กรุงเทพฯ--21 ก.พ.--C.A. INFO MEDIA
ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) เปิดตัว หอศิลปาชีพโฉมใหม่อย่างเป็นทางการ ตกแต่ง สร้างสรรค์ จัดฟังก์ชั่นใหม่อย่างสะดุดตา และปรับปรุง “หอเกียรติยศ” ให้เป็นห้องฉายภาพยนตร์สั้นเทิดพระเกียรติฯ ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของไทยไม่ซ้ำแบบใคร เปิดตัวด้วยภาพยนตร์สั้นถ่ายทำใหม่ทั้ง 3 เรื่อง เพื่อมุ่งสืบสานงานศิลปาชีพและศิลปหัตถกรรมไทย
เพราะงานศิลปาชีพ และศิลปหัตกรรมไทยนั้น เป็นพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งพระองค์เปรียบเสมือน “แม่แห่งงานศิลปาชีพ” และทรงตั้งพระราชปณิธานให้งานศิลปหัตถกรรมได้มีการสานต่อไปสู่ชนรุ่นหลัง เนื่องจากเป็นงานที่ถ่ายทอดเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่คงความเป็นไทย ตลอดจนการส่งเสริมงานศิลปาชีพ ถือเป็นส่วนสำคัญในการช่วยสร้างอาชีพให้แก่กลุ่มชาวบ้าน ที่มักมีการรวมกลุ่มช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ดังนั้น การปรับเปลี่ยน “หอศิลปาชีพ” ของ ศ.ศ.ป.ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมแล้ว ยังเป็นการสานต่องานศิลปหัตถกรรมไทยดังพระราชปณิธาน โดยปรับรูปโฉมให้เข้ากับชลรุ่นหลัง เพื่อช่วยอนุรักษ์ให้งานศิลปหัตถกรรมไทยนั้นคงอยู่ตลอดไป
นางพิมพาพรรณ ชาญศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ ศ.ศ.ป. เปิดเผยว่า วัตถุประสงค์ในการปรับปรุงหอศิลปาชีพเพื่อให้เป็นหอนิทรรศการที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถที่มีต่องานศิลปาชีพ และพระราชปณิธานในการสืบสานงานศิลปหัตถกรรมไทย พร้อมทั้งจัดแสดงผลงานศิลปาชีพที่มีความปราณีต สวยงาม ทรงคุณค่า และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อาทิเช่น เครื่องปั้นดินเผาไทย ผ้าไทย เครื่องจักสานไทย และความเป็นมาของการจัดตั้งศูนย์ศิลปาชีพ และมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ซึ่ง ศ.ศ.ป. ได้จัดสร้างหอนิทรรศการ จำนวน 5 หอ ประกอบด้วย หอศิลปาชีพ หอหัตถศิลป์ผ้าไทย หอเครื่องทองไทย หอหัตถกรรมอาเซียน และห้อง Living Thai ที่เพิ่มความน่าสนใจด้วยการตกแต่งด้วยสีสันสะดุดตา ผสมผสานกลิ่นอายความเป็น Thai Modern โดยภายในหอศิลปาชีพได้ทำการ แบ่งส่วนจัดแสดง ให้มีฟังก์ชั่นที่เข้าชมง่าย ดังนี้
1. History Timeline ที่แสดงให้เห็นถึงเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ในแต่ละยุคสมัยนับตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ จนถึงสมัยปัจจุบัน โดยแบ่งตามสีออกเป็น 4 สายคือ ห้องเครื่องปั้นดินเผาไทย ห้องผ้าไทย ห้องเครื่องจักสานไทย ห้องศูนย์ศิลปาชีพ
2. ห้องเครื่องปั้นดินเผาไทย เป็นห้องที่เล่าเรื่องราวความผูกพันธ์ของเครื่องปั้นดินเผากับวิถีชีวิตมนุษย์มาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ รวมถึงวิวัฒนาการของการผลิตเครื่องปั้นดินเผาไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งจัดแสดงผลิตภัณฑ์เซรามิกจากศูนย์ศิลปาชีพทั่วประเทศ
3. ห้องเครื่องจักสานไทย เป็นห้องที่จัดแสดงเครื่องจักสานชนิดต่างๆ อาทิ ย่านลิเภา ไม้ไผ่ลายขิด หวาย และกระจูด ซึ่งอันแสดงถึงภูมิปัญญาของคนไทยที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้สืบไป
4. ห้องผ้าไทย เป็นห้องที่จัดแสดงมรดกทางศิลปะบนผืนผ้าชิ้นสำคัญที่บรรบุรุษได้ฝากไว้ตั้งแต่ครั้งอดีต ด้วยเทคนิคการทอในรูปแบบต่างๆ อาทิ ผ้าซิ่นตีนจก ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าทอยกดอก ผ้าปักชาวเขา ผ้าฝ้ายของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ พร้อมทั้งนำเสนอเรื่องราวผ้าทอทั่วไทย
5. ห้องนิทรรศการหมุนเวียน เป็นห้องจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับงานศิลปาชีพและงานศิลปหัตถกรรมไทยที่ ศ.ศ.ป. ได้พัฒนาขึ้นตามโครงการต่างๆ โดยกำหนดจัดหมุนเวียนทุกๆ 3 เดือน
6. ห้องศูนย์ศิลปาชีพ เป็นห้องที่จัดแสดงประวัติความเป็นมาและผลงานของศูนย์ศิลปาชีพตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ พร้อมทั้งจัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่เป็นผลงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของสิลปาชีพ อาทิเช่น หุ่นกระบอก หัวโขน งานลงรักปิดทอง งานเขียนลายน้ำทอง เป็นต้น
7. การจัดแสดงหุ่นประกอบนิทรรศการถาวร (หุ่นขี้ผึ้ง) โดยจำลองมาจากการเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ต่างๆทั่วทุกภูมิภาคของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ อันก่อให้เกิดโครงการศิลปาชีพตามภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย ประกอบด้วย งานทอผ้า การเขียนลายเซรามิก การทำเครื่องเงินเครื่องทอง และงานจักสาน
8. การจัดทำหอเกียรติยศ ศ.ศ.ป. ได้ดำเนินการปรับปรุงหอเกียรติยศ เป็นห้องฉายภาพยนตร์สั้นเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งคณะครูอาจารย์และแขกผู้มีเกียรติสามารถเข้าชมภาพยนตร์สั้นนี้ได้ โดยมีด้วยกัน 3 เรื่องให้รับชม ประกอบด้วย
เรื่องที่ 1 “ศิลปาชีพ” เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์งานผ้าไหม ซึ่งทรงมีพระมหากรุณาธิคุณในอันที่จะยกระดับความเป็นอยู่ของราษฎรในภาคอีสาน
เรื่องที่ 2 “แม่แห่งศิลปาชีพ” เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับงานอนุรักษ์และสืบสานย่านลิเภาในภาคใต้
เรื่องที่ 3 “สืบสานศิลปาชีพ” เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับงานเซรามิกที่ถ่ายทอดผ่านตัวละครที่เป็นสมาชิกโครงการศิลปาชีพ
นอกจากนี้ หลังจากที่ ศ.ศ.ป. ได้เปิดตัวหอศิลปาชีพอย่างเป็นทางการแล้ว จะสามารถสร้างชื่อเสียง และยกระดับงานศิลปหัตถกรรมไทยให้เป็นที่รู้จักได้เพิ่มมากขึ้น ตลอดจนคาดว่าจะได้มีโอกาสให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแหล่งสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดอยุธยาเพิ่มขึ้นอีกด้วย ผู้สนใจสามารถติดต่อขอเข้าเยี่ยมชมได้ที่เบอร์ 035 367 054-9