กรุงเทพฯ--24 ก.พ.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส
Price Movement
ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดที่ 1,785.25 USDต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 14.6 USDต่อออนซ์ ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางในหลายประเทศ การปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมัน ทำให้มีความต้องการทองคำเพื่อเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น
Key Points in Gold Market
- ราคาทองคำเมื่อวานมีความเคลื่อนไหวในกรอบ 1,773.30 — 1,789.50 USDต่อออนซ์ แนวโน้มราคาเป็น bullish มากขึ้นและมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 1,795/ 1,803 ส่วนในช่วงเช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวที่บริเวณ 1,778 USDต่อออนซ์ กราฟในรายวัน RSI เริ่มส่งสัญญาณ divergence เมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น แต่ RSI ไม่ทำ high ใหม่ อาจมีแรงขายทำกำไรบริเวณ 1,803 และแนวต้านบริเวณนี้เป็นแนวต้านที่แข็งแกร่ง คาดว่าจะไม่สามารถผ่านได้ในครั้งเดียว ทำให้ราคามีโอกาสอ่อนตัวลงมาบริเวณแนวรับ 1,773/1,760 / 1,750 USDต่อออนซ์ แนะนำ นักลงทุนระยะสั้นที่ถือสถานะ Long ปิดทำกำไรบางส่วน และทยอยปิด Long เมื่อถึงเป้าหมายบริเวณ 1,795/1,803 USDต่อออนซ์ ส่วนนักลงทุนที่ปิดสถานะทำกำไรไปแล้ว รออ่อนตัวบริเวณแนวรับ 1,773 / 1,760/ 1,750 เปิด Long โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,795/1,803 USDต่อออนซ์ โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,740 USDต่อออนซ์ กรอบความเคลื่อนไหวของราคาทองคำในสัปดาห์นี้ คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 1,795/1,803 ส่วนแนวรับบริเวณ 1,760 / 1,750 USDต่อออนซ์
- ปัจจัยที่จะมีผลกระทบต่อราคาทองคำ โดยมีปัจจัยบวกได้แก่ ข่าวการแก้ปัญหาหนี้ของกรีซ ซึ่งล่าสุด รมว.คลังยูโรโซนได้อนุมัติเงินช่วยเหลือ 1.3 แสนล้านยูโร ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นจากความตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลและชาติตะวันตก การคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำของเฟด การที่ธนาคารกลางของประเทศต่างๆคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำและอาจมีการอัดฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ โดยล่าสุด จีนมีนโยบายผ่อนคลายนโยบายการเงินลงอีก และการที่ธนาคารกลางยุโรปจะปล่อยกู้แก่ธนาคารพารณิชย์เกือบ 5 แสนล้านยูโรในวันพุธที่ 29 ก.พ. ส่วนประเด็นลบ ได้แก่ การประกาศปรับลดอันดับเครดิตของสถาบันจัดอันดับ โดยล่าสุดฟิทซ์ลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงจาก CCC เป็น C และประเด็นการแก้ปัญหาหนี้ของกรีซยังสร้างความผันผวนให้กับตลาดได้อีก ถ้าตลาดกังวลว่า กรีซต้องเผชิญกับความยากลำบากในการปฎิบัติตามเงื่อนไข และอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นเวลาหลายปี
- ประเด็นที่ต้องติดตาม ได้แก่ ญี่ปุ่นกำลังพิจารณาข้อเสนอการให้เงินกู้ฉุกเฉินแก่ IMF ซึ่ง IMF มีความาจำเป็นต้องระดมทุนอีกประมาณ 5 แสนล้านUSD และการประชุมของรมว.คลัง และผู้ว่าการธนาคารของประเทศกลุ่ม G20 ที่เม็กซิโกในสุดสัปดาห์นี้
- การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันศุกร์ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.พ. ยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค.
- ราคาโลหะเงินปิดที่ 35.56 USDต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.30 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 34.55 — 35.61 ishares silver trust ซื้อโลหะเงินเพิ่มขึ้น 61.95 ตัน รวมถือโลหะเงินจำนวน 9,632.52 ตัน ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 35.0/34.8 แนวต้านบริเวณ 35.6/36.5 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 34.8 — 36.5
- SPDR ซื้อทองคำเพิ่มขึ้น 1.21 ตัน รวมถือทองคำจำนวน 1,282.80 ตัน
Technical Analysis:
++ ราคาทองคำมีแนวรับบริเวณ 1,773/1,760 แนวต้านบริเวณ 1,789/1,795 ภาพรายวัน ทิศทางยังเป็นบวก แม้จะมีการย่อลงมาบ้าง แต่ราคายังสามารถยืนเหนือเส้น MA ทุกเส้น ประกอบกับ Stochastic ยังมีแนวโน้มขึ้นได้ต่อ ดังนั้น หากย่อตัวลงมาไม่ต่ำว่า 1,773/1,760 เป้าหมายอยู่ที่ 1,789/1,795 ซึ่งโซนดังกล่าวนักลงทุนควรใช้ความระมัดระวัง เนื่องจาก เนื่องจากเป็นแนวต้านสำคัญเดิม อาจมีการ Take pofit ในบริเวณดังกล่าว แนะนำ Trading ในกรอบ 1,750 — 1,803 นักลงทุนระยะสั้นที่มีสถานะ Long ปิดทำกำไรบางส่วนและทยอยปิดทำกำไรเมื่อถึงเป้าหมาย 1,795/1,803 ส่วนนักลงทุนที่ไม่มีสถานะรอเปิด Long บริเวณ 1,760 โดยมีจุด stop loss บริเวณ 1,740
++ โลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 35.0/34.8 แนวต้านบริเวณ 35.6/36.5 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 34.8 — 36.5