในการทำตลาดในปีนี้ โดยที่ผ่านมาได้มีการทดลองทำตลาดมาแล้วกว่า 2 ปี ซึ่งมีการตอบรับที่ดีมากโดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่ช่วยทำความสะอาดได้ล้ำลึก แก้ปัญหาสารตกค้างบนเส้นผม ควบคู่ไปกับการบำรุงเส้นผมให้นุ่มสลวยสุขภาพดี
“เบอกาม็อท ดีท็อกซิฟาย สูตรประจุบวก” ถือเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มแชมพูและครีมนวดบำรุงเส้นผมเพื่อการขจัดสารพิษและสารตกค้างบนเส้นผมและหนังศีรษะรายแรกของเมืองไทย โดยเน้นเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาสารตกค้างบนเส้นผมซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะไม่ว่าเป็นปัญหาคันหนังศีรษะ รังแค หรือเส้นผมขาดหลุดร่วง ซึ่งเบอกาม็อทได้พัฒนาสูตรนี้ขึ้นเพื่อแก้ปัญหาที่ตรงจุด โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน ที่มีปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะจากหลายสาเหตุ อาทิ ความเครียด, กรรมพันธุ์, มลภาวะในอากาศ, การตกค้างของสารเคมีจากผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม และการดูแลเส้นผมอย่างไม่ถูกวิธี เป็นต้น”
สำหรับ “เบอกาม็อท ดีท็อกซิฟาย สูตรประจุบวก” มีจุดเด่นด้วยคุณสมบัติเป็นประจุบวก (+) ที่มีประสิทธิภาพเข้าจับเกาะและขจัดชำระล้างสารเคมีตกค้างต่างๆ บนหนังศีรษะและเส้นผม เช่น สารคลอรีนจากสระว่ายน้ำ, สารจากมลภาวะ, ฝุ่นละออง, และผลิตภัณฑ์ตกแต่งหรือบำรุงเส้นผมทั่วไป อันจะก่อให้เกิด “พิษ” (Toxic) ต่อหนังศีรษะและเส้นผมอันเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาผมเสีย ผมร่วง และสุขภาพหนังศีรษะ เป็นต้น โดย “เบอกาม็อท ดีท็อกซิฟาย สูตรประจุบวก” นี้จะช่วยจับเกาะสารพิษเหล่านี้ให้หลุดออกได้อย่างง่ายดายโดยไม่ทำลายเกราะคุมผิวโดยธรรมชาติ อีกทั้งมีความอ่อนโยนต่อผิวและดวงตา มีค่า pH Value ที่ 6.0 (pH Balance) จึงเหมาะกับเส้นผมทุกประเภท ปราศจากสาร Silicone เข้มข้นด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ BERGAMOT โดยมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกในรูปแบบแชมพู 2 สูตรสำหรับผมธรรมดา/ผมมัน และผมแห้งเสีย/ทำสี/ฟอกสี พร้อมด้วยครีมนวด 1 สูตรสำหรับผมแห้งเสียทุกชนิด
สำหรับ “เบอกาม็อท ดีท็อกซิฟาย สูตรประจุบวก” นั้น ได้ถูกวางตำแหน่งไว้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของหนังศีรษะและเส้นผมที่เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งวัยรุ่นและวัยทำงานทั้งชายและหญิง ที่มีปัญหาสารตกค้างบนเส้นผมและหนังศีรษะ เช่น การตกค้างของสารคลอรีนบนเส้นผมของผู้ที่ชอบกีฬาว่ายน้ำ ผู้ใช้รถใช้ถนนที่ต้องเจอควันพิษฝุ่นละออง รวมถึงผู้ที่นิยมใช้ผลิตภัณฑ์ตกแต่งทรงผม เป็นต้น ปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของหนังศีรษะและเส้นผมที่มีคุณสมบัติเฉพาะทาง 8 เปอร์เซ็นต์ โดยตั้งเป้าปี 55 โตไม่น้อยกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ หรือมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 15เปอร์เซ็นต์” นายวิรัตน์ กล่าวเสริม
ทั้งนี้ สำหรับภาพรวมของตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมในประเทศไทยนั้น มีมูลค่า 13,200 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มแชมพู 71.43% และคอนดิชันเนอร์ 28.57% โดยคิดเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม 72 เปอร์เซ็นต์ ผลิตภัณฑ์ขจัดรังแค 19 เปอร์เซ็นต์ ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก 5 เปอร์เซ็นต์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของหนังศีรษะและเส้นผมที่มีคุณสมบัติเฉพาะทาง 4 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาในกลุ่มนี้มีการเติบโตต่อเนื่องทุกปีไม่น้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ โดยที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์เบอกาม็อท ถือเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของหนังศีรษะและเส้นผมที่มีคุณสมบัติเฉพาะทาง
โดยปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 23 เปอร์เซ็นต์ แบ่งเป็นผลิตภัณฑ์เบอกาม็อทประเภทรักษาผมร่วง 15 เปอร์เซ็นต์ และผลิตภัณฑ์เบอกาม็อทกลุ่มดีท็อกซิฟาย 8 เปอร์เซ็นต์ โดยตั้งเป้าปี 55 ผลิตภัณฑ์รักษาผมร่วงโตไม่น้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ และในกลุ่มดีท็อกซิฟาย โตไม่น้อยกว่า 100 เปอร์เซ็นต์