กรุงเทพฯ--23 ก.พ.--IR PLUS
บอร์ด TKS สวมบทพ่อบุญทุ่ม ประกาศปันผลครึ่งปีหลังอีก0.32 บ./หุ้น หลังจ่ายระหว่างกาลแล้ว 0.10 บ./หุ้น รวมจ่ายทั้งปี 0.42 บ./หุ้น หลังโชว์ผลงานปี 54 ยอดเยี่ยมกำไรพุ่ง 57.71% ทะลุ 237.51 ลบ.“ศิริวรรณ สุกัญจนศิริ” มั่นใจปีนี้ธุรกิจสิ่งพิมพ์โตต่อ ตั้งเป้ารายได้โต 15% แตะ1,350 ล้านบาท พร้อมชูธงเจาะตลาดต่างประเทศเพิ่ม หวังขยายสัดส่วนรายได้จาก 10% เป็น 20%
นางสาวศิริวรรณ สุกัญจนศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.เค.เอส.เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS
ผู้ประกอบการธุรกิจงานพิมพ์ครบวงจรรายใหญ่ในประเทศ เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2555ว่า ที่ประชุมได้มีมติให้ บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลงวดครึ่งหลังปี 2554 (กรกฎาคม — ธันวาคม 2554) ในอัตราหุ้นละ 0.32 บาท จากกำไรสุทธิในงวดดำเนินงานวันที่ 01 ก.ค. 2554 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2554 และกำไรสะสม อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้จ่ายปันผลระหว่างกาลในงวดดำเนินงานวันที่ 01มกราคม ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2554 ไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท ส่งผลให้บริษัทฯ จ่ายปันผลรวมทั้งปี 2554 ที่อัตราหุ้นละ 0.42 บาท โดยในงวดครึ่งปีหลังนี้กำหนดจ่ายในวันที่ 17 พฤษภาคม 2555
“ในปี 2554 TKS ทำกำไรสูงกว่าปีก่อนถึง 57.71% ทะลุ 237.51 ล้านบาท คณะกรรมการ บริษัทฯ จึงได้ลงมติอนุมัติการจ่ายปันผลในครึ่งปีหลังในอัตราค่อนข้างสูง คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) 5.91% ซึ่งมาจากกำไรจากผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังและกำไรสะสมรวมกัน เพื่อตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นที่ให้การสนับสนุนบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา ” นางสาวศิริวรรณ กล่าว
ทั้งนี้ ผลประกอบการที่เติบโตอย่างโดดเด่นดังกล่าวมาจาก ในปี 2554 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายในปี 2554 จำนวน 1,147.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน จำนวน 5.62 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.49 ขณะที่กำไรขั้นต้นในปี 2554 จำนวน 248.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน จำนวน 20.49 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.9 เนื่อง
จากบริษัทฯ สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ โดยในปี 2554 ต้นทุนการผลิตเท่ากับร้อยละ 78.4 ของยอดขาย เมื่อเทียบกับปี 2553 ต้นทุนการผลิตเท่ากับร้อยละ 80.0 ของยอดขาย สำหรับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในปี 2554 จำนวน 170.96 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน จำนวน 10.08 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 ขณะเดียวกับที่ต้นทุนทางการเงินในปี 2554 จำนวน 35.92 ลดลงจากปีก่อน จำนวน 12.52 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 25.86 อย่างไรก็ดี ในปี 2554 บริษัทฯ มีรายได้อื่นๆ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 63.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 48.38 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นจากกำไรจากการขายที่ดิน จ.เพชรบุรี จำนวน 19.24 ล้านบาท รวมถึงการเพิ่มขึ้นจากผลตอบแทนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม จำนวน 39.42 ล้านบาท และการเพิ่มขึ้นจากรายได้อื่นๆ จำนวน 5.31 ล้านบาท
นางสาวศิริวรรณ กล่าวต่อถึงธุรกิจสิ่งพิมพ์ในปี 2555 ว่า มีทิศทางเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา และหากไม่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมในประเทศอีกครั้ง มองว่าภาพรวมอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์จะเติบโตเฉลี่ย 10% จากปีก่อน ทั้งนี้ ช่วง 6เดือนแรกของปีนี้ ธุรกิจสิ่งพิมพ์อาจไม่ค่อยคึกคักนัก เนื่องจากหลายนิคมอุตสาหกรรมยังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม ส่งผลให้หลายโรงงานยังผลิตได้ไม่เต็มที่ แต่ภาพรวมน่าจะฟื้นตัวได้ในครึ่งปีหลัง ซึ่งเอื้อให้อุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์คึกคักเช่นกัน โดยในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้อยู่ที่ 15% จากปีก่อน ซึ่งถือว่าสูงกว่าอุตสาหกรรม เนื่องจากบริษัทฯ มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น จากแผนขยายโรงงานและเพิ่มเครื่องจักรใหม่ นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีแผนขยายตลาดส่งออกมากขึ้นจาก 10% ปีก่อน เป็น 20% ในปีนี้ โดยคาดว่าการรุกตลาดส่งออกดังกล่าวจะเห็นได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี
ข้อมูลบริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (TKS)
บริษัท ที.เค.เอส.เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS เป็นผู้ประกอบธุรกิจด้านการพิมพ์ อย่างครบวงจร ทั้งงานพิมพ์แบบต่อเนื่องและแบบแผ่น รวมไปถึงงานพิมพ์เอกสารแบบฟอร์มต่างๆของธนาคาร, ตั๋วสัญญาใช้เงิน, สมุดเงินฝากบัญชีประเภทต่างๆ ของธนาคารและสหกรณ์ออมทรัพย์,พิมพ์สมุดเช็ค,รายงานประจำปี, นิตยสาร, ปฏิทิน, แผ่นผับโฆษณา และให้บริการในด้านการบริหารคลังให้กับองค์กรขนาดใหญ่ โดยธุรกิจงานพิมพ์ดังกล่าวได้ดำเนินธุรกิจผ่านบริษัท บริษัท ที.เค.เอส. สยามเพรส แมเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ TKS ถือหุ้น 100% ในขณะเดียวกันยังดำเนินธุรกิจค้าส่งและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ซอฟท์แวร์ และวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ ผ่าน บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX ที่บริษัท ถือหุ้นในสัดส่วน 39.29% โดยปัจจุบัน SYNEX เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในกลุ่มเทคโนโลยี และสารสนเทศ ถือเป็นผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์และ ไอทีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยในปี 2554 มีรายได้สูงกว่า 20,000 ล้านบาท